ทำไม MR. D.I.Y. ยังเติบโตในไทย แม้ในช่วงวิกฤติ

ทำไม MR. D.I.Y. ยังเติบโตในไทย แม้ในช่วงวิกฤติ | THE BRIEFCASE
ปัจจุบัน การชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศไทย ประกอบกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังไม่ฟื้นตัวกลับไปสู่ช่วงก่อนเกิดวิกฤติโควิด 19 ทำให้หลายธุรกิจชะลอการลงทุนออกไปก่อน
แต่ในช่วงเวลาแบบนี้ กลับยังมีอีกหนึ่งบริษัทที่เร่งขยายสาขาในประเทศไทย เพราะยังมองเห็นโอกาสและศักยภาพในการเติบโต ของตลาดสินค้าตกแต่งบ้าน บริษัทนี้มีชื่อว่า “MR. D.I.Y.”
ทำไม MR. D.I.Y. ยังตั้งใจจะขยายสาขาในประเทศไทย ที่สำคัญบริษัทจะทำอย่างไรช่วงที่กำลังซื้อของผู้บริโภคยังอ่อนแอ
THE BRIEFCASE จะสรุปให้ฟัง
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ MR. D.I.Y. กันก่อนว่า มีความเป็นมาอย่างไร
MR. D.I.Y. คือ ผู้ค้าปลีกสินค้าตกแต่ง และซ่อมแซมบ้านรายใหญ่ โดยเปิดสาขาแรกที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ในปี 2548
นอกจากในมาเลเซียแล้วนั้น ปัจจุบัน สาขาของ MR. D.I.Y. มีอยู่ในหลายประเทศ เช่น สิงคโปร์, ไทย, บรูไน, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, กัมพูชา, ตุรกี และสเปน
ทำให้บริษัทมีสาขารวมกันกว่า 1,800 สาขาทั่วโลก และมีสินค้าให้เลือกมากมายหลายชนิด กว่า 18,000 รายการ โดยกลยุทธ์ของบริษัทคือ “เน้นขายสินค้าในราคาที่เหมาะสม จับต้องได้”
สำหรับในประเทศไทยนั้น MR. D.I.Y. เข้ามาเปิดสาขาแรกในปี 2559 ที่ซีคอนบางแค ปัจจุบัน มีสาขาในประเทศไทยจำนวน 400 สาขา ครอบคลุม 70 จังหวัดในประเทศไทย โดยรูปแบบของสาขานั้น มีทั้งแบบ Stand Alone หรือสาขานอกห้างสรรพสินค้า และสาขาที่ตั้งในห้างสรรพสินค้า
ซึ่งต้องบอกว่าจำนวนสาขาของ MR. D.I.Y. ในประเทศไทยนั้น มีจำนวนสาขามากที่สุด รองจากประเทศมาเลเซียที่มีประมาณ 800 สาขา ตรงนี้สะท้อนให้เห็นว่า บริษัทให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจในประเทศไทยพอสมควร
แม้ว่าเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวช้า กำลังซื้อของผู้บริโภคยังอ่อนแอ ประกอบกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 อย่างต่อเนื่อง แต่ MR. D.I.Y. ยังคงมองว่า ตลาดในประเทศไทยยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และมีโอกาสที่จะเติบโตต่อในอนาคต โดยเฉพาะการเติบโตของชนชั้นกลาง ที่เป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัท
พอเรื่องเป็นแบบนี้ คุณแอนดี้ ชิน ซีอีโอของ บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารของบริษัทบอกว่า บริษัทยังพร้อมเดินหน้าลงทุนขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าที่จะขยายสาขาปีละกว่า 100 สาขา ในประเทศไทย
โดยคุณแอนดี้ ชิน บอกว่า แม้โควิด 19 จะส่งผลต่อธุรกิจค้าปลีกจำนวนมาก ทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก แต่ธุรกิจของเรายังคงเติบโต เพราะผู้บริโภคยังต้องการสินค้ามาตกแต่งต่อเติมบ้าน
ซึ่งสะท้อนมาจาก การที่ยอดใช้จ่ายต่อคน ต่อครั้งนั้นไม่ได้ลดลง โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 150-170 บาท แม้ในช่วงที่โควิด 19 ระบาด
แล้วรายได้ของบริษัทที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ?
บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด
ปี 2562 มีรายได้ 2,572 ล้านบาท กำไร 38 ล้านบาท
ปี 2563 มีรายได้ 3,411 ล้านบาท กำไร 58 ล้านบาท
รายได้เติบโต 33% กำไรเติบโต 53%
คุณแอนดี้ ชิน ยังบอกต่อไปว่า บริษัทจะยังคงใช้ “Data Analytics” เพื่อทำการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับสินค้า ว่าประเภทไหนที่ลูกค้าต้องการ เวลาไหนที่พวกเขามักจะมาซื้อ เพื่อพยายามสรรหาสินค้ามาตอบโจทย์ลูกค้าหลายกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่มนักเรียน คนทำงาน แม่บ้าน รวมไปถึงกลุ่มวัยเกษียณ ที่แต่ละวัยนั้น มีความสนใจและต้องการสินค้าที่แตกต่างกัน
นอกจากนี้ บริษัทจะยังคงมุ่งเน้นและบริหารจัดการ เรื่องระบบขนส่งให้มีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ก็เพื่อทำให้ราคาสินค้าของ MR. D.I.Y. มีราคาต่ำ เพื่อช่วยดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการมากขึ้น
โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ท้าทายต่อภาวะเศรษฐกิจในประเทศไทย รวมไปถึงต้นทุนค่าขนส่งที่สูงขึ้น จากการปรับเพิ่มขึ้นของราคาพลังงานในปัจจุบัน
พูดง่าย ๆ ก็คือ บริษัทจะยังชูกลยุทธ์ขายสินค้าราคาต่ำเป็นจุดขายต่อไป ซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักที่บริษัทใช้ดำเนินธุรกิจมาโดยตลอดนั่นเอง
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รู้ไหมว่า MR. D.I.Y. เป็นบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นมาเลเซียด้วย
โดยในปี 2563 บริษัทมีรายได้ 19,700 ล้านบาท และกำไร 2,600 ล้านบาท ขณะที่มีมูลค่าบริษัทสูงกว่า 180,000 ล้านบาท ในวันนี้..
References
-https://en.wikipedia.org/wiki/MR.DIY
-https://www.mrdiy.com/th/page/237/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B2
-https://www.bangkokpost.com/business/2249115/mr-d-i-y-trading-aims-to-keep-opening-100-stores-per-year
-https://www.mrdiy.com/page/about-us/
-https://www.mrdiy.com/page/282/Stock-Information/