เหตุผลที่ Sasin MBA จะช่วย Upskill สู่โลกธุรกิจที่เปลี่ยนไป

เหตุผลที่ Sasin MBA จะช่วย Upskill สู่โลกธุรกิจที่เปลี่ยนไป

23 ก.พ. 2023
เหตุผลที่ Sasin MBA จะช่วย Upskill สู่โลกธุรกิจที่เปลี่ยนไป
Sasin X ลงทุนแมน
ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา หากเราเลื่อน Facebook
หนึ่งข่าวที่พบเจออยู่บ่อย ๆ ในแวดวงธุรกิจคือ หลายบริษัทระดับโลกกำลังปรับตัวเข้าสู่ “ถนนธุรกิจเพื่อความยั่งยืน”
ส่วนอีกหนึ่งข่าวที่ทำให้หลายคนตกใจก็คือ การมาของสารพัดเทคโนโลยี AI
อย่างล่าสุดก็คือ ChatGPT ที่ประมวลผลได้สารพัดรูปแบบ
จนทำเอาหลายคนกังวลใจว่า อาจมาแทนที่ในหลายอาชีพ
ทีนี้ หากเราเป็นเจ้าของธุรกิจ หรือทำงานในตำแหน่งระดับสูงของบริษัท ควรจะปรับตัวเพื่อตอบสนองกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง..
ต้องบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้น หลายคนน่าจะเลือกคำตอบว่า “พร้อมปรับตัว”
แต่ปัญหาคือแล้วจะปรับตัวอย่างไร เมื่อยังไม่มีเข็มทิศดี ๆ ชี้นำทางไปสู่โลกธุรกิจใบใหม่
Sasin หรือ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เป็นสถาบันสอนบริหารธุรกิจหลักสูตรนานาชาติแห่งแรกในเมืองไทย ได้มองเห็นช่องว่างตรงนี้และได้ใช้จุดแข็งด้านการสร้างผู้ประกอบการและความยั่งยืน เป็นหัวใจหลักของหลักสูตร MBA ซึ่ง ‘entrepreneurial mindset’ หรือ ‘แนวคิดผู้ประกอบการ’ ที่ต้องมีทักษะที่จะหาทางออกใหม่ ๆ คิดสร้างสรรค์ และลงมือทำรวดเร็วเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลง
ตัวอย่างเช่น เมื่อเร็ว ๆ นี้ Sasin ได้เพิ่มวิชาเลือก (Elective Courses) ในหลักสูตร MBA ขึ้น อีก 2 วิชา นั่นคือวิชา Capturing the Sustainable Opportunity และวิชา AI and Business
คำถามก็คือแล้ว 2 วิชานี้ มาตอบโจทย์ต่อการปรับตัวในโลกธุรกิจใบใหม่ ได้อย่างไร..
เรื่องแรกที่เป็น “เมกะเทรนด์ของโลก” ก็คือ โมเดลธุรกิจ “Sustainability” หรือ “ความยั่งยืน”
ที่เกือบทุกบริษัทระดับโลกต่างปรับเกมธุรกิจ มุ่งสู่แนวคิดนี้
เหตุผลนอกจากเรื่องสุขภาพของโลกใบนี้ที่กำลังแย่ลงเรื่อย ๆ แล้วนั้น
จนทำให้บริษัทระดับโลกต่างเชื่อว่า หากคนและสิ่งแวดล้อมอยู่ไม่ได้
ธุรกิจบนโลกใบนี้ ก็ยากที่จะอยู่รอด เช่นกัน
สิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้เราเห็นกฎระเบียบการทำธุรกิจใหม่ ๆ ในโลกการค้าระหว่างประเทศมากมาย
โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและในยุโรป ที่หลายบริษัทต้องทำธุรกิจภายใต้การรักษาสิ่งแวดล้อม และต้องมีธรรมาภิบาล
ทีนี้ บนโจทย์โมเดลธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ก็จะเกิดคำถามว่า
แล้วบริษัทต่าง ๆ จะสร้างกำไร ควบคู่กับแนวคิดนี้ ด้วยวิธีไหน ?
เลยเป็นที่มาของวิชา Capturing the Sustainable Opportunity
ซึ่งจะสอนการคว้าโอกาสในธุรกิจที่ยั่งยืน โดยใช้กรณีศึกษาจาก Case Studies ในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ที่อธิบายถึงการสร้างโมเดลธุรกิจเพื่อความยั่งยืน
ให้เติบโตไปพร้อม ๆ กับการสร้างรายได้, การสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ในโมเดลธุรกิจนี้ จนถึงประเด็นความเปลี่ยนแปลงของ Supply Chain ทั่วโลก
สรุปวิชานี้คือ การสอนวิธีคิดในเชิงประยุกต์ ที่เราสามารถนำมาปรับใช้กับบริษัทของเรา
และที่แน่ ๆ เชื่อว่า ในอีกไม่นาน ประเทศไทยก็น่าจะมีกฎหมายควบคุมการทำธุรกิจ ที่อยู่ภายใต้แนวคิด “Sustainability” ที่จะมีความเข้มข้นมากขึ้น
ส่วนประเด็นต่อมาก็คือ การเข้ามาของ AI หรือเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
ที่ทำเอาหลายคนอาจยังเข้าใจผิด คิดว่าเทคโนโลยีนี้จะมาแทนที่การทำงานของมนุษย์
แต่.. ความจริงแล้ว หากอยากให้เกิดประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด มนุษย์ต่างหากที่ต้องรู้จักใช้ AI
ทำให้วิชา AI and Business จะสอนผู้เรียนให้เข้าใจการใช้ AI ทำงานในธุรกิจ พร้อมกับให้เข้าใจถึงแก่นแท้ว่า AI สามารถทำเรื่องไหน
“ให้เป็นไปได้ และ ไม่มีทางเป็นไปได้”
หลายคนอาจมองว่า ศาสตร์ความรู้เหล่านี้
ก็น่าจะหาได้จาก Google, YouTube และสื่อออนไลน์อื่น ๆ
แต่อย่าลืมว่า 2 สิ่งนี้เป็นเรื่องใหม่ ที่ยากจะหากูรูผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริง
อีกทั้ง สื่อออนไลน์ก็ยังมีข้อจำกัด เช่น ไม่สามารถร่วมกิจกรรมกับเพื่อนและอาจารย์ได้ เป็นต้น
เมื่อได้ยินแบบนี้ ก็น่าจะทำให้ใครหลายคนต้องการจะเรียนรู้ เกี่ยวกับหลักสูตร Sasin MBA สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sasin.edu สำหรับปีการศึกษา 2566 เปิดรับสมัครถึง 31 มีนาคมนี้เท่านั้น
และเชิญร่วมงาน Sasin Open House เพื่อฟังรายละเอียดเกี่ยวกับการสมัครเรียน ฟังนิสิตปัจจุบัน นิสิตเก่า และคณาจารย์ ร่วมเล่าประสบการณ์ ลงทะเบียนร่วมงานได้ที่ https://bit.ly/3XzmGrD
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.