SCB TechX x ลงทุนแมน

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในหลายๆ ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย
มีกลุ่มคนจำนวนไม่น้อย ที่ยังไม่มีรายได้ประจำ หรือแม้แต่บัญชีธนาคารเป็นของตัวเอง..
ทำให้ขาดโอกาสในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือ สินเชื่อ จากธนาคารทั่วไป

แม้ธนาคารและสถาบันการเงินจะรู้ดีว่า นี่คือตลาดสินเชื่อขนาดใหญ่ที่มีมูลค่ามหาศาลซ่อนอยู่
แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องแบกรับหนี้เสีย หรือ NPL ในอัตราที่สูงด้วยเช่นกัน

และเมื่อคนกลุ่มนี้ต้องการสินเชื่อ ก็อาจเผชิญกับข้อจำกัดในการเข้าถึงสินเชื่อของสถาบันการเงิน

ดังนั้นยามจำเป็นที่ต้องใช้เงินด่วน กลุ่มคนเหล่านี้จึงต้องกู้ยืมเงินนอกระบบ ที่ดอกเบี้ยสูงเกินจริง และมีการทวงหนี้ที่โหดร้าย
ส่วนทางฝั่งสถาบันการเงินเอง ก็สูญเสียโอกาสในธุรกิจสินเชื่อ

จนเรื่องนี้มาถึง “จุดเปลี่ยน” ครั้งสำคัญ..
เมื่อเทคโนโลยี ได้มาทำลายสารพัดข้อจำกัดในอดีต ให้แก่ผู้ปล่อยสินเชื่อ และผู้ขอสินเชื่อ
โดยมีสมาร์ตโฟนเป็นตัวกลางในการทำธุรกรรม เพื่อให้เข้าถึง “สินเชื่อออนไลน์” รวมถึงสินเชื่อ Nano Finance และสินเชื่อ Pico Finance ได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น

ทั้งนี้สินเชื่อ Nano Finance คือ สินเชื่อรายย่อย ที่ผู้ขอสินเชื่อไม่ต้องมีหลักประกัน
เพื่อช่วยเหลือธุรกิจเล็กๆ และคนทั่วไปที่เดือดร้อน ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับใช้ในการประกอบอาชีพหรือธุรกิจ

ส่วนสินเชื่อ Pico Finance คือ สินเชื่อรายย่อยสำหรับพื้นที่ต่างจังหวัดห่างไกล ที่ผู้กู้ไม่สามารถเข้าถึงสถาบันการเงินได้
โดยไม่จำกัดว่า ผู้กู้จะต้องนำเงินไปประกอบอาชีพหรือธุรกิจเท่านั้น

ซึ่งปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการเปลี่ยนโลกธุรกิจสินเชื่อแบบเดิม ไปสู่โลกใบใหม่

อีกทั้งสถานการณ์โควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ยังส่งผลกระทบให้ประชาชนหลายคนขาดสภาพคล่อง
จึงมีความต้องการสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีคนจำนวนมากที่ยังพึ่งพาหนี้นอกระบบอยู่..

พอเป็นแบบนี้ SCB TechX หนึ่งในบริษัทที่เป็นยานลูกของกลุ่มเอสซีบีเอกซ์ (SCBX) ภายใต้การนำของคุณตรัยรัตน์ สุวรรณประทีป ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เทคเอกซ์ จำกัด (SCB TechX) ได้กล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า “SCB TechX คือ นักสร้างสรรค์โซลูชันที่ปฏิวัติแพลตฟอร์มผลิตภัณฑ์สินเชื่อออนไลน์ที่ทันสมัยและสมบูรณ์แบบ แก่ผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อย ได้เติมเต็มศักยภาพธุรกิจ ยกระดับสินเชื่อเข้าสู่ระบบที่เป็นมาตรฐานสากล สร้างโอกาสให้คนเข้าถึงสินเชื่ออย่างทัดเทียม ด้วยเงื่อนไขการชำระหนี้ที่เป็นธรรม นับเป็นกลไกที่มุ่งปูทางสู่การสร้างระบบเศรษฐกิจที่ยั่งยืนในอนาคต"

คำถามก็คือเทคโนโลยีชั้นนำที่ SCB TechX มีอยู่ในมือ ซึ่งมองว่าเป็นเมกะเทรนด์การเงินระดับโลกจะมาผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และปฏิวัติวงการสินเชื่อในประเทศไทย ให้ก้าวไปได้ไกลแค่ไหน ลงทุนแมน จะวิเคราะห์ให้ฟัง..

รู้หรือไม่ ปัจจุบันคนไทยมีอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต คิดเป็น 75% ของจำนวนประชากรทั้งหมด
ส่วนหนี้นอกระบบ มีมูลค่าสูงถึง 1 ล้านล้านบาท
ตัวเลขนี้เปรียบเสมือนขุมทรัพย์แห่งโอกาสของผู้ให้บริการสินเชื่อออนไลน์, สินเชื่อ Nano Finance และสินเชื่อ Pico Finance

เพียงแต่โจทย์อยู่ที่ว่า สมมติเราอยากจะทำธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายย่อยเหล่านี้ขึ้นมา
SCB TechX จะออกแบบแพลตฟอร์มแอปพลิเคชันเหล่านี้อย่างไร เพื่อให้ตอบโจทย์ทั้งเจ้าของธุรกิจ
และผู้ขอสินเชื่อ เพราะหากทำสำเร็จ นั่นหมายถึงการสร้างประโยชน์อย่างมหาศาลให้แก่ทั้งสองฝ่าย

เริ่มที่ฝั่งผู้ให้บริการสินเชื่อ สิ่งที่ต้องการมากที่สุด เมื่อตัดสินใจเข้าสู่ธุรกิจนี้คือ “ข้อมูล”
เพื่อนำไปใช้ต่อยอดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ขอสินเชื่อ รวมถึงข้อมูลในมิติต่างๆ เพื่อประเมินความสามารถในการชำระหนี้ และการอนุมัติสินเชื่อให้แก่ลูกค้า

รู้หรือไม่ว่า SCB TechX สามารถสร้างระบบจัดเก็บ และวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าที่มาขอสินเชื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่น รายได้ต่อวัน พฤติกรรมการใช้จ่าย พร้อมมีระบบดิจิทัลมาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าในเชิงลึก ที่มีความรวดเร็วและแม่นยำ ใช้เวลาไม่นานก็สามารถประเมินได้ว่า ลูกค้าคนไหนมีความเสี่ยงสูง หรือมีโอกาสก่อให้เกิดหนี้เสีย และคนไหนที่มีศักยภาพในการผ่อนชำระ

ไม่ได้นำมาใช้แค่กับการประเมินผู้ขอสินเชื่อเพียงอย่างเดียว แต่ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ และข้อเสนอสินเชื่อออนไลน์
ที่อยู่บนพื้นฐานความต้องการ และพฤติกรรมของลูกค้าที่มาขอสินเชื่อ

นี่จึงนับว่าเป็นการพลิกเกมจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยก็ว่าได้
เมื่อในอดีตหากเราอยากรู้สารพัดข้อมูลของลูกค้า ก็ต้องลงทุนทำแบบสำรวจหลายอย่าง ทั้งลงพื้นที่ หรือโทรสอบถาม ที่ต้องใช้ทั้งคน และเวลา

อีกทั้งข้อมูลที่ได้อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ลูกค้าต้องการอย่างแท้จริง
แต่ SCB TechX ได้ใช้เทคโนโลยีสุดไฮเทคด้านข้อมูล มาทลายขั้นตอนที่ยุ่งยากเหล่านี้

มากไปกว่านั้นสารพัดข้อมูลต่างๆ จะถูกจัดเก็บบน Cloud ที่มาพร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง
และยังมีระบบการตรวจสอบข้อมูลเชิงรุก ทั้งแบบอัตโนมัติและแบบควบคุม ที่มีความโปร่งใส

และเมื่อทุกอย่างขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี โดยมี “สมาร์ตโฟน” เป็นตัวกลาง
ทำให้เจ้าของธุรกิจสินเชื่อ ไม่จำเป็นต้องลงทุนขยายสาขามากมาย เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าในทุกพื้นที่ เป็นการช่วยลดต้นทุนทางธุรกิจไปอย่างมหาศาล และยังได้อัตราการเข้าถึงลูกค้าอย่างไร้ขีดจำกัด

จะเห็นได้ว่า SCB TechX เปรียบเสมือนคนที่อยู่หลังบ้าน คอยสนับสนุนให้ธุรกิจสินเชื่อประเภทนี้
ขยายตัวเติบโตอย่างรวดเร็ว

คำถามคือ ผู้ขอสินเชื่อทั่วประเทศ จะได้รับประโยชน์อะไรจากเรื่องนี้
ก็ต้องบอกว่ามีหลายประเด็นเลยทีเดียว

ตั้งแต่อดีตมาจนถึงวันนี้ ประชาชนที่เข้าไม่ถึงแหล่งสินเชื่อที่ถูกกฎหมาย
ต้องเผชิญกับอัตราดอกเบี้ยสูงเกินจริง และการทวงหนี้ที่โหดร้ายจากผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบ

หาก SCB TechX มาคิดค้นระบบสินเชื่อให้บริษัทต่างๆ ที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โดยมีการควบคุมอัตราดอกเบี้ยที่ชัดเจน และทวงหนี้แบบประนีประนอม
ก็จะทำให้ผู้ขอสินเชื่อได้รับความเป็นธรรมมากขึ้น

ขณะเดียวกันการเข้าถึงสินเชื่อที่ง่าย ไม่ต้องเดินทางไปที่สาขา ไม่ยึดติดกับเวลา
เป็นการทลายระบบธุรกิจสินเชื่อในอดีต เมื่อทุกขั้นตอนต่างๆ สามารถจบได้ผ่านทาง
แอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน และสามารถทำธุรกรรมได้ตลอด 24 ชั่วโมง

เรื่องนี้จึงถือเป็นประโยชน์สูงสุด ในมุมของผู้ขอสินเชื่อ เพราะบางทีอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ทั้งด้านธุรกิจและชีวิตประจำวัน ที่ต้องการใช้เงินสด เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ทันที

ทีนี้หลายคนอาจมองว่าเทคโนโลยีของ SCB TechX อาจสนับสนุนได้แค่ธุรกิจสินเชื่อ
แต่จริงๆ แล้วสามารถดัดแปลงไปใช้ในธุรกิจอื่นๆ ได้อีกมากมาย

เช่น สมมติเราเป็นผู้ผลิตสินค้า หากต้องการเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น
ระบบเงินผ่อนก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

และคงพอจะนึกภาพออกแล้วว่า SCB TechX จะสามารถนำเทคโนโลยีที่กล่าวมาทั้งหมดนี้
มาดัดแปลงให้เหมาะสมกับธุรกิจขายสินค้าในระบบเงินผ่อนได้
ส่งผลให้เจ้าของสินค้าจะมียอดขายเพิ่มขึ้น ส่วนลูกค้าก็ซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งพาระบบเก่าๆ

เทคโนโลยีเหล่านี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นแรกๆ ของ SCB TechX เท่านั้น
และในอนาคตอันใกล้ ก็จะคิดค้นนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ มาให้บริการแก่บริษัทต่างๆ เพื่อเข้าสู่โลกการเงินดิจิทัล

จะเห็นได้ว่าเทรนด์นี้ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วทั่วโลก รวมถึงในบ้านเรา และมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
ซึ่งหากเจ้าของธุรกิจไม่คิดถึงเรื่องนี้ สุดท้ายธุรกิจก็อาจจะไม่ได้ถูกทำลายโดยคู่แข่ง
แต่อาจจะถูกความต้องการ และพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป มา Disrupt ธุรกิจของตนในที่สุด..

Reference
-งานสัมมนา SCB TechX