จับประเด็นสำคัญ “MAGNIFICENT 7” จะยังเป็น 7 นางฟ้า ไปอีกนานแค่ไหน

จับประเด็นสำคัญ “MAGNIFICENT 7” จะยังเป็น 7 นางฟ้า ไปอีกนานแค่ไหน

K WEALTH X ลงทุนแมน
“Magnificent 7” กลุ่มหุ้นนางฟ้าทั้ง 7 ที่กำลังครองโลก ด้วยผลประกอบการที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด และมูลค่าบริษัทที่เพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ ในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
แต่เมื่อเศรษฐกิจโลกกำลังเกิดความผันผวน “Magnificent 7” จะยังคงเป็น 7 นางฟ้า ไปได้อีกนานแค่ไหน ?
มาสำรวจเรื่องนี้ ผ่าน 2 มุมมอง ทั้งในมุมของนักวิเคราะห์อย่าง คุณมทินา วัชรวราทร, CFA Head of Investment Management Strategy KAsset
และมุมของนักลงทุนอย่าง คุณยศพนธ์ สุธารัตนชัยพร, CFA Ex-Head of Research, Alpha Absolute
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง
ประเด็นแรกที่ทั้ง 2 ท่านได้วิเคราะห์ คือผลกระทบที่เกิดขึ้นจากนโยบายของดอนัลด์ ทรัมป์
โดยคุณมทินา ได้สรุปภาพรวมไว้ดังนี้
- ผลจากการที่ดอนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง ทำให้เราได้เห็นตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งรวมไปถึงหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กที่ได้ประโยชน์จากนโยบายของดอนัลด์ ทรัมป์ ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ผลของนโยบายกีดกันผู้อพยพ อาจทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นต่อได้ยาก เพราะนโยบายนี้จะทำให้ค่าจ้างแรงงานเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดเงินเฟ้อ ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดพันธบัตร และเป็นแรงกดดันต่อตลาดหุ้น
- ในส่วนของค่าเงิน นโยบาย America First ทำให้มี Fund Flow ไหลเข้าสหรัฐฯ มากขึ้น และส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น
- ตอนนี้ตลาดกำลังอยู่ในช่วงรับข่าวดี และอาจมี Momentum เชิงบวกไปจนถึงสิ้นปี แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง ตลาดจะเริ่มมีการพิจารณาความเป็นไปได้ของนโยบายต่าง ๆ และหากไม่เป็นอย่างที่คาดหวังไว้ จะทำให้ดอลลาร์สหรัฐกลับมาอ่อนค่าลงได้บ้าง
ในส่วนของคุณยศพนธ์ ได้สรุปภาพรวมไว้ดังนี้
- นโยบายของดอนัลด์ ทรัมป์ เป็นเหมือนการต่อจิกซอว์ เพราะแม้บางนโยบายจะทำให้สหรัฐฯ เก็บภาษีได้ลดลง เช่น นโยบายลดภาษีนิติบุคคล แต่ก็มีนโยบายที่ทำให้เก็บภาษีได้มากขึ้นมาชดเชย
เช่น นโยบายลดงบประมาณสำหรับการทำสงคราม และนโยบายกีดกันผู้อพยพ ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานแบบถูกกฎหมาย และทำให้เก็บภาษีบุคคลธรรมดาได้เพิ่มขึ้น
- ในระยะยาวดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ จะค่อย ๆ ลง ไม่สูงค้างเหมือนที่บางฝ่ายกังวล
ประเด็นถัดมา คือการวิเคราะห์หุ้นกลุ่ม Magnificent 7 ว่ายังคงน่าสนใจหรือไม่ ?
สำหรับคุณมทินา มองว่าหุ้นกลุ่ม Magnificent 7 ยังสามารถไปต่อได้ และยังเป็นนางฟ้าที่น่าสนใจอยู่เหมือนเดิม โดยให้เหตุผลไว้ดังนี้
- ผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมายังคงออกมาดี มีการเติบโต ถึงแม้การเติบโตจะค่อย ๆ ชะลอลงในไตรมาสต่อ ๆ ไป แต่ก็ยังจะมากกว่าที่เหลืออีก 493 ตัว ใน S&P 500 อยู่ดี ทำให้เม็ดเงินจะยังคงไหลเข้าหุ้น 7 ตัวนี้ต่อ
- การเติบโตของ Magnificent 7 ไม่นับว่าเป็นการเกิด Bubble เพราะแม้ราคาจะเพิ่มขึ้น แต่กำไรก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
- เชื่อ AI Supercycle จะยังคงเป็นเทรนด์ต่อไป โดยมองว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ในเฟสที่ 2 ของ AI Supercycle Trend ที่สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 เฟส ได้แก่
เฟส 1 Innovator ซึ่งมี Nvidia เป็นผู้ชนะ
เฟส 2 Infrastructure ซึ่งมีผู้เล่นเป็นเหล่า Cloud Provider, Semiconductor รวมถึง Magnificent 7 โดยถ้าเปรียบเป็นเมือง ก็เหมือนช่วงกำลังสร้างถนน ทางด่วน ไฟฟ้า หรือก็คือช่วงที่บริษัทกำลังลงทุน แต่ยังไม่เห็น Monetization ที่ชัดเจน
เฟส 3 Enable เฟสที่ถนนเริ่มมีคนใช้ เก็บค่าทางด่วนได้ มีร้านค้ามาเช่าที่ หรือก็คือช่วงที่บริษัทเริ่มสร้างรายได้จาก AI ได้
เฟส 4 Productivity เฟสที่ AI ถูกนำไปใช้ในหลายอุตสาหกรรม
- อย่างไรก็ตาม ถึงแม้หุ้นกลุ่ม Magnificent 7 จะยังไปต่อได้ แต่ในการเข้าซื้อ ก็ควรรอเข้าในจังหวะ ที่มี Valuation เหมาะสม เช่น ช่วงที่นักลงทุนมีความกังวลจนเทขายทํากําไรออกมา
- ถ้าถามว่า Magnificent 7 จะยังเป็นนางฟ้าต่อไปอีกนานแค่ไหน ก็มี 2 อย่างที่ต้องดู ได้แก่
1. ผลประกอบการจะยังคงเป็นไปตามที่นักลงทุนคาดหวังไว้หรือไม่ โดยก่อนหน้านี้ Magnificent 7 มีผลประกอบการที่ดีกว่าที่คาด แต่หลัง ๆ มา Earnings Surprise ได้แคบลงเรื่อย ๆ
2. การสร้างรายได้ (Monetization) จากสิ่งที่ได้ลงทุนไปจะทำได้เมื่อไร เพราะถ้าเริ่มสร้างรายได้ได้ ก็จะทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้น
สำหรับคุณยศพนธ์ มองว่า Magnificent 7 จะยังคงเติบโตต่อไปได้เช่นกัน แต่ภาพจะไม่เหมือนในปีที่แล้ว เพราะการจะขึ้นไปแรง ๆ ได้อีกเป็นเรื่องยาก แต่ก็จะไม่ได้แย่ถึงขั้นลงเหว
- สิ่งที่เป็นกังวลคือเรื่องของ Trade War เพราะบริษัทในกลุ่ม Semiconductor มีลูกค้าส่วนหนึ่งเป็นประเทศจีน เมื่อการกีดกันทางการค้าเกิดขึ้น จะทำให้รายได้ของบริษัทชะลอตัวลง
- สำหรับตลาดหุ้นสหรัฐฯ มองว่าจะยังโตต่อไปได้ แต่จะโตช้าลง และตอนนี้ตลาดกำลังอยู่ในช่วง Sideway การเข้าซื้อจึงต้องรอดูราคาที่เหมาะสม
และประเด็นสุดท้ายคือ การมองหาโอกาสในการลงทุนต่อจากนี้
คุณมทินาแนะนําว่า อุตสาหกรรมที่จะได้ประโยชน์จาก AI คืออุตสาหกรรมที่มีข้อมูลเป็นจํานวนมาก เช่น Financial, Healthcare และ Energy โดย AI จะช่วยให้ทั้ง 3 Sector นี้เกิดการเติบโต
โดยถ้าอยากลงทุนในระยะสั้น แนะนำให้ลงทุนแบบกระจายในหลายอุตสาหกรรม ไม่ใช่แค่ในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยี เพราะนโยบาย America First ของดอนัลด์ ทรัมป์ จะทําให้บริษัทนอกอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเช่นบริษัทในกลุ่ม Financials หรือ Industrials ได้ประโยชน์ด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ Valuation ยังไม่แพง จึงมีความน่าสนใจ โดยกองทุน K-USA ของ KAsset เองก็มีการลงทุนในลักษณะนี้เช่นกัน
และถ้าอยากลงทุนในระยะยาว และเชื่อว่า AI จะไปต่อได้ ก็แนะนำให้รอจังหวะในการเข้าซื้อ เช่น ในช่วงที่คนกังวลเกี่ยวกับการส่งออกไปจีน ซึ่งจะทำให้ราคาปรับลดลง และเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ โดยตัวที่สามารถลงทุนได้ก็คือ K-GTECH
ทั้งหมดนี้คือประเด็นที่น่าสนใจผ่าน 2 มุมมองจากนักวิเคราะห์ และนักลงทุน
ซึ่งเชื่อว่าน่าจะช่วยให้นักลงทุนทุกคนได้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นว่า “Magnificent 7” ยังเป็น 7 นางฟ้าอยู่หรือไม่ และจะเป็น 7 นางฟ้า ไปอีกนานแค่ไหน
สามารถรับชมรายการ TALK ลงทุนแมน “MAGNIFICENT 7” จะยังเป็น 7 นางฟ้า ไปอีกนานแค่ไหน ได้ที่ลิงก์ https://youtu.be/JRBB2tifnvs

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon