ทำไมกลุ่มธุรกิจ TCP เป็นที่น่าสนใจของนักลงทุน และคู่ค้าในงาน THAIFEX 2023
TCP GROUP X ลงทุนแมน

ไม่กี่วันที่ผ่านมา ลงทุนแมน มีโอกาสไปเที่ยวงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2023
หนึ่งสิ่งที่เห็นและรู้ได้ทันทีคือ อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มไทยอยู่ในระดับโลก

เมื่อบรรยากาศในงานเต็มไปด้วยนักลงทุน และคู่ค้าต่างชาติจำนวนมากที่เดินทางมามองหาการลงทุน และร่วมเป็นพันธมิตรกับแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มไทย

โดยหนึ่งในบูทจัดแสดงสินค้าที่เต็มไปด้วยนักลงทุนและคู่ค้าต่างชาติก็คือกลุ่มธุรกิจ TCP
เพราะนอกจากจะมีโซน บาร์เทนเดอร์ ปรุงแต่งเครื่องดื่มสูตรพิเศษ
ที่ใช้ส่วนผสมจากสินค้าในกลุ่มธุรกิจ TCP ที่มีรสชาติอร่อยหาทานได้เฉพาะที่นี้ที่เดียว
พร้อมกับเกมให้ผู้มาเยือนบูทกลุ่มธุรกิจ TCP ได้เล่นสนุกแล้วนั้น

ภายในบูทยังมี ประวัติความเป็นมา, ความแข็งแกร่งทางธุรกิจ, และแนวคิดความยั่งยืนทางธุรกิจ
ซึ่งนักลงทุนและคู่ค้าทั้งไทยและต่างประเทศ ให้ความสนใจเป็นพิเศษ

ทำไม กลุ่มธุรกิจ TCP ถึงเป็นที่สนใจของนักลงทุน และคู่ค้าต่างชาติ รวมถึงผู้ประกอบการในไทย ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

กลุ่มธุรกิจ TCP เป็นบริษัทเครื่องดื่มเพียงไม่กี่รายในประเทศไทย ที่ส่งออกสินค้าในเครือไปกว่า 170 ประเทศทั่วโลก โดยคิดเป็น 70% ของรายได้ทั้งหมดของบริษัท

ตัวเลขตรงนี้ ทำให้พูดได้เลยว่า กลุ่มธุรกิจ TCP ก้าวขึ้นเป็นบริษัทเครื่องดื่มระดับโลก

สิ่งที่ทำให้กลุ่มธุรกิจ TCP ก้าวมาถึงจุดนี้ได้ ก็น่าจะเป็น DNA ของบริษัท
ที่เริ่มต้นตั้งแต่ คุณเฉลียว อยู่วิทยา ผู้ก่อตั้งบริษัทและเครื่องดื่มกระทิงแดง ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง พร้อมกับการมองอนาคตในการเติบโตในตลาดต่างประเทศ

ทำให้ในปี พ.ศ. 2521 จึงตั้งบริษัท ที.ซี.ฟาร์มาซูติคอล อุตสาหกรรม จำกัด เพื่อผลิตและส่งออกสินค้าอย่างเต็มรูปแบบ

โดยเริ่มส่งออกครั้งแรกไปยังประเทศสิงคโปร์ ภายใต้แบรนด์ “เรดบูล”
อีกทั้งในเวลาต่อมาก็มีการคิดค้นเครื่องดื่มใหม่ ๆ อย่างที่รู้จักกันดีคือ “สปอนเซอร์” เครื่องดื่มเกลือแร่แบรนด์แรกในเมืองไทย และยังคงยอดขายอันดับหนึ่งมาถึงทุกวันนี้

นอกจากจะมีสินค้าใหม่ ๆ มากขึ้น กลุ่มธุรกิจ TCP ยังมีการปรับเปลี่ยนสินค้าที่มีอยู่นั้นให้มีความสดใหม่เข้ากับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคสมัยต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา

โดยใช้แนวคิด Consumer-Centric ที่นำความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป มาเป็นเข็มทิศในการทำธุรกิจ ที่ตอบโจทย์ตลาด

พร้อมกับคิดต่อว่ากลุ่มธุรกิจ TCP จะต้องมีชิ้นส่วน จิกซอว์ อะไรบ้าง..
เพื่อให้ตัวเองเป็นบริษัทเครื่องดื่มระดับโลก จนมาพบคำตอบ 3 Ecosystem หลัก ๆ ประกอบด้วย

1. กระบวนการผลิตสินค้าหลากหลาย ที่มีมาตรฐานระดับโลก

นอกจากทุกโรงงานในเครือจะมีกระบวนการผลิตที่ได้รับมาตรฐานระดับโลก
เช่น GMP, HACCP, IPHA และ FSSC 22000 แล้วนั้น

กลุ่มธุรกิจ TCP ยังมีสินค้ากว่า 10 แบรนด์ เช่น กระทิงแดง, สปอนเซอร์, เรดดี้ และแมนซั่ม
ทำให้คู่ค้ามีตัวเลือกหลากหลายในการทำธุรกิจ

ที่น่าสนใจคือแบรนด์เหล่านี้ ยังปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เจาะตลาดใหม่ ๆ ในต่างประเทศ ทำให้คู่ค้าที่เป็นพันธมิตรให้การตอบรับเป็นอย่างดี

อีกเรื่องคือกลุ่มธุรกิจ TCP มักสร้างความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มตลอดเวลา
อย่างล่าสุด ก็มีการเปิดตัว 2 เครื่องดื่มในงาน THAIFEX

- FarmZaa

โดยนำ มะปี๊ด ผลไม้ถิ่นเมืองจันท์ รสชาติเปรี้ยวหวานมีประโยชน์ต่อสุขภาพ มาพัฒนาเป็นเครื่องดื่มโซดากลิ่นน้ำผึ้ง มีวิตามินซีสูง 200% ไม่ผสมน้ำตาล ดื่มได้ทุกวัน

เป็นวิธีการนำผลไม้ท้องถิ่นมาแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า ช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร

- Planett

เครื่องดื่ม Floral Soda แบรนด์แรกในไทย ที่ผสมกลิ่นดอกไม้และผลไม้ ใช้ส่วนผสมวัตถุดิบจากธรรมชาติ ไม่มีน้ำตาล และแคลอรี 0% มี แอล-ธีอะนีน ช่วยให้ผ่อนคลาย

ด้วยความโดดเด่นตรงนี้ ทำให้ได้รับเลือกเป็น 1 ใน 50 สินค้านวัตกรรมด้านรสชาติ ในงาน THAIFEX

2. การจัดส่งสินค้าและกระจายสินค้าที่แข็งแกร่ง

มีศูนย์กระจายสินค้า 24 แห่งทั่วประเทศ
ก็ยังมีบริษัทในเครือ อย่าง “เดอเบล” ทำหน้าที่กระจายสินค้าไปยังร้านค้าทั่วประเทศ

ขณะเดียวกัน ยังมี TCP Online Shop ที่สามารถซื้อสินค้าของกลุ่มธุรกิจ TCP ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
เป็นการตอบโจทย์ความสะดวกสบายให้แก่คู่ค้า จนถึงผู้บริโภคในประเทศไทย

3. แนวคิดธุรกิจความยั่งยืน

การเปลี่ยนแปลงระดับ Big Impact ในโลกการค้าระหว่างประเทศ
คือ การที่รัฐบาลในหลายประเทศเริ่มตั้งกฎกติกาใหม่ในการทำธุรกิจ ที่ทุกบริษัทจะต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมอย่างหลากมิติ

เช่น ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือแพ็กเกจจิง ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถนำมารีไซเคิลได้ 100%

ซึ่งเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ จะมีความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต

การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เป็นอะไรที่เข้าทางกลุ่มธุรกิจ TCP เลยทีเดียว..

เมื่อหนึ่งในแผนธุรกิจครั้งใหม่ ภายใต้แนวคิด “ปลุกพลัง เพื่อวันที่ดีกว่า”

มีการตั้งเป้าภายในปี พ.ศ. 2593 ทุกกระบวนการผลิตทั้งหมดใน กลุ่มธุรกิจ TCP ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จะต้องเป็น Carbon Neutrality หรือ “เป็นกลางทางคาร์บอน”
จนถึงแพ็กเกจจิงต่าง ๆ จะถูกพัฒนาเรื่อย ๆ ให้เป็นมิตรกับโลกใบนี้มากขึ้น

คงพอจะนึกกันออก หากวันนี้และในอนาคตอันใกล้
สินค้าต่าง ๆ ในเครือกลุ่มธุรกิจ TCP สามารถเข้าไปทำธุรกิจในหลายประเทศได้อย่างสะดวกราบรื่น ถือเป็นข้อดีของคู่ค้าต่างชาตินั่นเอง

และถ้าถามว่าทั้งหมดที่กลุ่มธุรกิจ TCP ทำไปนั้น เพื่ออะไร
คำตอบน่าจะมีอยู่ 2 ข้อใหญ่ ๆ

1. การนำไปสู่รายได้ 90,000 ล้านบาทต่อปี ภายใน 3 ปีข้างหน้า

2. ทุกย่างก้าวของการเติบโตนั้น จะไม่ใช่แค่การเติบโตเพียงลำพัง
แต่ทุก ๆ อย่างที่อยู่รอบตัวของกลุ่มธุรกิจ TCP จะต้องเติบโตไปพร้อมกัน

นั่นหมายความว่า หากกลุ่มธุรกิจ TCP สามารถทำตามเป้าหมายทั้งหมดได้
เราจะได้เห็นบริษัทที่เติบโตยั่งยืน อย่างแข็งแกร่งในอนาคต..

References
- รายงานความยั่งยืนประจำปี 2564
- งานแถลงข่าว กลุ่มธุรกิจ TCP