จะดีแค่ไหน ? หากประเทศไทยมีความพร้อมทุกอย่างสำหรับรถพลังงานไฟฟ้า
MG X ลงทุนแมน

รู้หรือไม่ ราคาน้ำมันวันนี้แพงขึ้น 25 - 50% หากเทียบกับปีที่แล้ว
ตัวอย่างเช่น E20S ราคาขายวันนี้อยู่ที่ 38.84 บาทต่อลิตร ส่วนปีที่แล้วอยู่ที่ 25.04 บาทต่อลิตร
(ข้อมูล วันที่ 24 มีนาคม ปี 2564 และ 2565)

นั่นแปลว่าทุก ๆ ครั้งที่ขับรถออกจากบ้าน จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นราว 25 - 50% เลยทีเดียว
หลายคนรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น และเริ่มศึกษานโยบายกระตุ้นรถพลังงานไฟฟ้าของภาครัฐอย่างจริงจัง

โดยเฉพาะประเด็นที่ภาครัฐจะช่วยสนับสนุน หากใครซื้อรถพลังงานไฟฟ้า
โดยรัฐบาลมีเงินช่วยเหลือ 70,000-150,000 บาทต่อคัน พร้อมกับลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์จาก 8% เหลือเพียง 2% และรถกระบะเป็น 0%

จึงเป็นสถานการณ์ที่สอดรับกันอย่างลงตัว ช่วยกระตุ้นให้คนไทยซื้อรถพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น
เมื่อภาครัฐ ทำลายกำแพงราคารถพลังงานไฟฟ้าให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น อย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ความน่าสนใจของการใช้รถพลังงานไฟฟ้า ยังมีอะไรอีกบ้าง
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง..

ข้อดีของการขับรถพลังงานไฟฟ้า ที่หลายคนอาจไม่รู้
นอกจากช่วยลดมลพิษ ไม่ต้องเติมน้ำมันในราคาแพง ๆ แล้วนั้น
ค่าซ่อมบำรุงก็ยังถูกกว่ารถเครื่องยนต์สันดาป

หากเรานำรถเครื่องยนต์สันดาปมาแยกชิ้นส่วน จะพบชิ้นส่วนกว่า 1,000 ชิ้น
หากชิ้นส่วนไหนเสีย ก็ต้องซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่ ขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้ามีเพียงไม่กี่ชิ้น
แปลว่ารถพลังงานไฟฟ้า 100% ช่วยลดปัญหาจุกจิก และน่าจะช่วยลดค่าซ่อมบำรุงลงได้

เมื่อเหตุผลหลายอย่างจูงใจให้อยากลองเปลี่ยนมาใช้รถพลังงานไฟฟ้า
คำถามที่ตามมาพร้อมกับความคาดหวังก็คือ มันจะดีแค่ไหน ?
ถ้าประเทศไทยเรามี EV Ecosystem ทุกอย่างพร้อมสำหรับรถพลังงานไฟฟ้า

เรื่องนี้ น่าติดตามอยู่ 2 ประเด็นหลัก ๆ นั่นคือ

1. ภาครัฐจริงจังกับโครงสร้าง EV Ecosystem ที่กำลังเกิดขึ้นในอนาคตมากแค่ไหน
2. ผู้นำตลาดรถพลังงานไฟฟ้าเมืองไทยอย่าง MG มีส่วนร่วมในเรื่องนี้อย่างไร

รู้หรือไม่ว่า ภาครัฐมีเป้าหมายสูงสุดในอุตสาหกรรมรถพลังงานไฟฟ้า คือการผลักดันให้ประเทศไทย
อยู่ในสถานะ Top 10 ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าระดับโลก

โดยคาดว่าปี 2030 จะผลิตรถพลังงานไฟฟ้า เพื่อขายในประเทศและส่งออก 750,000 คัน
หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน ก็คาดว่าจะมีรถพลังงานไฟฟ้า อยู่ราว ๆ 2 ล้านคัน บนท้องถนน
และจะมีหัวชาร์จแบบ Fast Charge มากกว่า 12,000 แห่ง

ต้องบอกว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน จากราคาน้ำมันแพง และนโยบายกระตุ้นของภาครัฐ
ทำให้เรื่องนี้ มีแนวโน้มความเป็นไปได้สูง เลยทีเดียว

MG ในฐานะผู้นำตลาดรถพลังงานไฟฟ้าเมืองไทยคิดว่า หากจะให้ภาพดังกล่าวเกิดขึ้นจริง
MG ก็ต้องช่วยสร้าง Ecosystem ให้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าในเมืองไทย
โดยเฉพาะ Paint Point แรกสุดที่จะช่วยให้คนไทยตัดสินใจซื้อรถพลังงานไฟฟ้ามากขึ้นก็คือ สถานีชาร์จไฟฟ้า
เพราะอย่าลืมว่า ราคารถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เคยเป็นกำแพงใหญ่ในอดีต
วันนี้มีนโยบายกระตุ้นของภาครัฐ มาช่วยปลดล็อกไปเรียบร้อยแล้ว

ประเด็นหลักตอนนี้คือ หากลูกค้าซื้อรถพลังงานไฟฟ้าไปแล้ว
เกิดความกังวลใจในการขับระยะทางไกล หากพลังงานในแบตเตอรี่หมดระหว่างทาง จะทำอย่างไร
แน่นอนการกำจัดความกังวลใจนี้ให้หายไป มีแค่วิธีเดียวคือ การสร้างสถานีชาร์จให้ครอบคลุม

รู้หรือไม่ว่า ปัจจุบัน MG ได้ติดตั้ง MG Super charge กว่า 120 แห่ง
และมีแผนจะขยายไปถึง 500 แห่ง ทั่วประเทศเร็ว ๆ นี้

ขณะเดียวกัน MG กำลังลดต้นทุนการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของตัวเองลง
อย่างที่รู้กันว่า ต้นทุนหนักสุดที่ค่ายรถต้องแบกรับคือ แบตเตอรี่และภาษีนำเข้าอะไหล่ หรือรถทั้งคัน

วิธีสลายต้นทุนที่ไม่จำเป็นเหล่านี้ จนถึงการช่วยให้เกิดการจ้างงานในประเทศ
คือ การผลิตรถพลังงานไฟฟ้าในเมืองไทย โดยเบื้องต้น MG ลงทุนกว่า 2,500 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า และกำลังศึกษาวิธีจัดการแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งาน เพื่อไม่ให้ทำลายสิ่งแวดล้อม

อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ ในเวลานี้ MG กำลังบ่มเพาะคนรุ่นใหม่ ที่มีความชำนาญด้าน EV เพื่อเตรียมเข้าสู่ตลาดแรงงานในอนาคต
เรียกได้ว่า MG ลงทุนมหาศาล เพื่อปิดทุกประตูความกังวลใจของคนที่คิดจะซื้อรถพลังงานไฟฟ้า

เห็นข้อมูลเหล่านี้ คงพอจะเดากันออกว่าต่อจากนี้ไปถึงอนาคต
MG จะเปิดตัวรถพลังงานไฟฟ้าใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีหลากหลายรุ่น ในหลายระดับราคาที่แตกต่างกันออกไป เพื่อตอบโจทย์กำลังซื้อของลูกค้าทุกกลุ่ม

โดยเฉพาะรุ่นล่าสุดที่ ลงทุนแมน กำลังแอบสนใจอย่าง New MG ZS EV
ที่จะเปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ในเดือนนี้ ที่ว่ากันว่า นี่คือการ ไมเนอร์เชนจ์ สร้างความคุ้มค่าให้กับลูกค้ามากที่สุด

คงต้องติดตามดูกันว่า New MG ZS EV โมเดล 2022 จะสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดรถพลังงานไฟฟ้าเหมือนอย่างรุ่นเปิดตัวเมื่อปี 2019 ได้หรือไม่

แต่ที่ฟันธงได้แน่นอน ต่อไปนี้เราจะเห็น MG เปิดตัวรถพลังงานไฟฟ้ามากขึ้นกว่าในอดีต
และจะมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่สร้างความต่างจากค่ายรถคู่แข่ง..

References
-https://www.bangchak.co.th/th/oilprice/historical
-https://www.thaipost.net/economy-news/86317/
-https://blink-drive.com/index.php/2019/01/21/ev-car-vs-ice-car/
-เอกสารประชาสัมพันธ์ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด