กรณีศึกษา NER ธุรกิจยางพารา หมื่นล้าน ในภาคอีสาน

กรณีศึกษา NER ธุรกิจยางพารา หมื่นล้าน ในภาคอีสาน

9 ธ.ค. 2021
กรณีศึกษา NER ธุรกิจยางพารา หมื่นล้าน ในภาคอีสาน /โดย ลงทุนแมน
รู้หรือไม่ว่าแหล่งผลิตยางพาราคุณภาพของประเทศไทยนั้น
นอกจากพื้นที่ภาคใต้ และภาคตะวันออกแล้ว
ยังมีอีกพื้นที่หนึ่งที่เกษตรกรนิยมปลูกยางพารา และสามารถผลิตน้ำยางที่มีคุณภาพไม่แพ้ที่อื่น ๆ นั่นคือ พื้นที่ภาคอีสานตอนใต้ ซึ่งกินพื้นที่กว่า 4 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์, สุรินทร์, ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

วันนี้ เราจะมาเล่าถึงบริษัทหนึ่งในตลาดหุ้นไทย ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับยางพาราในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ชื่อว่าบริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER
NER ทำธุรกิจอะไรบ้าง และเติบโตมาไกลแค่ไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 2 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
NER ก่อตั้งโดย คุณชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์
เดิมทีครอบครัวคุณชูวิทย์ประกอบอาชีพทำลานมันเส้นที่จังหวัดบุรีรัมย์
จนเมื่อปี พ.ศ. 2527 คุณพ่อของคุณชูวิทย์ได้ริเริ่มการปลูกยางพาราในพื้นที่อีสานใต้
ทำให้เกษตรกรในภาคอีสาน เริ่มสนใจและหันมาปลูกยางพาราเพื่อสร้างรายได้

แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น ณ เวลานั้นก็คือ ที่ภาคอีสานนั้น “ไม่มีสถานที่รับซื้อยางพารา”
คุณชูวิทย์และเกษตรกรคนอื่น ๆ ต้องนำผลผลิตยางพาราที่ได้มาไปขายที่จังหวัดระยอง
ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงและโดนกดราคา

แต่ปัญหาดังกล่าวก็ได้ทำให้คุณชูวิทย์เห็นถึงโอกาสทางธุรกิจ โดยเขาได้ตัดสินใจตั้งโรงงานแปรรูปยางพาราขึ้นมาชื่อว่า “นอร์ทอีส รับเบอร์” หรือ NER ในปี พ.ศ. 2549
โดยเริ่มจากการรับซื้อยางจากเกษตรกรในบริเวณใกล้เคียงและนำมาแปรรูปเป็นยางแผ่นรมควันขายให้กับคู่ค้าทั่วประเทศ

แต่ในช่วงแรกของการทำธุรกิจนั้น บริษัทได้เจอวิกฤติครั้งใหญ่
จากการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยที่ไม่สต็อกของไว้ในมือ
เมื่อราคาของยางพาราวิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทำให้บริษัทไม่มีเงินพอไปซื้อของมาขายตามที่สัญญาไว้ได้

ตอนนั้นคุณชูวิทย์มีทางเลือกอยู่สองทาง
หนึ่งคือ การไม่ทำตามสัญญาแล้วออกจากธุรกิจนี้ไป
สองคือ การไปเจรจากับคู่ค้าโดยตรง
คุณชูวิทย์ตัดสินใจบินไปหาคู่ค้าที่สิงคโปร์ด้วยตัวเองและชี้แจงความผิดพลาดที่เกิดขึ้น โดยขอผ่อนชำระหนี้ในระยะยาวกับคู่ค้าแทน
ซึ่งคู่ค้าก็เห็นด้วย เนื่องจากเป็นการแจ้งล่วงหน้า 3 เดือน ทำให้มีเวลาในการปรับตัว
และยังสามารถเป็นคู่ค้ากันต่อไปได้

ผลจากวิกฤติครั้งนี้ทำให้บริษัทเรียนรู้ข้อผิดพลาด
และเปลี่ยนวิธีทำธุรกิจโดยการไม่ยุ่งกับตลาดซื้อขายล่วงหน้าอีก
แต่ใช้วิธี “Matching” คือ ซื้อเข้ามาแล้วขายออกเลย
หรือรับออร์เดอร์ขายเข้ามาก่อน แล้วค่อยซื้อเข้ามาเก็บไว้
ทำให้บริษัทไม่ต้องรับความเสี่ยงเรื่องความผันผวนของต้นทุนสินค้าอีกต่อไป
จุดนี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้บริษัทสามารถสร้างรายได้สม่ำเสมอในระยะยาว
แม้ว่าวัตถุดิบอย่างยางพาราจะเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ตัวหนึ่งที่มีวัฏจักรราคาหรือรอบของมันก็ตาม
เมื่อบริษัทมีความมั่นคงและเป็นที่รู้จักมากขึ้น
สามารถขยายโรงงานเพิ่มกำลังการผลิต
และออกสินค้าตัวอื่น ๆ เพิ่มขึ้นมา
อย่างยางอัดแท่ง และยางผสม
ซึ่งเป็นที่ต้องการของทั้งตลาดภายในประเทศ และต่างประเทศ

ปัจจุบันรายได้หลักของ NER มาจากสินค้าหลัก 3 ตัว คือ
- ยางแผ่นรมควัน (RSS) 20%
- ยางอัดแท่ง (STR) 40%
- ยางผสม (Mixtures Rubber) 40%
หากแบ่งรายได้ตามภูมิศาสตร์แล้ว จะมาจากภายในประเทศ 65% ต่างประเทศ 35%
โดยลูกค้าของบริษัทมีสองกลุ่มหลัก ได้แก่
- ผู้ค้าคนกลาง
ทำหน้าที่รวบรวมวัตถุดิบทีละมาก ๆ และนำส่งกระจายไปยังผู้ผลิตต่าง ๆ
ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ อย่างประเทศจีน, ญี่ปุ่น, อินเดีย, ฮ่องกง และสิงคโปร์
- ผู้ผลิต
ลูกค้ากลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตล้อรถยนต์ และชิ้นส่วนรถยนต์ เช่น Bridgestone หนึ่งในผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลก, Toyo Tires และ Linglong Tire บริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์จากจีน
แล้วผลประกอบการของ NER เป็นอย่างไรบ้างในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ?
รายได้และกำไรของ บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน)
ปี 2561 รายได้ 10,074 ล้านบาท กำไร 486 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 13,021 ล้านบาท กำไร 539 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 16,364 ล้านบาท กำไร 859 ล้านบาท
รายได้เติบโต 62% ขณะที่กำไรเติบโต 76% ในช่วงเวลา 2 ปี
ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่ากว่า 12,000 ล้านบาท และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
ปัจจัยหลักที่ทำให้รายได้ของ NER เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว มาจากการปรับปรุงเครื่องจักรและสร้างโรงงานแห่งที่สองในบริเวณเดียวกัน
ทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากเดิม 232,800 ตันต่อปี เพิ่มขึ้นเป็น 465,600 ตันต่อปี หรือสองเท่าของกำลังการผลิตเดิม

นอกจากนี้ยังควบคุมต้นทุนการใช้พลังงานของบริษัท
ด้วยการสร้างโรงผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ โดยใช้พืชพลังงาน, วัสดุเหลือใช้ และน้ำเสียภายในโรงงานในการผลิตไฟฟ้า รวมถึงการติดตั้ง Solar Roof บนหลังคาโรงงาน จึงทำให้บริษัทมีอัตรากำไรที่สูงมากขึ้น
ในอนาคต NER กำลังขยายไปสู่ธุรกิจปลายน้ำ บริษัทได้ลงทุนวิจัยผลิตภัณฑ์จากยางพาราเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และกำลังจะเปิดตัวสินค้าตัวแรก คือ แผ่นรองนอนปศุสัตว์ ในต้นปีหน้า
และนี่ก็คือธุรกิจทั้งหมดของ NER บริษัทยางพารามูลค่าหมื่นล้านที่อยู่ในภาคอีสาน ซึ่งหลายคนอาจยังไม่เคยรู้ นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 2 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.youtube.com/watch?v=I5XPwIeg0-Q
-https://www.nerubber.com/investor-relations-backup
-https://techsauce.co/corp-innov/special-interview-ceo-north-east-rubber
-https://forbesthailand.com/people/entrepreneurs/%E0%B8%8A%E0%B8%B9%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%8C-%E0%B8%88%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%98%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B8%B9%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C-ner-%E0%B9%80%E0%B8%A3.html
-https://www.finnomena.com/stock/NER
-https://www.set.or.th/set/companyprofile.do?symbol=NER&ssoPageId=4&language=th&country=TH
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.