Minimalist แบรนด์สกินแคร์อินเดีย เกิดเพียง 4 ปี ขายกิจการให้ Unilever หมื่นล้าน /โดย ลงทุนแมน
ท่าประจำของธุรกิจสกินแคร์ คือการจ้างคนดัง ดารา หรืออินฟลูเอนเซอร์ มาช่วยโปรโมตสินค้าให้กับแบรนด์

ยิ่งมีชื่อเสียงหรือคาแรกเตอร์น่าชื่นชมเท่าไร ภาพลักษณ์ของแบรนด์ก็ยิ่งโดดเด่นขึ้นเท่านั้น ซึ่งกลยุทธ์นี้ แทบทั้งโลก ไม่ว่าแบรนด์เล็กหรือใหญ่ ต่างก็ใช้กัน

แต่ในอินเดีย มีแบรนด์สกินแคร์น้องใหม่ จากเมืองชัยปุระ ที่ชื่อว่า Minimalist เลือกจะแจ้งเกิดโดยไม่ได้จ้างดาราคนดังมาช่วยโปรโมต และไม่มีแคมเปญโฆษณายิ่งใหญ่

แต่กลับกลายเป็นแบรนด์ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด และล่าสุดถูกยักษ์ใหญ่ระดับประเทศอย่าง Hindustan Unilever บริษัทผู้ผลิต และจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ที่สุดในอินเดีย ซึ่งอยู่ในเครือของ Unilever

ได้เข้าซื้อกิจการด้วยมูลค่ากว่า 10,280 ล้านบาท

แล้วแบรนด์นี้มีดีอะไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ปี 2020 อินเดียอยู่ในช่วงล็อกดาวน์ ทั้งเมืองชัยปุระ มีแต่ความเงียบเหงา

แต่สองพี่น้องตระกูลยาดาฟ คุณโมหิต และคุณราหุล กำลังเปิดบทใหม่ของชีวิต ที่จะเปลี่ยนวงการสกินแคร์ของอินเดียไปตลอดกาล

คุณโมหิต กับคุณราหุล ยาดาฟ ไม่ใช่หน้าใหม่ในวงการธุรกิจ เพราะว่าพวกเขามีประสบการณ์อย่างโชกโชนในการทำธุรกิจมาแล้ว

อย่างในปี 2008 พวกเขาก่อตั้งธุรกิจขายเสื้อยืดออนไลน์ชื่อ Scopial Fashions ซึ่งเริ่มตั้งแต่ยุคที่อีคอมเมิร์ซในอินเดียยังแทบไม่มีใครพูดถึง

หลังจากนั้นธุรกิจได้พัฒนามาเป็น Mango Street แพลตฟอร์มแฟชั่นสำหรับเด็ก และในปี 2012 พวกเขาก็ขายกิจการให้ HushBabies แบรนด์สินค้าสำหรับเด็ก รายใหญ่ในอินเดีย

ต่อมา พี่น้องคู่นี้ยังคงเดินหน้าต่อ โดยไปทำงานกับ CarDekho สตาร์ตอัปชื่อดังด้านยานยนต์ หรือแม้กระทั่งเปิดแบรนด์แชมพู ที่ปรับสูตรให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ภายใต้ชื่อ Freewill ซึ่งพวกเขาระดมทุนได้เกือบ 379 ล้านบาท

แต่หลังจากดำเนินงานได้ 2 ปี พวกเขาก็เจอปัญหาในการขยายธุรกิจ ทำให้มองหาธุรกิจใหม่ ๆ

จนกระทั่งในเดือนตุลาคม ปี 2020 พวกเขาโพสต์อินสตาแกรมแบรนด์ใหม่ที่ชื่อว่า Minimalist แบรนด์สกินแคร์ โดยมีสินค้าทดลองแค่ 1,000 ขวด
แต่ภายใน 2 วัน ของทั้งหมดก็ถูกสั่งซื้อจนเกลี้ยงหมดทุกขวด

เนื่องจากในโลกที่แบรนด์เครื่องสำอางต่างพากันแข่งขันกันด้วยการจ้างดาราดัง และคำโฆษณาหรูหรา แต่ Minimalist กลับเลือกทำสิ่งที่แตกต่าง

พวกเขาเลือกที่จะซื่อสัตย์และสื่อสารอย่างตรงไปตรงมากับลูกค้า โดยการแปะชื่อส่วนผสมของผลิตภัณฑ์บนหน้าขวดอย่างเปิดเผย

ขณะที่แบรนด์อื่นทุ่มงบมหาศาลไปกับการจ้างอินฟลูเอนเซอร์และเซเลบชื่อดัง

Minimalist กลับเชื่อใจฐานลูกค้าที่ชื่นชอบสินค้า และบอกต่อกันแบบปากต่อปาก

ภาพนี้ทำให้ Minimalist กลายเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าวางใจ และพูดถึงอย่างกว้างขวาง

ผลลัพธ์คือ ในเวลาเพียง 8 เดือน Minimalist มีรายได้ทะลุ 379 ล้านบาท

คุณโมหิต และคุณราหุล มองเห็นว่าตลาดสกินแคร์ของอินเดีย มีการเติบโต แต่ยังขาดนวัตกรรมและความโปร่งใส แบรนด์ใหญ่ยังทำสินค้าทั่วไป อ้างสรรพคุณมากมาย และเน้นจ้างดารามาเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณา โดยไม่เจาะลูกค้าเฉพาะกลุ่ม

ทำให้คุณโมหิต และคุณราหุล เห็นช่องว่างนี้ จึงสร้าง Minimalist บน 2 หลักการ คือ

1) ความโปร่งใสในส่วนผสม ข้อมูลวิจัยที่สามารถตรวจสอบได้

2) มีสินค้าน้อยชิ้น แต่เน้นสินค้าหลักที่ช่วยแก้ปัญหาเฉพาะอย่างชัดเจน

Minimalist มีห้องทดลองเอง ผลิตสินค้าเอง จ้างนักวิทยาศาสตร์ผิวหนังจาก L'Oréal และ Estée Lauder มาร่วมทีม ทำให้บริษัทควบคุมคุณภาพส่วนผสม และต้นทุนได้ดี

เนื่องจาก Minimalist เป็นแบรนด์ที่เน้นราคาย่อมเยา พร้อมความคุ้มค่าสูง ทำให้เหมาะกับคนทุกกลุ่มที่ต้องการดูแลผิวอย่างง่าย ๆ และไม่หนักกระเป๋า

ด้วยโมเดลนี้ทำให้แบรนด์ Minimalist มีอัตราการซื้อซ้ำ (Repeat Rate) สูงถึง 60% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมที่มีอัตราการซื้อซ้ำ 16-22%

ซึ่งในปี 2024 Minimalist เติบโตจนมีรายได้แตะ 1,318 ล้านบาท
ส่วนด้านกำไรสุทธิของบริษัท เพิ่มขึ้นเป็น 41 ล้านบาท จากปี 2023 ที่ 18 ล้านบาท

ทำให้ในต้นปี 2025 ยักษ์ใหญ่ FMCG อย่าง Hindustan Unilever (HUL) ตัดสินใจเข้าซื้อหุ้น 90.5% ของ Minimalist ด้วยเงินสดกว่า 10,280 ล้านบาท

กลายเป็นหนึ่งในดีลที่ใหญ่ที่สุดของแบรนด์ความงามสาย D2C (Direct to Consumer) หรือแบรนด์ที่ขายตรงถึงผู้บริโภคโดยไม่ผ่านตัวกลางในอินเดีย

ซึ่งสองพี่น้องยาดาฟ ยังคงถือหุ้นกว่า 9.5% และยังเป็นผู้บริหารบริษัทอยู่ต่อไปอย่างเต็มตัว

โดย Minimalist วางแผนจะขยายไปยังยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงขยายสาขา มากกว่า 100 แห่งในอินเดีย ภายใน 2 ปีข้างหน้า

ก็น่าติดตามว่าในอนาคตแบรนด์ Minimalist จะเติบโตได้อย่างยั่งยืนหรือไม่ เนื่องจากในอุตสาหกรรมความงามนั้น มีการแข่งขันที่รุนแรง และมีผู้เล่นหน้าใหม่ที่เข้ามาพยายามท้าทายอยู่เสมอ

แต่สุดท้าย..
สิ่งที่แบรนด์นี้ทำได้สำเร็จ คือการเปลี่ยนวิธีที่คนอินเดียมองสกินแคร์

จากการเชื่อคำโฆษณา ไปสู่การรู้ว่า ในขวดนี้มีอะไรจริง ๆ

มันคือการยอมรับว่า ผู้บริโภคฉลาดพอที่จะเข้าใจส่วนผสม และคู่ควรกับความซื่อสัตย์ ไม่ใช่เพียงภาพสวย ๆ บนโฆษณา

เพราะในโลกที่เต็มไปด้วยการตลาด และคำพูดเกินจริง

ความเรียบง่าย และจริงใจ
อาจเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ และมองหาจากแบรนด์ มากที่สุด..
╔═══════════╗
ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.purshology.com/2025/05/how-minimalist-conquered-indias-d2c-beauty-market-business-case-study/
-https://www.linkedin.com/pulse/how-did-two-brothers-turn-simple-skincare-idea-3000-crore-srivastava-i950c
-https://www.storyboard18.com/brand-makers/from-jaipur-to-jackpot-how-two-brothers-turned-skincare-into-a-rs-2955-crore-prize-54388.htm
-https://www.moneycontrol.com/news/business/startup/if-hul-does-anything-with-minimalist-s-product-or-transparency-then-the-brand-will-lose-its-ethos-co-founder-mohit-yadav-12966197.html#goog_rewarded
-https://entrackr.com/2024/09/d2c-brand-minimalist-posts-rs-350-cr-revenue-in-fy24-profits-double/
-https://economictimes.indiatimes.com/industry/cons-products/fmcg/hul-acquires-majority-stake-in-minimalist-parent-co-uprising-science-for-rs-2706-crore/articleshow/120491096.cms?from=mdr