
ทำไม ผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter "ไม่เชื่อ" ในการทำงาน แบบบ้าคลั่ง
22 ก.ย. 2021
ทำไม ผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter "ไม่เชื่อ" ในการทำงาน แบบบ้าคลั่ง | THE BRIEFCASE
รู้หรือไม่ ? แจ็ก ดอร์ซีย์ ผู้ร่วมก่อตั้งคนสำคัญของ Twitter จะใช้เวลา 1 ชั่วโมง ในทุก ๆ วัน เพื่อให้เวลาตัวเองทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมา
และเขามักจะจดบันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเอง มาตั้งแต่อายุ 14 ปี
และเขามักจะจดบันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเอง มาตั้งแต่อายุ 14 ปี
ในช่วงที่เขาทำงาน เขาเลือกที่จะเดินไปออฟฟิศ ที่ห่างจากที่พักของเขาราว ๆ 8 กิโลเมตร แทนการนั่งรถหรู เพราะนอกจากจะทำให้เขามีเวลาทบทวนสิ่งต่าง ๆ ในแต่ละวันแล้ว ยังถือเป็นการได้ออกกำลังกายไปในตัวอีกด้วย
และถึงแม้ในช่วงโควิด 19 เขาจะไม่ได้เดินทางไปทำงานที่ออฟฟิศเท่าไร
แต่เขาก็จะตื่นตี 5 เพื่อมานั่งสมาธิ สังเกตและทำความเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเขาเอง
ซึ่งไม่ว่างานจะเยอะแค่ไหน เขาจะต้องมีเวลาสำคัญของตัวเองในการทำสิ่งเหล่านี้
เพราะมันจะช่วยทำให้เขา ทำงานโดยใช้เวลาน้อยลง แต่ได้ผลลัพธ์มากขึ้น
แต่เขาก็จะตื่นตี 5 เพื่อมานั่งสมาธิ สังเกตและทำความเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเขาเอง
ซึ่งไม่ว่างานจะเยอะแค่ไหน เขาจะต้องมีเวลาสำคัญของตัวเองในการทำสิ่งเหล่านี้
เพราะมันจะช่วยทำให้เขา ทำงานโดยใช้เวลาน้อยลง แต่ได้ผลลัพธ์มากขึ้น
ทำไม แจ็ก ดอร์ซีย์ ถึงให้ความสำคัญ กับการทบทวนตัวเองขนาดนี้
และมันส่งผลต่อคุณภาพการทำงานได้อย่างไร ?
THE BRIEFCASE จะสรุปให้ฟัง..
และมันส่งผลต่อคุณภาพการทำงานได้อย่างไร ?
THE BRIEFCASE จะสรุปให้ฟัง..
แจ็ก ดอร์ซีย์ มองว่า ผู้คนในยุคนี้ เข้มงวดเกินไปที่จะต้องทำงานตลอดทั้งวัน จนทำให้ละเลยการตระหนักรู้เกี่ยวกับตนเอง และละเลยการใส่ใจกับสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ตัวเองไป
เขามองว่า ความสามารถในการตระหนักรู้ตัวเอง ถือเป็นเรื่องที่ตัวเขาให้ความสำคัญมาก ๆ และเมื่อเขาได้ทบทวนตัวเองสำเร็จ เขาจะถือว่านี่เป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่สำหรับตัวเขา
เพราะการให้เวลาทบทวนตัวเอง มันจะทำให้ตัวเขารู้สึกสงบ มีสติทั้งในการทำงาน การประชุม และการวางแผนอนาคตของชีวิตและองค์กร ได้อย่างถูกทิศทาง และเพื่อให้ตัวเองได้ใช้เวลาในการทำงาน ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้จริง ๆ
เขาได้พูดในพอดแคสต์ The Boardroom: Out of Office Podcast ว่า
“ผมอยากทำให้ทุก ๆ ชั่วโมง ทุก ๆ นาที มีความหมาย มากกว่าที่จะเพิ่มจำนวนชั่วโมง หรือนาทีที่ผมต้องทำงาน เพราะผมเพิ่งพบว่า การเพิ่มเวลาทำงานให้มากที่สุดนั้น กลับทำให้คุณภาพหายไป”
“ผมอยากทำให้ทุก ๆ ชั่วโมง ทุก ๆ นาที มีความหมาย มากกว่าที่จะเพิ่มจำนวนชั่วโมง หรือนาทีที่ผมต้องทำงาน เพราะผมเพิ่งพบว่า การเพิ่มเวลาทำงานให้มากที่สุดนั้น กลับทำให้คุณภาพหายไป”
เมื่อเขาได้ทบทวนตัวเองบ่อย ๆ เขาจะรู้ว่าอะไรบ้าง คือสิ่งที่รบกวนการทำงาน เขาก็จะกำจัดสิ่งรบกวนเหล่านั้นทั้งหมด ส่งผลให้การทำงานเพียงแค่ 1 ชั่วโมงของเขา ได้ประสิทธิภาพเทียบเท่ากับการทำงาน 3 ชั่วโมง
และเขายังกล่าวอีกว่า คุณสามารถทำให้ช่วงเวลานี้สนุก และปรับให้มันยืดหยุ่นได้
ถ้าคุณเข้าใจวิธี ที่จะโฟกัสกับมันได้จริง ๆ
ถ้าคุณเข้าใจวิธี ที่จะโฟกัสกับมันได้จริง ๆ
ตัวอย่างเช่น
แจ็ก ดอร์ซีย์ เลือกที่จะกินอาหารแค่มื้อเย็นเท่านั้น เพื่อที่จะได้ไม่ถูกมื้อเช้าหรือมื้อกลางวัน ขัดจังหวะช่วงเวลาที่ตัวเขามีสมาธิมากที่สุด (ซึ่งเคล็ดลับนี้อาจจะสุดโต่ง และอาจไม่เหมาะกับคนทั่วไป)
เพราะเขาค้นพบว่า ช่วงเวลาที่เขาอดอาหารนั้น เป็นช่วงที่เขามีความสามารถในการโฟกัส และสามารถทำเรื่องต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ทำให้เขาใช้ช่วงเวลานั้นไปกับการทำงาน
แจ็ก ดอร์ซีย์ จะอุทิศเวลาให้กับ Twitter ในตอนเช้า และให้เวลากับ Square ในตอนบ่ายและตอนเย็น
หลังจากช่วงท้ายของวัน ตัวเขาก็จะกลับบ้านไปทำอาหารเย็น และพักผ่อน พร้อมกับกลับมานั่งจดบันทึกว่า “วันนี้ฉันเรียนรู้อะไรมาบ้าง ?” และการมีกิจวัตรที่ได้ทบทวนตัวเอง จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับเขาได้มากขึ้นด้วย
เพราะแม้เมื่อวานจะเป็นวันที่มีอุปสรรค เต็มไปด้วยความยากลำบาก
แต่เมื่อเขาได้ทบทวนตัวเอง เขาก็จะรู้สึกว่า ตัวเขาในเมื่อวานนั้นทำดีที่สุดแล้ว
แถมยังมีตัวฉัน ในอีกวัน ที่จะทำมันให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้
แต่เมื่อเขาได้ทบทวนตัวเอง เขาก็จะรู้สึกว่า ตัวเขาในเมื่อวานนั้นทำดีที่สุดแล้ว
แถมยังมีตัวฉัน ในอีกวัน ที่จะทำมันให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้
หากก้มหน้าก้มตาทำงานให้หนัก จนไม่มีเวลาทบทวนสิ่งที่ผ่านมา
เราอาจจะละเลยปัญหาเล็ก ๆ หรือเราอาจจะกำลังหลงทาง จากเป้าหมายของตัวเอง
ทำให้สิ่งที่ทำมาอย่างหนัก อาจจะไม่มีความหมาย เลยก็ได้..
เราอาจจะละเลยปัญหาเล็ก ๆ หรือเราอาจจะกำลังหลงทาง จากเป้าหมายของตัวเอง
ทำให้สิ่งที่ทำมาอย่างหนัก อาจจะไม่มีความหมาย เลยก็ได้..
ผู้ประกอบการหลายคน มักจะคิดว่า หากอยากประสบความสำเร็จในชีวิต
ก็ต้องทำงานอย่างหนัก หรือทำงาน โดยไม่หยุดเลยสักวัน
แต่สำหรับแจ็ก ดอร์ซีย์ แล้ว ทัศนคติเหล่านี้ นำไปสู่ความเหนื่อยล้าเสียมากกว่า
ก็ต้องทำงานอย่างหนัก หรือทำงาน โดยไม่หยุดเลยสักวัน
แต่สำหรับแจ็ก ดอร์ซีย์ แล้ว ทัศนคติเหล่านี้ นำไปสู่ความเหนื่อยล้าเสียมากกว่า
ซึ่งเขาก็ได้พูดในพอดแคสต์ไว้ด้วยว่า
เขาไม่เห็นด้วยกับแนวคิดการทำงาน วันละ 20 ชั่วโมง แบบที่ “อีลอน มัสก์” เคยทำ..
เขาไม่เห็นด้วยกับแนวคิดการทำงาน วันละ 20 ชั่วโมง แบบที่ “อีลอน มัสก์” เคยทำ..