อิชิตัน X ลงทุนแมน

หากย้อนกลับไปในอดีต เมื่อพูดถึงการแข่งขันในตลาดชาพร้อมดื่ม
หลายคนมักจะนึกถึงสารพัดโปรโมชันชิงโชคมากมายผ่าน “ฝาขวด”
ผลลัพธ์ที่ได้ในตอนนั้นคือ ไม่มีแบรนด์ไหนคิดสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด

ถึงแม้วันนี้ สงครามโปรโมชันในตลาดชาพร้อมดื่มได้ยุติลงแล้ว
อีกทั้ง ตลาดชาพร้อมดื่มก็กลับมาเติบโตอีกครั้ง
โดยในปี 2021 ที่ผ่านมา มีมูลค่า 11,216 ล้านบาท เติบโต 4%
และในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 ตลาดเติบโต 22.97%
แต่ก็ยังไม่มีผู้เล่นในตลาดรายไหนสร้างปรากฏการณ์ให้ตลาดชาพร้อมดื่ม

จนมาถึงความเคลื่อนไหวล่าสุด เมื่อ อิชิตัน ไม่ได้จำกัดตัวเองว่าต้องเป็น “ชาพร้อมดื่ม” อย่างในอดีต
เมื่อได้ตัดสินใจ Collaboration กับทาง Nestlé บริษัทผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มระดับโลก
ร่วมกันผลิต “ไอศกรีม เนสท์เล่ อิชิตัน ชาเขียว ฮันนี่เลมอน” ที่จะวางขาย ในวันที่ 26 พ.ค. นี้ ในราคา 15 บาท

เรื่องนี้ ถือเป็นปรากฏการณ์ในตลาดชาพร้อมดื่มเมืองไทยเลยทีเดียว
เพราะเป็นครั้งแรกที่แบรนด์ชาพร้อมดื่มของไทยจับมือกับบริษัทระดับโลก
เพื่อคิดค้นสินค้าใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยมีใครในตลาดชาพร้อมดื่มเคยทำมาก่อน

ความน่าสนใจของเรื่องนี้ แบ่งออกเป็น 2 ประเด็นหลัก ๆ
ข้อแรก.. ที่มาของไอศกรีมแท่งนี้ เป็นการหยิบไอเดียสนุก ๆ มาจากคอนเทนต์ใน TikTok
ข้อสอง.. อิชิตัน และ Nestlé จะได้ประโยชน์อะไร จากการร่วมมือกันครั้งนี้

คำตอบของเรื่องนี้ คุณตัน ภาสกรนที CEO บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จะมาเป็นผู้เฉลย
โดย ลงทุนแมน จะเป็นคนสรุปให้ฟัง

คุณตันเล่าให้ฟังว่า มีอยู่วันหนึ่งเขาได้เห็นคนเล่น TikTok นำอิชิตัน รสฮันนี่เลมอน
มาเป็นส่วนผสมในการทำอาหารและขนมอื่น ๆ จนเกิดเป็นกระแสโด่งดังที่มีคนพูดถึงกันมากมาย

อีกทั้ง หากมองข้อมูลเชิงลึกในตลาดชาพร้อมดื่ม พบว่า ตลอดเวลากว่า 10 ปี
รสชาติขายดีอันดับหนึ่งคือ รสฮันนี่เลมอน ที่กินส่วนแบ่งตลาดเกือบ 50% จากรสชาติทั้งหมด

ทำให้ คุณตัน มีความคิดที่จะ “ผลิตไอศกรีมชาเขียว รสฮันนี่เลมอน”
แต่มีข้อแม้ว่า ต้องมีกลิ่นหอม รสชาติอร่อย และต้องมีกระบวนการผลิตที่มีมาตรฐานระดับโลก

พอโจทย์ถูกตั้งไว้แบบนี้ ตัวเลือกแรกและตัวเลือกเดียวก็คือ “Nestlé Ice Cream”

เพราะนี่คือบริษัทที่นอกจากจะเชี่ยวชาญด้านการผลิตอาหาร และเครื่องดื่มระดับโลกแล้วนั้น
ในตลาดไอศกรีม Nestlé ก็อยู่ในระดับต้น ๆ ของโลกเช่นกัน

โดยเฉพาะในประเทศไทย Nestlé มีทั้งโรงงานผลิตไอศกรีมที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง
จนถึงการมีช่องทางการจัดจำหน่ายครอบคลุม ตั้งแต่ ร้านค้าโชห่วย, รถสามล้อไอศกรีมเนสท์เล่, ร้านสะดวกซื้อ และช่องทางดิลิเวอรีต่าง ๆ

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ ทำให้คุณตันตัดสินใจนำไอเดียไปพูดคุยกับทาง Nestlé Ice Cream ซึ่งก็ตอบตกลงทันที
โดยพอผลิตออกมาเป็นรูปแบบไอศกรีมเสร็จแล้ว คุณตันได้เดินทางไปโรงงานทันที เพื่อทดสอบรสชาติ

“ไม่คิดว่าทาง Nestlé Ice Cream จะสกัดความอร่อยของอิชิตัน กรีนที ฮันนี่เลมอน
ให้กลายเป็นแท่งไอศกรีมที่มีกลิ่นหอม รสชาติอร่อย ดูดได้เพลินทั้งวัน”

ทำให้คุณตันมั่นใจว่า เมื่อสินค้าวางขายในตลาดจะประสบความสำเร็จในเรื่องยอดขาย

คำถามต่อมาก็คือ การ Collaboration ครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ประโยชน์อะไร
นอกจากยอดขายที่เพิ่มมากขึ้นแล้วนั้น ต่างฝ่ายต่างช่วยขยายฐานลูกค้าให้แก่กัน

อธิบายง่าย ๆ ก็คือ ลูกค้าบางคนที่ดื่มอิชิตัน อาจไม่เคยทานไอศกรีม Nestlé ก็จะซื้อไอศกรีมแท่งนี้
ส่วนลูกค้าบางคนของ Nestlé ที่ไม่เคยดื่มอิชิตัน ก็จะได้ลิ้มรสชาติ อิชิตัน ในรูปแบบไอศกรีม นั่นเอง
เป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้แก่ลูกค้าของทั้งสองแบรนด์

อีกทั้งในแง่ Branding การร่วมมือกันครั้งนี้
ถือเป็นการยกระดับแบรนด์อิชิตัน ให้เหนือกว่าคู่แข่งในตลาดชาพร้อมดื่ม
เพราะต้องยอมรับว่า ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ที่แบรนด์ไทยจะได้ร่วมมือกับบริษัทระดับโลก
เพื่อคิดค้นสินค้าใหม่ ๆ มาวางขายในตลาด

แต่ใครจะคิดว่าการร่วมมือกับทาง Nestlé Ice Cream ครั้งนี้
จะเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของแนวคิดการทำธุรกิจครั้งใหม่ของอิชิตัน ที่ชูกลยุทธ์ 3N
โดยหนึ่งในนั้นก็คือ New Market
อธิบายง่าย ๆ ก็คือ ต่อไปนี้สินค้าในกลุ่มอิชิตันทั้งหมด จะไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในตลาดตัวเอง

โดยคุณตันบอกว่า เวลานี้กำลังเจรจากับบริษัทอื่น ๆ ในการนำแบรนด์อิชิตันไปผลิตสินค้าใหม่ ๆ
ซึ่งก็คงต้องติดตามดูกันต่อไปในอนาคต เราอาจได้เห็น ขนมขบเคี้ยวอิชิตัน, ไอศกรีมเย็นเย็น ก็มีความเป็นไปได้ทั้งนั้น

เรื่องนี้ นับเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจไม่น้อยในตลาดชาพร้อมดื่ม
เพราะตั้งแต่อดีตจนมาถึงวันนี้ ผู้เล่นในตลาดชาพร้อมดื่ม มักจะจำกัดธุรกิจตัวเองอยู่แค่ “เครื่องดื่ม”

แต่วันนี้ คุณตัน กำลังทลายกำแพงความเชื่อเดิม ๆ พร้อมบอกว่า ชาพร้อมดื่ม ไม่จำเป็นจะต้องจำกัดตัวเองเป็นแค่เครื่องดื่ม
แต่สามารถพัฒนาเป็นสินค้าอื่น ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้แก่ผู้บริโภค จนถึงโอกาสในการสร้างรายได้ในธุรกิจใหม่ ๆ ให้แก่บริษัท

อีกทั้ง วิธีคิดเรื่องการร่วมมือกับแบรนด์อื่น ๆ ในการคิดค้นสินค้าใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดนั้น
ยังเป็นการสร้างการเติบโตไปพร้อม ๆ กันกับพาร์ตเนอร์

หรือนี่อาจจะเป็น อีกหนึ่งทางเลือกใหม่ ๆ ในการทำธุรกิจชาพร้อมดื่มให้เติบโตอย่างยั่งยืน ก็เป็นได้..