อินโดนีเซีย ประเทศเนื้อหอม ที่ต่างชาติอยากเข้าไปลงทุน

อินโดนีเซีย ประเทศเนื้อหอม ที่ต่างชาติอยากเข้าไปลงทุน

17 มิ.ย. 2023
อินโดนีเซีย ประเทศเนื้อหอม ที่ต่างชาติอยากเข้าไปลงทุน /โดย ลงทุนแมน
- ExxonMobil บริษัทพลังงานข้ามชาติรายใหญ่
จากสหรัฐอเมริกา
- Toyota บริษัทรถยนต์รายใหญ่ จากญี่ปุ่น
- Unilever บริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ที่มีคนทั่วโลกซื้อใช้กันมากถึง 2,500 ล้านคนต่อวัน
- Alphabet หรือ Google บริษัทเทคโนโลยีมูลค่ามากสุดอันดับ 4 ของโลก
ซึ่งล่าสุด ก็ยังมี Tesla บริษัทผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าระดับโลก ที่ตัดสินใจเลือก สร้างโรงงานแบตเตอรี่และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่ประเทศอินโดนีเซีย
เราเคยสงสัยไหมว่า ทำไมอินโดนีเซีย กำลังเป็นประเทศเนื้อหอมของทุนใหญ่จากต่างชาติ ? ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
หลายปีมานี้ อินโดนีเซียถือเป็นอีกหนึ่งประเทศเนื้อหอม ที่นักลงทุนต่างชาติอยากเข้าไปลงทุน โดยเรื่องนี้ก็เกิดจากหลายสาเหตุ
1. การผ่อนคลายกฎระเบียบ ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนได้สะดวกมากขึ้น
ในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลอินโดนีเซีย มีการปรับปรุงและผ่อนคลายกฎระเบียบ ที่อดีตเคยเป็นปัญหามาก่อน เพื่อให้นักลงทุนต่างชาติ และภาคเอกชน มีความสะดวกในการทำธุรกิจมากขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น
- ยกเว้นภาษี 30 ปี สำหรับการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน
- ยกเว้นภาษี 20 ปี สำหรับการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวกับห้างสรรพสินค้า และธุรกิจท่องเที่ยว
นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ
เช่น การพัฒนาแหล่งพลังงานไฟฟ้า และการคมนาคมขนส่ง
2. อินโดนีเซียมีตลาดขนาดใหญ่ และมีศักยภาพที่จะเติบโต
นอกจากอินโดนีเซียจะเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่สุดในอาเซียนแล้ว อินโดนีเซียยังมีประชากร 280 ล้านคน มากเป็นอันดับ 4 ของโลก
ซึ่งถือเป็นแหล่งตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ให้แก่หลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมค้าปลีก หรือแม้แต่ธุรกิจเทคโนโลยีและดิจิทัล
ที่น่าสนใจคือ อุตสาหกรรมเหล่านี้ ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
ยกตัวอย่างเช่น อินโดนีเซียมีจำนวนคนที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตกว่า 152 ล้านคน นับเป็นจำนวนมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แต่ 152 ล้านคนนี้ คิดเป็นเพียงแค่ 55% ของจำนวนประชากรทั้งหมด
ซึ่งหากเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐอเมริกา ที่มีสัดส่วนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต 91% หรือประเทศไทยที่ประมาณ 85% เท่ากับว่า อินโดนีเซียยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากเลยทีเดียว
นอกจากนี้ อินโดนีเซียยังเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งถือเป็นหนึ่งปัจจัยที่ดึงดูดให้นักลงทุนเข้าไปลงทุนในอินโดนีเซียกันมาก
ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัด ๆ คือ ในปี 2021 อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีแร่นิกเกิล มากเป็นอันดับ 1 ของโลก
ซึ่งแร่นิกเกิล ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ใช้ในการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า
3. ภาครัฐมีการสนับสนุนสตาร์ตอัป
ในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลของอินโดนีเซียเองก็ให้การสนับสนุน และสร้างระบบนิเวศให้แก่ธุรกิจสตาร์ตอัปในประเทศอย่างต่อเนื่อง
โดยมีการจัดตั้งหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีหน้าที่หลักในการบ่มเพาะสตาร์ตอัป และธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กโดยเฉพาะ ยกตัวอย่างเช่น
- จัดตั้งกระทรวงใหม่ที่ชื่อ Ministry of Cooperatives and SMEs ซึ่งจะมีหน้าที่หลักคือ การดูแลสตาร์ตอัป และ SME โดยเฉพาะ
- จัดตั้งหน่วยงาน Badan Koordinasi Penanaman Modal ซึ่งคือหน่วยงานที่เป็นเหมือนตัวเชื่อมระหว่างนักลงทุน และผู้ประกอบการสตาร์ตอัป
พอเรื่องเป็นแบบนี้ ทำให้อินโดนีเซียเป็นอีกประเทศหนึ่ง ที่มีสตาร์ตอัปหน้าใหม่ ที่สามารถเติบโตจากธุรกิจเล็ก ๆ จนกลายเป็น สตาร์ตอัประดับยูนิคอร์นมากมาย
เราลองมาดูตัวอย่างสตาร์ตอัป ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาของอินโดนีเซียกัน
- Ajaib แพลตฟอร์มซื้อขายหุ้นและกองทุนรวม
ปัจจุบันถูกประเมินมูลค่าบริษัท ไว้ที่ 35,000 ล้านบาท
- Traveloka แพลตฟอร์มจองที่พักและตั๋วเครื่องบิน
ปัจจุบันถูกประเมินมูลค่าบริษัท ไว้ที่ 52,000 ล้านบาท
- GoTo บริษัทโฮลดิง ที่เกิดจากการควบรวมของ
2 สตาร์ตอัปดาวรุ่งอย่าง แพลตฟอร์มเรียกรถ Gojek และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Tokopedia
ปัจจุบันมีมูลค่าบริษัท อยู่ที่ 288,000 ล้านบาท
จากทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ในประเทศ, การเติบโตของเศรษฐกิจ และที่สำคัญคือ การสนับสนุนจากภาครัฐ
ทำให้วันนี้ เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า อินโดนีเซียเป็นอีกประเทศหนึ่งที่กำลังเนื้อหอมในหมู่นักลงทุนต่างชาติเป็นอย่างมาก
และน่าจะเป็นอีกหนึ่งประเทศที่จะมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกมากขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต..

ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ในปีที่ผ่านมา มีเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมายังอินโดนีเซียมากถึง 1.6 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 44%
ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าว นับเป็นเงินลงทุนสูงสุดในประวัติศาสตร์ของอินโดนีเซีย เลยทีเดียว..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://tradingeconomics.com/indonesia/gdp
-https://en.wikipedia.org/wiki/Indonesia
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_GDP_(nominal)
-https://www.roedl.com/insights/indonesia-legal-update-foreign-investment-construction-projects
-https://thaipublica.org/2022/10/asean-weekly-roundup-166/
-https://www.salika.co/2022/01/16/key-success-startup-unicorn-indonesia/
-https://en.wikipedia.org/wiki/GoTo_(Indonesian_company)
-https://tradingeconomics.com/indonesia/foreign-direct-investment
-https://www.the101.world/why-indonesia-attracts-superpower/
-https://techcollectivesea.com/2023/03/27/unicorns-southeast-asia-2022/#:~:text=Unicorns%20minted%20in%202022,Philippines%20and%20Malaysia%20with%20two.
-https://www.crunchbase.com/organization/traveloka/company_financials
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.