อยากมีพอร์ตหุ้น กินปันผล หลังเกษียณ ต้องทำอย่างไร ? สรุปในโพสต์เดียว

อยากมีพอร์ตหุ้น กินปันผล หลังเกษียณ ต้องทำอย่างไร ? สรุปในโพสต์เดียว

อยากมีพอร์ตหุ้น กินปันผล หลังเกษียณ ต้องทำอย่างไร ? สรุปในโพสต์เดียว /โดย ลงทุนแมน
- เชื่อว่า ปลายทางที่มนุษย์วัยทำงานหลายคนต้องการคือ การมีรายได้หรือกระแสเงินสด เพียงพอกับค่าใช้จ่ายหลังเกษียณที่ไม่ได้ทำงานแล้ว
ซึ่งหนึ่งในวิธีที่สามารถพาเราไปถึงจุดนั้นคือ การลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น กองทุนรวม หรือ REIT ก็ตาม
- สำหรับความเห็นของลงทุนแมน ก็มีท่าที่คนทั่วไปน่าจะทำได้คือ วิธีการสร้างพอร์ตกินปันผลหลังเกษียณ โดยมี 2 ขั้นตอนแบบง่าย ๆ
1. ลงทุนให้ได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 8% ต่อปี
ซึ่งตัวเลขผลตอบแทนนี้ อาจดูยากสำหรับบางคน แต่ก็พอเป็นไปได้
เพราะตลาดหุ้นสหรัฐฯ ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 10% ต่อปี ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา
2. เมื่อถึงเวลาเกษียณหรือ 30 ปีผ่านไป นำเงินไปลงทุนในหุ้นปันผล 5% ต่อปีขึ้นไป
- แต่เริ่มแรกของการสร้างพอร์ตกินปันผลหลังเกษียณ ต้องตั้งเป้าก่อนว่า อยากใช้เงินกี่บาทต่อเดือน แล้วคำนวณว่า ทั้งปีเราจะใช้เงินทั้งหมดกี่บาท
เช่น อยากมีเงินใช้ 30,000 บาทต่อเดือน
ดังนั้น ทั้งปีเราจะใช้เงิน = 30,000 x 12 = 360,000 บาท
- ทีนี้เรามาหาจำนวนเงินก้อนที่ต้องมีหลังเกษียณ เพื่อจะได้วางแผนการออมและลงทุนอย่างถูกต้อง
เมื่อเราคาดหวังว่า จะลงทุนในหุ้นที่จ่ายปันผล 5% ต่อปี
ทำให้เราต้องมีเงิน = 360,000 / 5% = 7,200,000 บาท
โดยวิธีคำนวณมาจาก จำนวนเงินลงทุน = จำนวนเงินปันผลที่จะได้รับ / อัตราผลตอบแทนเงินปันผล
- สรุปเป็นตัวเลขแบบง่าย ๆ หากอยากมีเงินใช้หลังเกษียณ
10,000 บาทต่อเดือน เงินก้อนที่ต้องมีหลังเกษียณ 2,400,000 บาท
30,000 บาทต่อเดือน เงินก้อนที่ต้องมีหลังเกษียณ 7,200,000 บาท
50,000 บาทต่อเดือน เงินก้อนที่ต้องมีหลังเกษียณ 12,000,000 บาท
70,000 บาทต่อเดือน เงินก้อนที่ต้องมีหลังเกษียณ 16,800,000 บาท
โดยคาดหวังว่า เงินก้อนหลังเกษียณนี้ จะนำไปลงทุนในหุ้นที่จ่ายปันผล 5% ต่อปี
- มาถึงคำถามสำคัญ เราต้องเก็บเงินต่อเดือนกี่บาท เพื่อให้มีเงินก้อนจำนวนที่ต้องการ หากได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 8% ต่อปี
ซึ่งเราสามารถคำนวณได้ง่าย ๆ หากมีเครื่องคิดเลขทางการเงิน หรือผ่านเว็บไซต์ https://www.allaboutfin.com/fin-program/tvm/calculator-value
โดย
N = ระยะเวลาลงทุน
I = ผลตอบแทน
PV = เงินต้น
FV = เงินก้อนที่ต้องมีหลังเกษียณ
PMT = เงินเก็บต่อเดือน
หากเราต้องการปันผล 30,000 บาทต่อเดือน (หรือต้องมีเงินก้อนหลังเกษียณ 7,200,000 บาท)
N = 30 ปี = 30 x 12 = 360 เดือน
I = 8% ต่อปี = 0.667% ต่อเดือน
PV = 0
FV = 7,200,000
ดังนั้น จะได้ว่า PMT = 4,828 หรือแปลว่า เราต้องเก็บเงิน 4,828 บาทต่อเดือน
- สรุปเป็นตัวเลขแบบง่าย ๆ หากอยากมีเงินใช้หลังเกษียณ
10,000 บาทต่อเดือน ต้องเก็บเงิน 1,610 บาทต่อเดือน
30,000 บาทต่อเดือน ต้องเก็บเงิน 4,828 บาทต่อเดือน
50,000 บาทต่อเดือน ต้องเก็บเงิน 8,046 บาทต่อเดือน
70,000 บาทต่อเดือน ต้องเก็บเงิน 11,264 บาทต่อเดือน
โดยสมมติว่า เราสามารถสร้างผลตอบแทนได้เฉลี่ยปีละ 8% เป็นระยะเวลา 30 ปี
- หากเราคิดว่า ไม่สามารถทำผลตอบแทนได้ดีกว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็ลงทุนกับตลาดไปเลย เช่น
S&P 500 มี ETF ให้เลือกหลัก ๆ 3 ทางเลือก คือ
1. SPDR S&P 500 ETF Trust (SPY)
2. Vanguard S&P 500 ETF (VOO)
3. iShares Core S&P 500 ETF (IVV)
- หลังจากนั้นผ่านไป 30 ปี หรือถึงเวลาเกษียณก็เปลี่ยนพอร์ตมาเน้นลงทุนในหุ้นปันผลสูง
เพื่อให้มีรายได้รองรับค่าใช้จ่ายของเรา
- ตัวอย่างหุ้นที่จ่ายปันผลมากกว่า 5% ต่อปีในปัจจุบัน
หุ้นสหรัฐฯ
1. Altria Group (MO) เป็นผู้ผลิตบุหรี่ Marlboro
2. Franklin Resources (BEN) บริษัทด้านการลงทุน
3. OUTFRONT Media (OUT) ทำธุรกิจสื่อกลางแจ้ง
หุ้นไทย
1. SCB ธุรกิจธนาคาร
2. KBANK ธุรกิจธนาคาร
3. KTB ธุรกิจธนาคาร
อย่างไรก็ตาม การที่หุ้นจะจ่ายปันผลสูงกว่า 5% ต่อปี ไม่ได้หมายความว่า จะสามารถปันผลสูงได้ตลอดไป เพราะในอนาคต หากผลประกอบการแย่ลง บริษัทก็จะมีความสามารถในการจ่ายปันผลน้อยลงเช่นกัน
ดังนั้น แม้ว่าเราจะวางแผนสร้างพอร์ตเป็นอย่างดีแล้ว แต่ก็ต้องไม่ลืมติดตามผลประกอบการของบริษัท และตัวธุรกิจของบริษัทว่ายังแข็งแกร่งอยู่หรือไม่ อย่างสม่ำเสมอด้วย เพื่อจะให้ได้พอร์ตที่สร้างปันผลได้อย่างมั่นคงในระยะยาว
หมายเหตุ : บทความที่นำเสนอนี้เป็นเพียงแนวทางและมุมมองเท่านั้น ผู้อ่านคือผู้ตัดสินใจแต่เพียงผู้เดียว ในการรับความเสี่ยงและผลตอบแทนจากการลงทุน โปรดศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบและพิจารณาถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องด้วยตัวเองเสมอ
References
- Google Finance และ SET
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon