ก.ล.ต. กล่าวโทษ บริษัท JKN และนายจักรพงษ์ ต่อ DSI กรณีตกแต่งงบการเงิน

ก.ล.ต. กล่าวโทษ บริษัท JKN และนายจักรพงษ์ ต่อ DSI กรณีตกแต่งงบการเงิน

ล่าสุด ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษผู้กระทำความผิด 3 ราย ได้แก่
-บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN
-นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
-นางสาวพิมพ์อุมา จักราจุฑาธิบดิ์ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการสายงานคอนเทนต์
ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กรณีร่วมกันกระทำหรือยินยอมให้มีการลงข้อความเท็จ และ/หรือทำบัญชีไม่ครบถ้วน ไม่ถูกต้อง และไม่ตรงต่อความเป็นจริงในงบการเงินประจำปี 2566 และเอกสารบัญชีสำหรับงวดไตรมาส 1 ปี 2567 ของ JKN
จากกรณีผู้สอบบัญชีของ JKN ได้แจ้งข้อสังเกตเกี่ยวกับธุรกรรมการซื้อลิขสิทธิ์รายการ (Content) ที่ไม่สมเหตุสมผลทางการค้าหลายประเด็น ได้แก่
-การซื้อลิขสิทธิ์ในปี 2567 ซ้ำกับลิขสิทธิ์เดิมที่มีอยู่แล้ว และยังไม่หมดอายุสิทธิ์
-การซื้อลิขสิทธิ์เพิ่มจำนวนมาก ทั้งที่มีลิขสิทธิ์เดิม
-JKN ขาดสภาพคล่อง
-การสั่งซื้อบางรายการอาจไม่มีจริง เอกสารการบันทึกบัญชีไม่สมบูรณ์ และเอกสารการสั่งซื้อลิขสิทธิ์ ไม่สอดคล้องกับข้อมูลที่ผู้สอบบัญชีได้มาจากการตรวจสอบ
ซึ่งเป็นเหตุให้ผู้สอบบัญชี ไม่สามารถแสดงความเห็นต่องบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะกิจการประจำปี 2566 ของ JKN
และทาง ก.ล.ต. ได้ตรวจทานข้อมูลในงบการเงินประจำปี 2563 – 2566 ของ JKN พบว่า สินทรัพย์ประเภทลิขสิทธิ์ มีจำนวนเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ซึ่งไม่สอดคล้องกับรายได้จากการขายลิขสิทธิ์ของ JKN
และยอดลูกหนี้การค้า ณ สิ้นปี มีมูลค่าใกล้เคียงหรือสูงกว่ารายได้ค่าลิขสิทธิ์ จึงน่าเชื่อว่า การขายลิขสิทธิ์ในแต่ละปี JKN ไม่สามารถเก็บเงินจากลูกหนี้การค้าได้ หรือเก็บเงินได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
จึงมีประเด็นสงสัยความสมเหตุสมผลของการซื้อลิขสิทธิ์ และความมีอยู่จริงของลิขสิทธิ์รายการ รวมทั้งความมีตัวตนอยู่จริงของลูกหนี้การค้า และการขายลิขสิทธิ์ให้ลูกหนี้การค้า
และปรากฏข้อเท็จจริงได้ว่า ผู้กระทำความผิด 2 ราย ได้แก่ นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ และนางสาวพิมพ์อุมา จักราจุฑาธิบดิ์
1) ได้ร่วมกันสั่งการหรือกระทำการ สร้างรายการเจ้าหนี้ปลอม และลูกหนี้ปลอม เพื่อนำไปบันทึกบัญชี สำหรับงบการเงินปี 2566 และเอกสารบัญชีสำหรับงวดไตรมาส 1 ปี 2567 และเอกสารหรือรายงานอื่นที่เกี่ยวข้องของ JKN
2) ส่งผลให้งบการเงินของ JKN แสดงยอดรายได้และหนี้สิน สูงกว่าที่ควรจะเป็น
อีกทั้งยังพบการบันทึกบัญชีเจ้าหนี้ค่าลิขสิทธิ์ ไม่ถูกต้องตามงวดที่เกิดขึ้นจริง
3) การกระทำดังกล่าว ส่งผลให้งบการเงินปี 2566 ของ JKN แสดงยอดหนี้สินและสินทรัพย์ น้อยกว่าความเป็นจริง แต่นำเจ้าหนี้การค้ามาบันทึกบัญชีในปี 2567 เพื่อลวงบุคคลใด ๆ ว่าในปี 2567 JKN มีเจ้าหนี้การค้าเพิ่มขึ้น
4) และนำเจ้าหนี้การค้าดังกล่าว ไปใช้สิทธิออกเสียง เพื่อเลือกผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการของ JKN..
การกระทำดังกล่าว เข้าข่ายเป็นความผิดพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535
ก.ล.ต. จึงกล่าวโทษบุคคลทั้ง 3 ราย ต่อ DSI เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
และนอกจากกรณีที่กล่าวโทษในครั้งนี้ ก.ล.ต. ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบขยายผลไปยังกรณีอื่น ๆ ที่มีข้อสงสัย โดยจะประสานความร่วมมือกับ DSI ซึ่งหากดำเนินการแล้วเสร็จ จะมีการเปิดเผยให้ทราบต่อไป
ทั้งนี้ ภายหลังการกล่าวโทษของ ก.ล.ต. กระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาต่อไป เป็นการสอบสวนของพนักงานสอบสวน การสั่งฟ้องคดีของพนักงานอัยการ และการพิจารณาของศาลยุติธรรม ตามลำดับ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon