มุมมองนวัตกรรมการเงินขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน จาก CEO ของ KBank ในงาน Money 20/20 ฟินเทคระดับโลก ที่จัดขึ้นครั้งแรกของเอเชีย
มุมมองนวัตกรรมการเงินขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน จาก CEO ของ KBank ในงาน Money 20/20 ฟินเทคระดับโลก ที่จัดขึ้นครั้งแรกของเอเชีย
KBank x ลงทุนแมน
ล่าสุด งาน Money 20/20 อิเวนต์ฟินเทคระดับโลก กลับมาอีกครั้งในปี 2567 และครั้งนี้พิเศษสุด เพราะจัดขึ้นที่ประเทศไทย เป็นครั้งแรกของเอเชีย
ซึ่งงาน Money 20/20 เปรียบเสมือนเวทีที่รวมเหล่าผู้เชี่ยวชาญ ผู้นำทางความคิด และผู้บริหารจากบริษัทชั้นนำทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น J.P. Morgan, VISA, Mastercard และ Alipay
เพื่อมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เรียนรู้เทรนด์ใหม่ ๆ และสร้างโอกาสทางธุรกิจ บนเวทีเดียวกัน
เพื่อมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เรียนรู้เทรนด์ใหม่ ๆ และสร้างโอกาสทางธุรกิจ บนเวทีเดียวกัน
ที่น่าสนใจคือ ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBank เป็นหนึ่งในธนาคารชั้นนำของไทย ที่ถูกเชิญชวนให้ขึ้นไปพูดบนเวที Vision Stage ในงานระดับโลกครั้งนี้
โดยมีหัวข้อคือ “Pathways towards a future ready bank: Leading a new wave of disruptive innovation”
โดยมีหัวข้อคือ “Pathways towards a future ready bank: Leading a new wave of disruptive innovation”
ซึ่งคุณขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย ได้มาเล่าถึงอนาคต และเทรนด์การเงินของภูมิภาค การพัฒนาศักยภาพธนาคารที่พร้อมสำหรับโลกแห่งยุคดิจิทัล
และการใช้ประโยชน์จาก Ecosystem และเทคโนโลยีบล็อกเชน
เพื่อให้ธนาคารเติบโตได้อย่างยั่งยืน พร้อมมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero
และการใช้ประโยชน์จาก Ecosystem และเทคโนโลยีบล็อกเชน
เพื่อให้ธนาคารเติบโตได้อย่างยั่งยืน พร้อมมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero
ความน่าสนใจของเรื่องนี้เป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ปัจจุบันโลกการเงินเต็มไปด้วยความท้าทาย และความไม่แน่นอน จากหลากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น
- เทคโนโลยีบล็อกเชนที่เข้ามาปฏิวัติวงการการเงินแบบดั้งเดิม ให้กลายมาเป็น Borderless Payment ที่เปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ทุกที่ทุกเวลาทั่วโลก
- การเติบโตของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ช่วยขับเคลื่อนการวิเคราะห์ข้อมูล การวัดประสิทธิภาพ การคาดการณ์ การคำนวณแบบเรียลไทม์ การบริการลูกค้า และอื่น ๆ อีกมากมาย
อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีจะเข้ามายกระดับประสิทธิภาพของวงการการเงิน แต่สิ่งหนึ่งที่ยังไม่สามารถทดแทนได้แบบ 100% คือการสร้าง “ประสบการณ์ที่ดี” ให้กับลูกค้า
ซึ่ง KBank ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาโดยตลอด โดย “พนักงาน” จะมีบทบาทสำคัญกับการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า KBank ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของทีมงานให้พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
นอกจากนี้ คุณขัตติยา ยังกล่าวเสริมว่า อีกหนึ่งปัจจัยแห่งความสำเร็จของ KBank มาจากความแข็งแกร่งของวัฒนธรรมองค์กร
เพราะนอกจากจะสามารถสร้างบรรยากาศการทำงาน ที่เอื้อให้เกิดการคิดค้น และพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ
เพราะนอกจากจะสามารถสร้างบรรยากาศการทำงาน ที่เอื้อให้เกิดการคิดค้น และพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ
การมีวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง ยังสามารถดึงดูดบริษัทต่าง ๆ ให้สนใจเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับ KBank ได้อีกด้วย
ซึ่งจากข้อมูลของ McKinsey & Company บริษัทที่ปรึกษาระดับโลก มองว่า การที่ธนาคารในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเติบโตได้ ต้องมาจากการมีพันธมิตรที่แข็งแกร่ง
แล้วปัจจุบันพันธมิตรของ KBank มีใครบ้าง ?
- J.P. Morgan Asset Management
การผนึกกำลังระหว่าง KAsset และ J.P. Morgan Asset Management ช่วยเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยได้มีโซลูชันทางการเงินหลากหลาย เพื่อส่งมอบประสบการณ์การลงทุนที่ดีให้กับลูกค้าอย่างยั่งยืน
ซึ่ง KAsset จะสามารถแลกเปลี่ยนมุมมองแนวคิด นวัตกรรม และผลิตภัณฑ์ทางการเงินระดับโลกที่มีมาตรฐาน
ในทางกลับกัน J.P. Morgan Asset Management ก็สามารถเข้าถึงความชำนาญของ KAsset ที่เป็นผู้นำด้านการจัดการลงทุนของไทย ทั้งด้านธุรกิจกองทุนรวม กองทุนส่วนบุคคล และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
- ธนาคาร DBS ประเทศสิงคโปร์
เพื่อสนับสนุนบริการโอนเงินระหว่างประเทศสำหรับลูกค้ารายย่อย ให้สามารถโอนเงินไปกลับได้แบบเรียลไทม์ ผ่านแอปพลิเคชัน K PLUS
ที่เป็นผลให้จำนวนธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศไทยกับประเทศสิงคโปร์ผ่าน KBank เพิ่มสูงขึ้นจากเดิมเป็นอย่างมาก
ที่เป็นผลให้จำนวนธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศไทยกับประเทศสิงคโปร์ผ่าน KBank เพิ่มสูงขึ้นจากเดิมเป็นอย่างมาก
- LINE
โดยจัดตั้งบริษัท กสิกร ไลน์ จำกัด (KASIKORN LINE Co., Ltd.) เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท กสิกร อินเวสเจอร์ จำกัด (KASIKORN INVESTURE Co., Ltd.) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บมจ.ธนาคารกสิกรไทย และ บริษัท ไลน์ ไฟแนนเชียล คอร์ปอเรชั่น (LINE FINANCIAL CORPORATION)
ซึ่งการร่วมมือกับกลุ่ม LINE เป็นแอปพลิเคชันที่คนไทยไว้วางใจใช้มากที่สุดในชีวิตประจำวัน มีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 54 ล้านคน นับว่าเป็นการปฏิวัติประสบการณ์ทางการเงิน
โดยให้บริการภายใต้แบรนด์ LINE BK Social Banking รายแรกในเมืองไทย ตอบโจทย์การเงินที่สะดวกให้กับคนไทย
โดยให้บริการภายใต้แบรนด์ LINE BK Social Banking รายแรกในเมืองไทย ตอบโจทย์การเงินที่สะดวกให้กับคนไทย
ที่น่าสนใจคือ การร่วมมือให้บริการกับ LINE ทำให้แบรนด์ LINE BK สามารถเข้าถึงกลุ่มรายย่อย และกลุ่มคนที่ยังไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงิน
เพื่อให้กลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารกสิกรไทยได้ปล่อยสินเชื่อ และนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
เพื่อให้กลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารกสิกรไทยได้ปล่อยสินเชื่อ และนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
รู้หรือไม่ว่า ? จากข้อมูลของแบงก์ชาติ ในปี 2563 คนไทยกว่า 82% ยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงิน
และ 15% ของจำนวนนี้ ยังไม่มีแผนการเงินรองรับวัยเกษียณด้วยซ้ำ
และ 15% ของจำนวนนี้ ยังไม่มีแผนการเงินรองรับวัยเกษียณด้วยซ้ำ
พอเรื่องเป็นแบบนี้ KBank จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ที่จะเข้ามาช่วยวางแผนชีวิตหลังเกษียณ ไม่ให้เป็นภาระของลูกหลาน
รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
โดยมี กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) อยู่เบื้องหลังการพัฒนาแอปพลิเคชันและซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ของ KBank
โดยมี กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) อยู่เบื้องหลังการพัฒนาแอปพลิเคชันและซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ของ KBank
ไม่ว่าจะเป็น
- K PLUS แอปพลิเคชันด้านการเงิน อันดับ 1 ของไทย ที่มีผู้ใช้งานกว่า 21.7 ล้านคน โดยมีฟีเจอร์เด่น ๆ อย่าง Wealth PLUS บริการแนะนำและบริหารจัดการการลงทุนในกองทุนรวมแบบอัตโนมัติ
- MAKE by KBank แอปพลิเคชันที่ช่วยให้คนไทยทุกคน สามารถเริ่มต้นมีวินัยทางการเงินได้ง่าย ๆ ผ่าน Cloud Pocket ระบบแบ่งเงินในบัญชีเป็นหลาย ๆ กระเป๋า แยกย่อยได้ตามเป้าหมายที่ต้องการ
- K SHOP แอปพลิเคชันที่ตอบโจทย์ร้านค้าออนไลน์ รับเงินง่าย ด้วยช่องทางรับชำระเงินหลากหลาย ผลักดันธุรกิจของผู้ประกอบการให้เติบโตอย่างมั่นคง
นอกจากนี้ KBank ยังขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ด้วยการเพิ่มศักยภาพการให้บริการที่ครอบคลุมทั้งระบบนิเวศสินทรัพย์ดิจิทัล และบริการด้านดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง
โดยปัจจุบันมีหลากหลายบริการ ไม่ว่าจะเป็น
- Kubix คือ ICO Portal ผู้ให้บริการระบบเสนอขาย Digital Token การลงทุนรูปแบบใหม่ ที่จะทำให้การลงทุนกับไลฟ์สไตล์ของคุณเป็นเรื่องเดียวกัน
- Orbix ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของลูกค้าเป็นอันดับหนึ่ง
- Coral แพลตฟอร์มให้บริการด้าน NFT และ Consumer Engagement ที่จะช่วยออกแบบให้ NFT เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ และช่วยให้แบรนด์ใกล้ชิดกับลูกค้าได้มากขึ้น
- Quarix โครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชนที่มุ่งเน้นการใช้งานจริง (RWAs: Real World Assets) มุ่งหวังที่จะปฏิวัติรูปแบบการทำธุรกรรมทางการเงินด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย รองรับธุรกรรมการแปลงสินทรัพย์ในโลกจริงให้เป็นโทเคนดิจิทัลบนระบบนิเวศที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้
พร้อมทั้งมีกลไก e-Money on Blockchain ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพธุรกรรมทางการเงินบนบล็อกเชน
ที่รองรับภาคธุรกิจและองค์กรที่ต้องการยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงาน และขยายโอกาสทางธุรกิจ
ที่รองรับภาคธุรกิจและองค์กรที่ต้องการยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงาน และขยายโอกาสทางธุรกิจ
นอกจากนี้ KBank ยังให้ความสำคัญกับการลงทุนในธุรกิจที่สนับสนุนความยั่งยืน
ไม่ว่าจะเป็น WATT’S UP แพลตฟอร์มรองรับการเช่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร
หรือ “ปันไฟ” แอปพลิเคชันที่เป็นความร่วมมือระหว่างธนาคารกสิกรไทย และ กฟผ. ให้สามารถแลกเปลี่ยนไฟฟ้าแห่งแรกของไทย
ไม่ว่าจะเป็น WATT’S UP แพลตฟอร์มรองรับการเช่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร
หรือ “ปันไฟ” แอปพลิเคชันที่เป็นความร่วมมือระหว่างธนาคารกสิกรไทย และ กฟผ. ให้สามารถแลกเปลี่ยนไฟฟ้าแห่งแรกของไทย
แล้วในด้านของสิ่งแวดล้อมและสังคม ปัจจุบัน KBank ประสบความสำเร็จอย่างไร ?
ต้องบอกว่า KBank เป็นธนาคารไทยแห่งแรกที่ได้ประกาศความมุ่งมั่น ที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ หรือ “Net Zero Commitment” ภายในปี 2593
เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ ในช่วงปี 2565-2566 ธนาคารปล่อยสินเชื่อและเงินลงทุนเพื่อความยั่งยืนไปแล้วถึง 73,397 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 200,000 ล้านบาท ภายในปี 2573
นอกจากนี้ KBank ยังมีแผนที่จะลด Portfolio การปล่อยสินเชื่อให้กับธุรกิจในอุตสาหกรรมที่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
ไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรมโรงไฟฟ้า และอุตสาหกรรมถ่านหิน เป็นต้น
ไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรมโรงไฟฟ้า และอุตสาหกรรมถ่านหิน เป็นต้น
สุดท้ายแล้ว คุณขัตติยา อินทรวิชัย ได้กล่าวทิ้งท้ายสำหรับผู้ประกอบการในงาน Money 20/20 ว่า
“อุตสาหกรรมการเงินกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากการเข้ามาของเทคโนโลยี และ AI แต่อย่าลืมว่า ในทุก ๆ การเปลี่ยนแปลง ย่อมมีโอกาสซ่อนอยู่เสมอ อยู่ที่ว่าเราจะสามารถคว้าได้หรือไม่
ซึ่งการทำงานที่ KBank มานานกว่า 30 ปี ทำให้ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และเผชิญความท้าทายในหลายรูปแบบ
โดยคุณขัตติยา มองว่าความพยายามและการไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคต่าง ๆ คือสิ่งที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จในระยะยาว
เพราะต้องไม่ลืมว่า ไม่มีใครในโลกนี้จะประสบความสำเร็จได้ โดยไม่ผ่านความล้มเหลวมาก่อน”
Reference
- สรุป Session คุณขัตติยา อินทรวิชัย ในงาน Money 20/20 ฟินเทคระดับโลก โดย ลงทุนแมน
- สรุป Session คุณขัตติยา อินทรวิชัย ในงาน Money 20/20 ฟินเทคระดับโลก โดย ลงทุนแมน
