บริษัทรถยนต์ กำลังแข่งขันกัน ลงทุนบนอวกาศ

บริษัทรถยนต์ กำลังแข่งขันกัน ลงทุนบนอวกาศ

บริษัทรถยนต์ กำลังแข่งขันกัน ลงทุนบนอวกาศ / โดย ลงทุนแมน
อวกาศกับรถยนต์ ดูเป็นอะไรที่ไม่เชื่อมโยงกันเลย
เพราะรถยนต์ วิ่งกันบนพื้นโลก ส่วนอวกาศ ก็น่าจะเกี่ยวกับดาวเทียม จรวด หรือยานอวกาศ
แม้สองอุตสาหกรรมนี้ดูแยกจากกัน แต่ตอนนี้บริษัทรถยนต์หลายเจ้า กลับลงทุนบนอวกาศ จนเรียกได้ว่า บริษัทรถยนต์กำลังแข่งขันกันบนอวกาศ
ก็คงไม่ผิดมากนัก
แล้วทำไมบริษัทรถยนต์ต้องไปแข่งขันบนอวกาศ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
สมัยก่อน ถ้าถามว่าบริษัทรถยนต์แต่ละเจ้า แข่งขันกันเรื่องอะไร คำตอบก็คงเป็นเรื่องดิไซน์ ความปลอดภัย การใช้งาน สมรรถนะ และราคาที่ลูกค้าสามารถจ่ายได้
แต่ไม่ว่าแข่งขันกันเรื่องอะไร สุดท้ายโมเดลธุรกิจของบริษัทรถยนต์ ก็เป็นแบบตรงไปตรงมา
พอผลิตรถยนต์ออกมา 1 คันเสร็จ
ลูกค้าก็จ่ายเงินซื้อรถยนต์คันนั้น และอาจจ่ายเพิ่มขึ้น
แลกกับฟีเชอร์หรือการตกแต่งเพิ่มเติม
ซึ่งแปลว่า ถ้าไม่นับรวมเรื่องบริการหลังการขาย บริษัทรถจะมีรายได้จากการขายรถ 1 คันแค่ครั้งเดียว ก็คือตอนที่ลูกค้าจ่ายเงินซื้อรถคันนั้นไป
ถ้าบริษัทรถอยากมีรายได้เพิ่มขึ้น ก็ต้องขายรถยนต์ให้ได้ปริมาณเยอะ ๆ แบบ Toyota หรือขายรถยนต์ราคาแพง แต่จำกัดปริมาณการผลิตต่อปีแบบ Ferrari ไปเลย
แต่การทำแบบนี้ ไม่ต่างอะไรกับการขายรถไปเรื่อย ๆ
เพราะผลิตรถออกมา แล้วก็ขายไปแบบนี้ซ้ำ ๆ
บริษัทรถยนต์ จึงกำลังหาวิธีที่จะเพิ่มรายได้จากการขายรถ 1 คันให้มากขึ้นด้วยการไม่ใช้วิธีแบบเดิม ๆ อีกต่อไป
วิธีนั้นคือ การหารายได้จากรถ 1 คัน ไปตลอดอายุการใช้งานของรถคันนั้นแทน
แน่นอนว่า ปกติแล้วบริษัทรถ ก็จะมีรายได้จากค่าซ่อมบำรุงหรือบริการต่าง ๆ ที่ลูกค้านำรถกลับมาซ่อมที่ศูนย์ให้บริการอยู่แล้ว
แต่ยุคปัจจุบัน บริษัทรถพยายามเก็บเงินค่าบริการ
รายเดือนจากเจ้าของรถยนต์ เหมือนเวลาที่เราจ่ายค่า
สตรีมมิงดูหนังอย่าง Netflix ในทุก ๆ เดือน
แลกกับการใช้บริการระบบสนับสนุนการขับขี่
หรือที่เรียกว่า Advanced Driver Assistance Systems
ระบบนี้จะใช้เซนเซอร์ กล้อง และซอฟต์แวร์ร่วมกัน
เพื่อเข้าแทรกแซงบางจังหวะของการขับรถของเรา
ที่อาจเกิดอันตรายขึ้นแบบไม่คาดฝันได้
แม้จะเข้าแทรกแซงในบางจังหวะของการขับรถ
แต่เราเองก็ยังเป็นคนควบคุมรถเป็นหลักอยู่เหมือนเดิม
โดยมีซอฟต์แวร์ที่เป็นเหมือนผู้ช่วยคนขับให้กับเราไปตลอดเวลา
แต่ความพยายามในการขายซอฟต์แวร์รายเดือนแบบนี้เอง ก็ทำให้บริษัทรถจำเป็นต้องมีข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อนำมาใช้ในซอฟต์แวร์ช่วยขับขี่ได้ดีมากยิ่งขึ้น
ซึ่งการได้ข้อมูลแบบเรียลไทม์แบบทุกสภาพอากาศ
สิ่งที่มาช่วยได้ในเรื่องนี้ คือ ระบบดาวเทียม..
จึงกลายเป็นที่มาว่า ทำไมบริษัทรถหลายเจ้าในปัจจุบัน กำลังลงทุนบนอวกาศนั่นเอง ไล่ตั้งแต่
- Woven by Toyota บริษัทลูกของ Toyota ลงทุนใน Interstellar บริษัทจรวดญี่ปุ่นกว่า 1,400 ล้านบาท
- Toyota Ventures ลงทุนในสตาร์ตอัป Xona Space
เพื่อสร้างระบบนำร่องดาวเทียมที่แม่นยำมากขึ้น
- กลุ่ม Porsche ร่วมกับ Volkswagen ลงทุนในบริษัทอวกาศ Isar Aerospace ในปี 2021
- Honda ลงทุนวิจัยจรวดใช้ซ้ำเพื่อปล่อยดาวเทียมวงโคจรต่ำตั้งแต่ปี 2019
- Geely ลงทุน 10,698 ล้านบาท เพื่อผลิตดาวเทียมของตัวเอง
รวมไปถึง Tesla ของอีลอน มัสก์ ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทจรวดปล่อยดาวเทียม SpaceX อยู่แล้วด้วย
และในอนาคต ซอฟต์แวร์ที่อาศัยเทคโนโลยีบนอวกาศมาเสริมการใช้งานตัวนี้ ก็ไม่ได้สร้างรายได้แค่ทางตรงให้กับบริษัทรถอย่างเดียว แต่อาจสามารถสร้างรายได้ทางอ้อมได้อีกด้วย
เพราะอย่าลืมว่า สิ่งที่อยู่ในซอฟต์แวร์อันนี้ คือข้อมูลพฤติกรรมการขับขี่รถของเจ้าของรถยนต์แต่ละคน ที่สามารถนำไปเป็นฐานข้อมูลให้กับธุรกิจประกันภัยได้
ถ้าบริษัทรถ อยากทำธุรกิจประกันภัยของตัวเอง ก็สามารถทำได้จากฐานข้อมูลพฤติกรรมการขับขี่รถ ที่นำมาพัฒนาการประเมินความเสี่ยงและคำนวณเบี้ยประกันได้
หรืออาจขายข้อมูลให้กับบริษัทประกันภัยต่าง ๆ เพื่อเป็นรายได้อีกทางหนึ่งก็เป็นไปได้เช่นกัน
นอกจากโอกาสในธุรกิจประกันภัยแล้ว ยังเป็นฐานข้อมูลให้กับบริษัทรถ เพื่อแจ้งเตือนให้เจ้าของรถนำรถกลับมาซ่อมบำรุงที่ศูนย์บริการ เพื่อหารายได้จากค่าบริการเช็กระยะได้อีกทางด้วย
ดังนั้น การที่บริษัทรถลงทุนกับอวกาศ แม้ดูเป็นเรื่องที่
ไม่น่าเชื่อมโยงกันเลย แต่จริง ๆ แล้ว นี่คือการลงทุนกับโอกาสใหม่ของอุตสาหกรรมรถยนต์ที่มหาศาลมาก
ซึ่งถ้าระบบซอฟต์แวร์ช่วยขับขี่ สามารถพัฒนาไปเป็นระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติอย่างสมบูรณ์มากขึ้น ต่อไปรถยนต์ก็จะเป็นสินทรัพย์ในการหารายได้ของเจ้าของรถได้ด้วย
เช่น ถ้าเราเป็นเจ้าของรถขับเคลื่อนอัตโนมัติ เราอาจรับจ้างขับ Grab หรือ Uber โดยที่เราไม่จำเป็นต้องขับเอง แต่ให้รถขับไปทำงานแทนได้เลย
ภาพนี้แม้ดูเป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ แต่ปัจจุบันเราเองก็เห็นภาพของ Waymo รถแท็กซี่อัตโนมัติของ Google ที่วิ่งให้บริการในบางเมืองของสหรัฐฯ ไปแล้ว
เรื่องนี้ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร
เพราะปัจจุบันระบบรถขับเคลื่อนอัตโนมัติ ยังมีปัญหา
เรื่องการร้องเรียนการขับขี่ที่ดูอันตรายมากเกินไป
แต่ที่แน่ ๆ คือ วันนี้อุตสาหกรรมรถยนต์ไม่ได้เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
ตั้งแต่เรามีรถยนต์เกิดขึ้นมา อุตสาหกรรมรถยนต์ก็ถูกพัฒนาเพื่อแข่งขันกันบนท้องถนนเท่านั้น
และมีการผลัดเปลี่ยนประเทศผู้นำในอุตสาหกรรมนี้
เริ่มตั้งแต่สหรัฐฯ เยอรมนี ญี่ปุ่น ไปจนถึงจีน
มาวันนี้ อุตสาหกรรมรถยนต์ไม่ได้แข่งขันกันที่บนท้องถนนอย่างเดียว แต่กำลังแข่งเรื่องเทคโนโลยีที่อยู่นอกโลกกันไปแล้ว..
╔═══════════╗
ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-Why Toyota And Honda Are Investing In Space Technologies by CNBC
-Automotive Mini Report by European Space Agency
-https://www.investopedia.com/articles/investing/052014/how-googles-selfdriving-car-will-change-everything.asp
-https://www.forbes.com/sites/sap/2023/11/22/space-technology-is-driving-autonomous-cars-heres-how-it-works/
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon