Wall’s จากร้านขายเนื้อ สู่ไอศกรีมที่ขายดีสุดในโลก

Wall’s จากร้านขายเนื้อ สู่ไอศกรีมที่ขายดีสุดในโลก

21 ก.ย. 2021
Wall’s จากร้านขายเนื้อ สู่ไอศกรีมที่ขายดีสุดในโลก /โดย ลงทุนแมน
ถ้าถามว่า ของว่างประเภทไหนที่เหมาะกับ เมืองร้อนอย่างประเทศไทยบ้าง
คำตอบของหลายคนต้องมี “ไอศกรีม” รวมอยู่ด้วย
ซึ่งในประเทศไทยก็มีแบรนด์ไอศกรีมชื่อดังต่าง ๆ มากมาย หนึ่งในนั้นคือ ไอศกรีม Wall’s
รู้ไหมว่า จุดเริ่มต้นของ Wall’s ไม่ได้มาจากการขายไอศกรีมตั้งแต่แรก
ความเป็นมาของไอศกรีม Wall’s ที่หลายคนชื่นชอบ เป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
จุดเริ่มต้นของไอศกรีม Wall’s ต้องย้อนกลับไปในปี 1786 เมื่อคุณ Richard Wall ที่ในตอนนั้นเขาได้เปิด ร้านขายเนื้อ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
กิจการร้านขายเนื้อของตระกูล Wall ดำเนินกิจการมาจากรุ่นสู่รุ่น จนมาในปี 1913 หลานชายของคุณ Richard Wall เข้ามาบริหารต่อ และได้มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดขึ้น
การเปลี่ยนแปลงที่ว่า ตั้งต้นมาจากปัญหาหนึ่งที่กิจการร้านขายเนื้อของตระกูล Wall เจอมานาน
คือพอถึงช่วงฤดูร้อนของทุกปี ความต้องการไส้กรอก พาย และเนื้อ ซึ่งเป็นสินค้าหลักของร้านจะลดลง ทำให้เขาต้องลดจำนวนพนักงานในช่วงฤดูร้อนลงแทบทุกปี
พอเรื่องเป็นแบบนี้ คุณ Richard Wall II จึงพยายามหาทางช่วยให้พนักงานของเขามีงานทำในช่วงเวลาดังกล่าว รวมทั้งเพิ่มยอดขายให้แก่ร้านในช่วงฤดูร้อนไปในเวลาเดียวกัน
เขารู้ว่า ไส้กรอก พาย และเนื้อ ไม่ใช่สินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าในช่วงเวลาดังกล่าว และสิ่งที่เหมาะที่สุด ที่จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกสดชื่นในช่วงฤดูร้อน จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก “ไอศกรีม”
แต่ความคิดนี้ต้องถูกพับลงไปก่อน เนื่องจากช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาของสงครามโลกครั้งที่ 1 จนเมื่อสงครามนั้นสิ้นสุดลง เขาจึงได้เริ่มนำไอศกรีมมาไว้ในเมนูของร้านเขา
รวมไปถึงเริ่มการใช้ม้าและเกวียน นำไอศกรีมไปขายตามท้องถนน จากนั้นก็เปลี่ยนมาใช้รถสามล้อ
ต่อมาในปี 1922 ธุรกิจไอศกรีม Wall’s ของเขา ได้ถูกซื้อกิจการไปโดย 2 บริษัท
คือ Lever Brothers ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจสบู่ในอังกฤษ และ Margarine Unie ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจอาหารของเนเธอร์แลนด์
หลังจากนั้น ความนิยมของไอศกรีม Wall’s ก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
จนต้องเพิ่มจำนวนรถสามล้อเพื่อขายไอศกรีมบนท้องถนนในสหราชอาณาจักร จากช่วงเริ่มต้นในปี 1922 ที่มีประมาณหลัก 10 คัน มาเป็นกว่า 8,500 คันในปี 1939
ตัดภาพมาที่ปัจจุบัน ไอศกรีม Wall’s มีขายในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก โดยในแต่ละประเทศก็จะใช้ชื่อในการทำตลาดที่แตกต่างกัน เช่น
- ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ใช้ชื่อว่า “Good Humor”
- ในเยอรมนี ใช้ชื่อว่า “Langnese”
- ในอังกฤษ ไทย ญี่ปุ่น จีน อินเดีย เวียดนาม สิงคโปร์ ลาว และอีกหลายประเทศในเอเชีย ใช้ชื่อว่า “Wall’s”
แต่ไม่ว่าจะใช้ชื่ออะไร จุดสังเกตที่เห็นได้ชัดก็คือ จะมีโลโกรูปหัวใจสีแดงในตำนานของ Wall’s อยู่ด้วยเสมอ
โดยปัจจุบัน Wall’s เป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจของ Unilever บริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ของโลก
ซึ่ง Unilever ก็เกิดมาจาก การควบรวมระหว่าง Lever Brothers และ Margarine Unie ที่เป็นสองบริษัทเจ้าของไอศกรีม Wall’s ก่อนหน้านี้ นั่นเอง
อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ
ข้อมูลจากสถาบันวิจัยตลาด Euromonitor ในปี 2020 ระบุว่า ธุรกิจไอศกรีมของ Unilever ครองส่วนแบ่งตลาดในธุรกิจไอศกรีมเป็นอันดับ 1 ของโลก โดยมีส่วนแบ่งตลาดยอดขายประมาณ 19%
ในส่วนของประเทศไทยนั้น Wall’s เข้ามาทำตลาดช่วงแรกในปี 1989 หรือปี พ.ศ. 2532 โดยมีการลงทุนสร้างโรงงานผลิตไอศกรีมในไทย
เพราะมองว่า ตลาดไอศกรีมของไทยในตอนนั้นยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก เมืองไทยเป็นเมืองที่ค่อนข้างร้อน และอัตราการบริโภคไอศกรีมของคนไทยในตอนนั้น ก็ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าหลายประเทศในเอเชีย
Wall’s เริ่มทำการพัฒนาสูตรไอศกรีม ช่องทางการขาย การโฆษณา ให้เหมาะกับพฤติกรรมการบริโภคของคนไทย
รวมไปถึงการที่ Wall’s พยายามสร้างฐานลูกค้าไอศกรีม ให้หลากหลาย
มีการเจาะกลุ่มลูกค้าวัยเริ่มทำงานหรือกระทั่งกลุ่มผู้ใหญ่มากขึ้น
เช่น มีการสร้างซับแบรนด์อย่าง Magnum ที่เจาะกลุ่มคนชอบไอศกรีมระดับพรีเมียม
โดยข้อมูลจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ในปี พ.ศ. 2560 ระบุว่า Wall’s เป็นแบรนด์ที่มีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 50% ในตลาดไอศกรีมของประเทศไทยเลยทีเดียว
จากจุดเริ่มต้นของร้านขายเนื้อในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ของคุณ Richard Wall เมื่อเกือบร้อยปีที่แล้ว และความคิดเพียงแค่ต้องการที่จะช่วยเหลือพนักงานในร้านให้มีงานทำในช่วงฤดูร้อน จนนำไปสู่การทำเมนูไอศกรีม จนกลายเป็นแบรนด์ไอศกรีมที่มียอดขายมากที่สุด ในวันนี้..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://edition.cnn.com/2020/11/14/business/unilever-ice-cream/index.html
-https://en.wikipedia.org/wiki/Wall%27s_(ice_cream)
-https://finance.yahoo.com/quote/UL/
-https://edition.cnn.com/2020/11/14/business/unilever-ice-cream/index.html
-https://e-journal.dip.go.th/dip/images/ejournal/8d790e74b422cafb81549dced75b6ad1.pdf
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.