ทำไม เราชอบใช้เงินเยอะขึ้น เวลารู้สึกเครียด

ทำไม เราชอบใช้เงินเยอะขึ้น เวลารู้สึกเครียด | THE BRIEFCASE
ถ้าสถานการณ์โควิด 19 จบลง เราจะทำอะไรบ้าง ?
ถ้าคำตอบของเรา คือ การใช้จ่ายเงินอย่างมหาศาล ซื้อสินค้าต่าง ๆ หรือไปท่องเที่ยว
เพื่อชดเชยความรู้สึกและช่วงเวลาที่เคยได้ใช้ชีวิตแบบปกติที่เราเสียไป
หรือการที่เราอยู่บ้านนาน ๆ แต่กลับใช้เงินมากขึ้นไปกับของฟุ่มเฟือยโดยไม่มีสาเหตุ
เราอาจเข้าข่ายพฤติกรรมที่เรียกว่า Revenge Spending
แล้ว Revenge Spending คืออะไร ?
Revenge Spending ก็คือ การที่เราใช้จ่ายเงินไปกับการซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ มากกว่าปกติ
เพื่อบรรเทาความเครียด หรือชดเชยกับความรู้สึกและช่วงเวลาที่เราเสียไปในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ
อย่างเช่น จากเหตุการณ์โควิด 19 ที่ทำให้เราต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน อยากทำอะไรก็ไม่ได้ทำ
อยากไปเที่ยวก็ไม่ได้ไป พอสถานการณ์ดีขึ้น เราก็ซื้อสินค้า หรือวางแผนที่จะเตรียมตัวไปเที่ยว ด้วยจำนวนเงินที่มากกว่าปกติ หรือการที่เราอยู่บ้าน แต่กลับซื้อของฟุ่มเฟือยเพื่อบรรเทาความเครียดในช่วงกักตัว
อย่างไรก็ตาม Revenge Spending ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เกิดขึ้นมาในปีโควิดนี้..
เพราะมีมาอย่างน้อยตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1980 ที่ก่อนหน้านี้ประเทศจีนเป็นประเทศที่ตกอยู่ในวิกฤติความยากจน แต่หลังจากที่ประเทศจีนได้มีการปฏิรูปประเทศในด้านต่าง ๆ
ทั้งเปิดประเทศให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน มีการปรับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา
มีเงินทุนไหลเข้ามามหาศาล ความเป็นอยู่ของคนในประเทศเริ่มดีขึ้น
ทำให้เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว มีอิสระในการทำมาค้าขายมากขึ้น คนก็เริ่มจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้นในทันที
ทีนี้เราลองมาดูสถานการณ์ในปัจจุบันกันบ้าง
ตามรายงานของ Bloomberg พบว่า ชาวอเมริกันมีเงินเก็บส่วนเกินถึง 5.6 ล้านล้านบาท
และเงินเก็บส่วนเกินนี้ก็กำลังจะถูกใช้ไปกับการจับจ่ายใช้สอยหลังโควิดจบลง
โดยนักเศรษฐศาสตร์จาก Wells Fargo & Co. มีการคาดการณ์กันว่า
การจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคในครั้งนี้จะมากที่สุดในรอบ 70 ปี
หรือจากผลสำรวจของ Travis Credit Union ที่พบว่า
กว่า 60% ของชาวอเมริกันที่ตอบแบบสอบถามมีการใช้จ่ายเงินไปกับของฟุ่มเฟือยมากขึ้น
ซึ่งก็มีตั้งแต่ 800 บาท ไปจนถึง 2,500 บาทต่อสัปดาห์
ในขณะที่ประเทศจีนที่เศรษฐกิจฟื้นตัวจากโควิดได้ค่อนข้างรวดเร็ว
ก็พบว่ามี Revenge Shopping เกิดขึ้นเช่นกัน
เช่น ในเดือนเมษายน ปี 2020 ที่ผ่านมา แบรนด์ Hermès ในเมืองกว่างโจว ประเทศจีน ได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งหลังจากที่สถานการณ์โควิดในประเทศดีขึ้น ก็สามารถทำยอดขายไปเกือบ 90 ล้านบาทภายในหนึ่งวัน
นั่นก็เป็นเพราะว่า กลุ่มคนที่มีกำลังซื้อและไม่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดในครั้งนี้
ต้องการชดเชยความรู้สึกอัดอั้น ที่ไม่ได้ออกไปไหน ด้วยการช็อปปิง และเมื่อถึงเวลาเปิดเมืองจึงได้ทำการปลดปล่อยความอัดอั้นนั้น ด้วยการออกไปซื้อสินค้าแบรนด์เนมนั่นเอง
ถึงแม้ว่าการใช้จ่ายเงินจำนวนมาก จะสามารถช่วยบรรเทาความเครียดของใครหลาย ๆ คนได้
แต่ก็ควรอยู่ในระดับที่พอดีกับเงินที่เรามีอยู่ เพราะหากเราใช้เงินมากเกินกำลังที่เรามี
แทนที่จะใช้เงินเพื่อคลายเครียดช่วงวิกฤติ อาจกลายเป็นเครียดเพราะไม่มีเงินจะใช้แทนก็ได้..
-----------------------
Sponsored by JCB
JCB แฮปปี้ทุกไลฟ์สไตล์ มากกว่าส่วนลดและสิทธิประโยชน์แต่เป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ในการใช้บัตรเครดิตอย่างคุ้มค่าตลอดทั้งปีกับบัตรเครดิต JCB ที่รวบรวมทั้งร้านอาหารชั้นนำ ปั๊มน้ำมัน ซูเปอร์มาเก็ต แพลตฟอร์มการสั่งอาหาร ส่วนลดการจองที่พัก ร้านค้าชั้นนำอีกมากมายทั้งหน้าร้านและแพลตฟอร์มออนไลน์อีกกว่า 100 ร้านค้า ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ติดตามได้ที่ https://www.facebook.com/JCBCardThailandTH
#JCBThailand #JCBใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา
-----------------------
References:
-https://www.forbes.com/sites/sap/2021/08/13/the-rise-of-the-revenge-economy/?sh=2342b0e77689
-https://www.investopedia.com/what-is-revenge-spending-and-how-to-avoid-it-5185354
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-03-17/retailers-prepare-for-wave-of-shoppers-as-covid-vaccines-rollout
-https://fortune.com/2020/03/12/chinese-luxury-industry-rebounds-coronavirus-revenge-spending/
-https://www.seattletimes.com/business/avoid-the-retribution-that-comes-from-revenge-spending/