“เซ็นทรัล ทำ” เปิดไฮไลต์โปรเจกต์ ปี 2566 จะลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ได้อย่างไร ?

“เซ็นทรัล ทำ” เปิดไฮไลต์โปรเจกต์ ปี 2566 จะลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ได้อย่างไร ?

12 เม.ย. 2023
เซ็นทรัล ทำ x ลงทุนแมน
“ความเหลื่อมล้ำ” ทางสังคม คือโจทย์ของประเทศ ที่คนไทยสามารถช่วยเหลือกันได้ ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน
แต่การจะเข้ามาช่วยลดความเหลื่อมล้ำให้เห็นภาพชัดเจน และวัดผลได้ในเชิงตัวเลข จะต้องทำอย่างไร
หนึ่งในกรณีศึกษาที่น่าสนใจ คือ เซ็นทรัล ทำ โครงการขับเคลื่อนเพื่อความยั่งยืนของกลุ่มเซ็นทรัล
ความน่าสนใจของเรื่องนี้ เป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
เซ็นทรัล ทำ มุ่งเน้นในการลดความเหลื่อมลํ้า ให้โอกาสทุกคนในสังคม
ทั้งการพัฒนาด้านการศึกษา สู่การเป็นศูนย์การเรียนรู้, ส่งเสริมอาชีพคนพิการ ควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน, สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้มั่นคง แบ่งปันความรู้ทักษะต่าง ๆ สนับสนุนช่องทางการสื่อสารทางการตลาด พร้อมกับการรักษาและดูแลสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่โลกสีเขียว ขับเคลื่อนทุกภาคส่วนสู่การท่องเที่ยวยั่งยืน
กว่า 75 ปีที่ผ่านมา กลุ่มเซ็นทรัลร่วมมือกับชุมชน คู่ค้า ลูกค้า พนักงาน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
โดยใช้ศักยภาพ และความเชี่ยวชาญของกลุ่มเซ็นทรัลเอง เข้าไปเป็นแกนหลักในการพัฒนาในเชิงคุณภาพ ที่สอดคล้องกับความต้องการของสังคม ดำเนินงานเน้นการสร้างคุณค่าร่วม (Creating Shared Values) หรือ CSV และส่งเสริมการพัฒนาใน 2 เรื่องหลัก คือ การพัฒนาทักษะแรงงานในระดับปัจเจก และการสร้างเศรษฐกิจฐานราก ในระดับชุมชน
ทีนี้ ลองมาดู 7 โครงการไฮไลต์ของ เซ็นทรัล ทำ ในปี 2565 ต่อเนื่อง ปี 2566 กันบ้าง..
1. จริงใจ มาร์เก็ต จ.เชียงใหม่ การท่องเที่ยวชุมชนเชิงวิถีเกษตรอินทรีย์
ภายใต้แนวคิดรักษ์โลก (Eco-friendly) และ CSV (Creating Shared Values)
ภายในตลาดแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ อาหาร (Food) ศิลปะและงานออกแบบ (Art & Design) และงานฝีมือ (Craft)
ซึ่งจริงใจ มาร์เก็ต ถือเป็นตลาดเกษตรอินทรีย์แห่งแรกของกลุ่มเซ็นทรัล โดยเริ่มจากแผงขนาดเล็กไม่ถึง 10 แผง และใช้เวลากว่า 10 ปี จนปัจจุบันมีผู้ประกอบการท้องถิ่น และเกษตรกรจาก 15 ชุมชน คิดเป็นกว่า 70 ครัวเรือน และมีผู้ประกอบการอีกเกือบ 250 ราย
นับว่าเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการในท้องถิ่นให้มีรายได้อย่างยั่งยืน
พร้อมส่งเสริมให้ สินค้า อาหาร และวัฒนธรรมของชาวเชียงใหม่ เป็นซอฟต์พาวเวอร์ ที่จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ สร้างเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวกว่า 40 ล้านบาทต่อปี
2. ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนผ้าทอนาหมื่นศรี จ.ตรัง การท่องเที่ยวชุมชนเชิงวัฒนธรรม
เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ เซ็นทรัล ทำ ให้การสนับสนุนจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนและก่อสร้าง “พิพิธภัณฑ์ผ้าทอนาหมื่นศรี” เพื่อรวบรวมผ้าทอมือโบราณ ที่มีประวัติยาวนานกว่า 200 ปี พร้อมทั้งสืบสานลายอัตลักษณ์โบราณ เพื่อนำไปขยายผลสู่การเป็นศูนย์การเรียนรู้และสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมของ จ.ตรัง นอกจากนั้น เซ็นทรัล ทำ ยังได้ร่วมกับชุมชนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และนำมาจัดจำหน่ายภายใต้แบรนด์ good goods อีกด้วย โดยปี 2565 สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนกว่า 7.3 ล้านบาท และมีจำนวนสมาชิกชุมชน 155 คน
3. ศูนย์การเรียนรู้พุทธนิเวศเกษตรอินทรีย์ ไร่เชิญตะวัน จ.เชียงราย การท่องเที่ยวชุมชนเชิงวิถีเกษตรอินทรีย์
เซ็นทรัล ทำ ร่วมมือกับพระเมธีวชิโรดม (ท่าน ว.วชิรเมธี) ผู้ก่อตั้งศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน จ.เชียงราย และภาคีเครือข่าย
ผลักดันสู่ “ต้นแบบศูนย์การเรียนรู้ด้านนวัตกรรมการทำเกษตรอินทรีย์” บนพื้นที่ 2 ไร่
เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับเกษตรกร ชาวนา รวมถึงผู้ที่สนใจ สามารถเข้ามาเรียนรู้ศึกษาโครงการ เช่น การสร้างธนาคารน้ำใต้ดิน ระบบ Smart Farm การปลูกข้าว พืชผักสวนครัว ไม้ดอกไม้ประดับ และการเลี้ยงไข่ไก่ปลอดภัย เป็นต้น
โดยโครงการพุทธนิเวศเกษตรอินทรีย์ ไร่เชิญตะวัน เปิดสอนตั้งแต่ปี 2556 มีทั้งหมด 13 รุ่น
ปี 2566 เซ็นทรัล ทำ ตั้งเป้าในการพัฒนาพื้นที่เกษตรอินทรีย์เพิ่มเติม 13 ไร่
โดยแบ่งเป็นพื้นที่ปลูกไม้ผล พืชเศรษฐกิจ จำนวน 3 ไร่
และพื้นที่ปลูกผักสวนครัว สมุนไพรพื้นบ้าน จำนวน 10 ไร่
4. ชุมชนเกษตรอินทรีย์วิถีชีวิตยั่งยืนแม่ทา อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ การท่องเที่ยวชุมชนเชิงวิถีเกษตรอินทรีย์
เซ็นทรัล ทำ ร่วมกับ มูลนิธิสายใยแผ่นดิน (Earth Net Foundation) และหน่วยงานมากมาย ในการส่งเสริมและสนับสนุนด้านต่าง ๆ เพื่อทำให้โครงการพื้นที่วิถีชีวิตยั่งยืนแม่ทา
เป็นโครงการต้นแบบ โดยมุ่งหวังให้สมาชิกคนรุ่นใหม่ รวมกลุ่มกันจัดสรรพื้นที่ให้เกิดประโยชน์ด้านต่าง ๆ
นอกจากเป็นแหล่งเพาะปลูกผลผลิตอินทรีย์ที่มีคุณภาพจากต้นทางแล้ว เซ็นทรัล ทำ ยังเข้าไปทำงานร่วมกับชุมชน แลกเปลี่ยนความรู้ จนก่อให้เกิดโครงการและความร่วมมือต่าง ๆ มากมาย เช่น
สนับสนุนการก่อสร้างอาคารอบรม และห้องคัดแยกเมล็ดพันธุ์อินทรีย์
สนับสนุนการปรับปรุงอาคารคัดบรรจุผักให้เป็นไปตามมาตรฐาน อย. ติดตั้งเครื่องปรับอากาศภายในอาคาร จัดซื้อรถขนส่งห้องเย็นให้กับชุมชน และ ก่อสร้างที่พักโฮมสเตย์ภายในพื้นที่ทั้งหมดจำนวน 4 หลัง
เพื่อขยายศูนย์การเรียนรู้ให้กับนักท่องเที่ยว และเกษตรกร เพื่อเข้ามาใช้ชีวิตใกล้ชิดกับชุมชนได้
5. กาแฟรักษาป่า ภูชี้เดือน จ.เชียงราย การท่องเที่ยวชุมชนเชิงนิเวศ
เซ็นทรัล ทำ เข้าไปสนับสนุนให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนวิธีการเพาะปลูกจากพืชเชิงเดี่ยวมาเป็นการปลูกกาแฟสายพันธุ์อะราบิกาแท้ ที่ช่วยพลึกฟื้นเขาหัวโล้น ให้กลายเป็นเขาที่เขียวขจีกว่า 1,500 ไร่
โดยคัดต้นพันธุ์แท้ ทิปปิก้า มัลเดอริ่ง จากต่างประเทศ มาปลูกในผืนป่าระดับความสูง 1,300-1,600 เมตร จากระดับน้ำทะเล
ภายใต้ผืนป่าธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และอุณหภูมิที่พอเหมาะพอดี
ประกอบกับมีผลไม้ป่านานาชนิดที่ขึ้นในพื้นที่ กลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์ธรรมชาติอย่างดีให้กับต้นกาแฟ
โดยในปี 2565 ที่ผ่านมา สามารถสร้างรายได้ให้ชุมชนมากกว่า 6 ล้านบาท มีสมาชิกเข้าร่วมกว่า 84 ราย
ส่วนในปี 2566 ยังคงสนับสนุนปัจจัยในการผลิตอย่างครบถ้วน เช่น
โรงเรือนแปรรูปกาแฟ โกดัง เครื่องจักรและอุปกรณ์ในการผลิตกาแฟ
- จัดอบรมให้ความรู้ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม เพื่อต่อยอดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
- พัฒนาเมล็ดกาแฟภายใต้แบรนด์ good goods ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน อย. และ GMP มาจำหน่ายที่ร้าน good goods และท็อปส์ มาร์เก็ต ในรูปแบบเครื่องดื่มและเมล็ดกาแฟ
6. ชุมชนผ้าย้อมครามบ้านกุดจิก จ.สกลนคร การท่องเที่ยวชุมชนเชิงวัฒนธรรม
ด้วยความเข้มแข็งของชุมชนและสมาชิก “กลุ่มทอผ้าบ้านกุดจิก”
ทำให้ผลิตภัณฑ์ผ้าครามของชุมชน มีความโดดเด่น ทั้งเส้น สี ลายผ้า และฝีมือการทอผ้า การปลูกฝ้าย ย้อมคราม ที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่น
เซ็นทรัล ทำ ร่วมมือกับ กรมพัฒนาชุมชน เข้าไปสนับสนุนพัฒนากลุ่มทอผ้าบ้านกุดจิก
พร้อมถ่ายทอดทักษะความรู้และความเชี่ยวชาญที่กลุ่มเซ็นทรัลมี เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ ส่งเสริมด้านการขายและการตลาด เพื่อสร้างรายได้และสร้างอาชีพให้กับคนท้องถิ่น
โดยในปี 2565 ได้สร้างรายได้ให้กับชุมชน 1 ล้านบาทต่อปี ซึ่งมีชุมชนเข้าร่วมทั้งหมด 30 ชุมชน
7. ศูนย์การเรียนรู้พัฒนาผลผลิตการเกษตรและผลิตภัณฑ์ชุมชน บ้านเทพพนา อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ การท่องเที่ยวชุมชนเชิงวิถีเกษตรอินทรีย์
นับเป็น 1 ใน 7 ของผู้ปลูกอะโวคาโด พันธุ์แฮสส์ ในประเทศไทย
ด้วยความตั้งใจที่จะปลูกพืชเศรษฐกิจ ที่มีมูลค่าสูงและเป็นที่ต้องการของตลาด ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เป็นการปรับเปลี่ยนการปลูกพืชเชิงเดี่ยว สู่ระบบเกษตรอัจฉริยะในรูปแบบครบวงจร
ในปี 2565 ที่ผ่านมา ชุมชนมีสมาชิกกว่า 400 ราย พื้นที่เพาะปลูกกว่า 2,000 ไร่ และมีรายได้กว่า 3 ล้านบาท โดยตั้งเป้าเพิ่มสมาชิกปีละ 100 ราย
จากโครงการทั้งหมด สรุปเป็นผลการดำเนินงานในปี 2565 ได้ ดังนี้
- ลดขยะจากการรีไซเคิลและการนำมาใช้ประโยชน์กว่า 10,000 ตัน
- เพิ่มพื้นที่สีเขียวและฟื้นฟูป่า 5,519 ไร่
- สร้างงานและสนับสนุนอาชีพให้คนพิการ 751 คน
- สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนกว่า 1,500 ล้านบาท
- สนับสนุนชุมชนกว่า 100,000 ครัวเรือน
ส่วนเป้าหมายในปี 2566 ที่เซ็นทรัล ทำ ต้องการ ประกอบด้วย
- สร้างรายได้ให้กับชุมชน ให้ได้ 1,800 ล้านบาทต่อปี
- เพิ่มพื้นที่สีเขียวและฟื้นฟูป่า 6,500 ไร่
และตั้งเป้าหมายในการเป็นองค์กร Net Zero ภายในปี 2593
ทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นได้ภายใต้ความเชื่อที่ว่า ความสามัคคี, การร่วมลงมือทำจากทุกภาคส่วน สามารถสร้างสังคมที่ดีกว่าเดิมได้ ตาม Tagline “ทำด้วยกัน ทำด้วยใจ” ของ เซ็นทรัล ทำ
เพราะ “พลังของการร่วมมือกันทำ”
สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และผลลัพธ์ที่ดีได้ในระยะยาว
ซึ่งก็คือ แนวทางในการขับเคลื่อนองค์กร ไปพร้อม ๆ กับการช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมอย่างยั่งยืน..
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.