เปิดตัว กองทุนรวม MEGA10 โอกาสลงทุนใน 10 บริษัท "ทรงอิทธิพลที่สุด" ในโลก

เปิดตัว กองทุนรวม MEGA10 โอกาสลงทุนใน 10 บริษัท "ทรงอิทธิพลที่สุด" ในโลก

1 ธ.ค. 2022
เปิดตัว กองทุนรวม MEGA10 โอกาสลงทุนใน 10 บริษัท "ทรงอิทธิพลที่สุด" ในโลก
-ครั้งแรก ที่ลงทุนแมนคิดว่าเป็นกองทุนที่น่าสนใจมาก
-ครั้งแรก ที่ลงทุนแมนเฝ้ารอเอาเงินซื้อ SSF RMF ของกองทุนนี้ในปีนี้
-เพราะเป็นครั้งแรก ที่มีกองทุนที่โฟกัสใน 10 ตัวที่ดีที่สุดของโลกนี้เท่านั้น

ลงทุนแมน x บลจ.ทาลิส
จากประสบการณ์การลงทุนของลงทุนแมน หนึ่งในแนวทางการลงทุนที่จะทำให้เรามีโอกาสชนะ และ สร้างความกังวลให้กับเราน้อยที่สุด คือการลงทุนในธุรกิจ MEGAPOLY

คำว่า MEGAPOLY มาจาก MEGA + MONOPOLY ซึ่งหมายถึง บริษัทขนาดใหญ่ที่ครอบครองโลกใบนี้แบบผูกขาด

โดยเร็ว ๆ นี้ จะมีกองทุนรวม ที่โฟกัสการลงทุนใน 10 ธุรกิจทรงอิทธิพลมากสุดในโลก ชื่อว่า “MEGA10”

ซึ่งมีคอนเซ็ปต์การลงทุนสอดคล้องกับแนวคิด MEGAPOLY ที่ลงทุนแมนคิดว่ามีโอกาสชนะสูง โดยกองทุนนี้จะ IPO ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคมนี้ ซื้อกองทุนนี้ ได้ที่ https://finno.me/mega-lt22

MEGA10 มีแนวคิดการลงทุนอย่างไร
แล้วลงทุนในบริษัทอะไรบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าใหัฟัง

แนวคิดการลงทุนของ MEGA10

-บริษัทนั้นต้องเป็นเจ้าของแบรนด์ ที่ทุกคนบนโลกขาดไม่ได้ในยุคนี้

หากพูดถึงแบรนด์ ที่โลกของเราขาดไม่ได้ แน่นอนว่ามันต้องแบรนด์ ที่เป็นที่รู้จัก หรือมีความเชื่อมโยงกับประชากรโลก ระดับ “พันล้านคน”

เรากำลังพูดถึงแบรนด์ เช่น Apple, Microsoft, Google, YouTube, Facebook, Visa, Mastercard

โดยความเป็นแบรนด์นั้น จะเป็นป้อมปราการให้กับเราได้ทั้งในแง่จิตวิทยาการลงทุนที่ทำให้เราสบายใจ เมื่อเห็นใคร ๆ ก็ใช้สินค้าของบริษัทที่เราร่วมเป็นเจ้าของ

รวมถึงในแง่ของรายได้ ว่าบริษัทนั้นจะสามารถทำรายได้ที่กระจายตัวในผู้คนจำนวนมาก ทำให้มีความเสี่ยงที่บริษัทนั้นจะล้มลงได้ยาก เพราะบริษัทไม่ได้พึ่งพารายได้จากแค่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

แต่นอกจากความเป็นแบรนด์แล้ว บริษัทเหล่านี้ควรมีคุณสมบัติอีกอย่าง นั่นคือ

-ต้องเป็นบริษัทขนาดใหญ่ด้วย เพราะยิ่งใหญ่เท่าไร ยิ่งได้เปรียบเท่านั้น

โดยความใหญ่ในที่นี้ เราอาจจะวัดได้จากมูลค่าบริษัท

ความใหญ่ของบริษัท จะสะท้อนให้เห็นถึงการมีลูกค้าจำนวนมากกระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลก และลูกค้าเหล่านี้พร้อมที่จะทดลองใช้สินค้า หรือบริการใหม่ ๆ ของบริษัทตลอดเวลา โดยที่บริษัทนั้นไม่ต้องใช้แรงในการทำตลาดสินค้าใหม่

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ Apple มีสินค้าเดิมคือ iPhone

อยู่มาวันหนึ่ง Apple บอกว่าจะออก AirPods หูฟังไร้สายซึ่งเป็นสินค้าใหม่ของบริษัท

ถ้าเป็นบริษัทอื่นที่ไม่ใช่ Apple ก็คงต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลในการทำตลาด แต่สำหรับ Apple แค่ทำให้การเชื่อมต่อ AirPods กับ iPhone ไร้รอยต่อ คนที่ใช้ iPhone ก็พร้อมที่จะซื้อ AirPods ในเวลาอันรวดเร็ว

รู้หรือไม่ว่า ตอนนี้ AirPods เป็นหูฟังที่ผู้คนทั่วโลกใช้เป็นอันดับ 1 แซงหน้าแบรนด์หูฟังอื่น ๆ โดยใช้ระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี

ในขณะที่ ถ้าเราลงทุนในแบรนด์หูฟังอื่นซึ่งเราคิดว่าเป็นแบรนด์ที่ดี ก็อาจยังไม่เพียงพอ ซึ่งอาจทำให้ขาดทุนและเป็นกังวลได้

เพราะในที่สุดแล้ว มันจะแพ้ “ความใหญ่” ของ Apple ที่อยู่ในอุตสาหกรรมอื่น แต่เข้ามาตีตลาดได้ในที่สุด

ดังนั้นความใหญ่ของบริษัทนั้นสำคัญมาก ในการแข่งขันในโลกยุคที่มีการดิสรัปชัน ระหว่างอุตสาหกรรมกันได้ง่ายแบบในยุคนี้

แน่นอนว่า Apple ก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่หูฟัง แต่เราก็ได้เห็นว่ามีการขยายไปยังธุรกิจนาฬิกา

และรู้หรือไม่ว่าปัจจุบัน กลุ่มธุรกิจ Apple Watch มีรายได้มากกว่า Swatch Group เครือบริษัทนาฬิกาใหญ่สุดในโลกไปแล้ว เป็นที่เรียบร้อย

ในแต่ละยุค แต่ละสมัย แบรนด์ทรงอิทธิพลในโลก ก็จะแตกต่างกันออกไป

10 ปีที่แล้ว อาจจะเป็นกลุ่มธุรกิจ เช่น IBM, Intel และ Coca-Cola

แต่สำหรับในยุคนี้ ตามตัวอย่างบริษัทที่กองทุนนี้ลงทุน ได้แก่ Apple, Microsoft, Alphabet, Amazon, Tesla, Visa, J.P. Morgan, P&G, Mastercard และ Meta (ข้อมูล ณ วันที่ 30 พ.ย. 65)

ซึ่งกองทุนรวม MEGA10 และ MEGA10RMF มีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นผู้นำในด้านตราสินค้า (Brand Value) จากการจัดอันดับโดยบริษัทที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในเรื่องของการจัดอันดับดังกล่าว

โดยผู้จัดการกองทุน จะเลือกลงทุนจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) สูงสุด และมีสภาพคล่อง 10 บริษัทแรก โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

กองทุนจะเข้าไปลงทุนในทั้ง 10 บริษัทนี้ด้วยสัดส่วนแบบเน้น ๆ ในสัดส่วนใกล้เคียงกัน

ซึ่ง 10 บริษัทที่กล่าวมาเป็นเพียงตัวอย่างการคัดเลือกบริษัทเพื่อลงทุนในกองทุน โดยจะใช้ปัจจัยในการพิจารณาลงทุนตามหลักเกณฑ์การคัดเลือก

และจะมีการปรับรายชื่อหลักทรัพย์การลงทุนทุกรอบระยะเวลา 6 เดือน ตามอิทธิพลของแบรนด์ และมูลค่าของบริษัทในช่วงเวลานั้น ๆ

MEGA10 จะมีการเสนอขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรก หรือ IPO ในวันที่ 8 ถึง 20 ธันวาคม 2565 นี้

ซึ่งก็จะมีทั้งในรูปแบบ SSF และ RMF ให้เรานำไปลดหย่อนภาษีได้ด้วย

ถ้าอยากเปิดโอกาสให้เราได้เปรียบ การลงทุนใน MEGA10 ที่โฟกัสการลงทุนใน 10 บริษัททรงอิทธิพลมากสุดในโลกในยุคนี้ ก็เป็นอีกทางเลือกการลงทุน ที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว..

สำหรับท่านใดที่สนใจ และต้องการ Fund Fact Sheet หรือขอรับหนังสือชี้ชวน ของกองทุนเปิด MEGA10 และ MEGA10RMF สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://finno.me/mega-lt22 หรือ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทาลิส จํากัด โทร. 02-015-0222 หรือ www.talisam.co.th
คำเตือน :
ปัจจัยความเสี่ยงที่สำคัญ : ความเสี่ยงทางตลาด (Market Risk) / ความเสี่ยงจากการดำเนินงานของผู้ออกตราสาร (Business Risk) / ความเสี่ยงจากสภาพคล่อง (Liquidity Risk) / ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน (Exchange Rate Risk) / ความเสี่ยงในการกระจุกตัวของหลักทรัพย์และอุตสาหกรรม (Concentration Risk)

การลงทุนในหน่วยลงทุนมิใช่การฝากเงิน และมีความเสี่ยงของการลงทุน ผู้ลงทุนควรลงทุนในกองทุนรวมนี้ เมื่อเห็นว่าการลงทุนในกองทุนรวมเหมาะสมกับวัตถุประสงค์การลงทุนของตน และผู้ลงทุนยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น จากการลงทุนดังกล่าวได้ กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะ เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงของกองทุนรวมก่อนตัดสินใจลงทุน และศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน SSF และ RMF กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขของกองทุน
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.