MG แบรนด์ระดับตำนาน 100 ปี กับภารกิจก้าวสู่ Top 3 ในอุตสาหกรรมรถเมืองไทย
MG x ลงทุนแมน

หากพูดถึงแบรนด์รถยนต์ที่มีประวัติมายาวนานร้อยปี ชื่อแบรนด์ล่าสุดที่เข้ามาอยู่ในทำเนียบปีนี้ คือ MG ที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1924

MG ย่อมาจาก Morris Garages เป็นแบรนด์จากประเทศอังกฤษ โดยช่วงเริ่มต้น MG สร้างชื่อจากการเป็นรถมอเตอร์สปอร์ตที่ประสบความสำเร็จในสนามแข่ง อีกทั้งในช่วงปี 1962 จนถึงปี 1980 รถในตระกูล MGB, MGC และ MGB GT V8 ก็ประสบความสำเร็จเกินคาด ด้วยยอดขายรวมกันกว่า 523,800 คัน จนมาถึงอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ เมื่อ SAIC Motor ได้เข้าซื้อกิจการ MG

หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า SAIC Motor คือบริษัทยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมรถยนต์จีน เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์แบรนด์ดังระดับโลกมากมาย เช่น Roewe, Maxus, Yuejin, Wuling, Hongyan และ Sunwin โดยแบรนด์เหล่านี้ ต่างมีจุดขายในเรื่องดิไซน์และเทคโนโลยียานยนต์ยุคใหม่

ตรงนี้เองที่ทำให้ SAIC Motor มียอดขายรถยนต์พลังงานทางเลือกเป็นอันดับ 1 ในประเทศจีน และล่าสุดในปี 2023 ที่ผ่านมา SAIC Motor สร้างยอดขาย 5.02 ล้านคันสูงสุดในประเทศจีน อีกทั้งยังเป็นบริษัทที่ส่งออกรถยนต์ไปทั่วโลกกว่า 1.208 ล้านคัน

เรื่องราวนับจากนี้ มีความน่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง..

เมื่อ MG มาอยู่ในการครอบครองของ SAIC Motor ที่มีทั้ง Know How และเงินทุนมหาศาล ในการจัดหาซัปพลายเชนระดับโลก และยังส่งผลให้ MG ประเทศไทย มีโอกาสในการขยายแบรนด์ของตัวเอง ด้วยการหยิบโมเดลที่มีความ “พรีเมียม” มากขึ้น เข้ามาทำตลาดในไทย เพื่อจับกลุ่มลูกค้าในอีกระดับหนึ่ง เช่น MG Maxus9 รถ MPV ไฟฟ้า 100% ที่ ณ วันนี้ยังไม่มีคู่แข่งในตลาด

ส่วนรถรุ่นที่ส่งออกจากประเทศจีนมากที่สุด เมื่อปีที่ผ่านมา
อันดับหนึ่งในกลุ่มรถยนต์นั่ง คือ “MG ZS” มียอดส่งออกกว่า 201,874 คัน
กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าไม่พ้น MG4 ELECTRIC มียอดส่งออกกว่า 138,736 คัน
และ MG5 มียอดส่งออกกว่า 109,431 คัน

ซึ่งทั้ง 3 โมเดลนี้ ล้วนเป็นรถที่ MG นำเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยทั้งสิ้น นั่นแปลว่า “คนไทยมีโอกาสได้สัมผัสเทคโนโลยีเทียบเท่าระดับโลก”

และเมื่อ MG ก้าวสู่ทศวรรษที่ 2 ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย พร้อมตั้งเป้าหมายชัดเจนที่จะนำพา MG ขึ้นเป็นแบรนด์ติดอันดับ Top 3 ของไทย

MG มีแผนธุรกิจอะไร ที่จะพาตัวเองไปสู่เป้าหมายนั้น ?

ตลอดช่วงระยะเวลา 10 ปี ที่ผ่านมา MG ได้ขยายธุรกิจรวดเร็วในประเทศไทย
ปัจจุบันมีโชว์รูมและศูนย์บริการกว่า 150 แห่ง ครอบคลุมทั่วประเทศ ในช่วงจังหวะที่รถยนต์ไฟฟ้าเป็นช่วงขาขึ้น MG ก็มีรถยนต์ไฟฟ้าจำหน่ายมากถึง 5 รุ่น และยังมีรถกลุ่มพลังงานทางเลือกรุ่นอื่น ๆ เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ยังไม่พร้อมสำหรับการ Move on ไปสู่อีวี

อีกหนึ่งจุดแข็งของ MG คือการเป็น Global Brand ที่มีฐานลูกค้าในหลายประเทศ ทำให้นวัตกรรมหรือเทคโนโลยีล้ำ ๆ ของรถ MG ที่จำหน่ายในทั่วโลก ถูกส่งมาถึงมือคนไทยด้วย อย่างเช่น MG4 ELECTRIC ที่เมืองไทยได้เทคโนโลยีใหม่ทั้งคัน และปัจจุบัน MG มีฐานการผลิตแบตเตอรี่อยู่ที่ไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จนถึงนวัตกรรมใหม่ ๆ ย่อมถูกส่งมาที่ฐานการผลิตอยู่เสมอ จึงมีโอกาสที่อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยจะทัดเทียมระดับโลก

โดยล่าสุด MG ตั้งโรงงานแบตเตอรี่ในประเทศไทย พร้อมสำหรับการเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศ และส่งออกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเทคโนโลยียานยนต์ใหม่ ๆ ย่อมถูกถ่ายทอดมาสู่ผู้ผลิต โอกาสที่อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยจะทัดเทียมระดับโลกก็ไม่ใช่เรื่องยาก

ล่าสุด MG เผยถึงรถสปอร์ตโรดสเตอร์พลังงานไฟฟ้าอย่าง MG CYBERSTER ที่เตรียมเปิดตัวในปีนี้ ซึ่งเป็นฤกษ์ดีของการครบรอบ 100 ปี พอดี ทั้งดิไซน์สปอร์ต สมรรถนะการขับขี่ที่ดึงดีเอ็นเอสายพันธุ์สปอร์ตขึ้นมาเป็นจุดเด่น และเทคโนโลยียานยนต์ยุคใหม่ที่มาครบในทุกมิติ

จากรถต้นแบบแห่งโลกอนาคต สู่รถยนต์ไฟฟ้าที่พร้อมใช้งาน และโลดแล่นบนท้องถนนเมืองไทยแล้ว แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว ส่วนจะเปิดตัวเมื่อไรคงต้องติดตามกันต่อไป

นอกจากนี้ยังมีรถรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาเติมสีสันในตลาดรถเก๋งขนาดเล็กอีก 1 รุ่น
คงจะเป็นกลุ่มรถยนต์พลังงานทางเลือกตามกระแสโลก

เรามักจะเห็นความทุ่มเท และ Passion อันแรงกล้าของ MG อยู่เรื่อย ๆ ที่จะก้าวไปสู่เป้าหมายยอดขาย Top 3 ในอุตสาหกรรมรถเมืองไทย...ก็น่าลุ้น

แม้ปัจจุบันนี้ ผู้เล่นหลักในตลาดรถยนต์เมืองไทยจะดุเดือด
มีทั้งแบรนด์ใหม่ ๆ ที่กำลังจะมา และแบรนด์ที่อยู่ระหว่างการแข่งขันชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร..

แต่.. MG ผู้มาก่อนกาล และด้วยประสบการณ์อันยาวนาน จนกลายเป็นแบรนด์ระดับตำนานของโลก ที่มาพร้อมศักยภาพและความพร้อมหลาย ๆ ด้าน

เป้าหมายนี้ที่วางไว้..ไม่ไกลเกินเอื้อมถึง

References
-ข่าวประชาสัมพันธ์ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
-https://brandage.com/article/2124