Talent Management กลยุทธ์บริหารคนเก่งในโลกการทำงานยุค AI มีอะไรบ้าง

Talent Management กลยุทธ์บริหารคนเก่งในโลกการทำงานยุค AI มีอะไรบ้าง

ฮิวแมนซอฟท์ x ลงทุนแมน
ในยุคที่เทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยเฉพาะ AI และระบบอัตโนมัติ กำลังเข้ามาแทนที่งานบางประเภทอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันพนักงานยุคใหม่ก็มีความคาดหวังที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา องค์กรจึงต้องหันกลับมาทบทวนว่ากลยุทธ์ Talent Management ที่เคยใช้ได้ผลในอดีต…ยังเวิร์กในโลกการทำงานยุคใหม่อยู่หรือเปล่า?
เข้าใจบริบทใหม่ของ Talent ในยุค AI - การบริหารคนเก่งในยุค AI ไม่ได้หมายถึงแค่การเฟ้นหาผู้มีความรู้เชิงเทคนิคหรือทักษะเฉพาะทางเท่านั้น แต่หมายถึงการมองเห็น “ศักยภาพที่เติบโตได้” ของพนักงานในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว คนที่สามารถเรียนรู้ไว ปรับตัวได้ดี และทำงานร่วมกับเทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ จะกลายเป็น Talent ที่องค์กรต้องการมากกว่าคนที่เก่งแบบคงที่ (static skillset)

AI และระบบอัตโนมัติจะเข้ามาทำงานซ้ำ ๆ แทนมนุษย์มากขึ้น แต่ขณะเดียวกัน ก็เปิดโอกาสให้ “คน” ได้โฟกัสกับงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ และทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ (soft skills) ซึ่งกลายเป็นคุณสมบัติใหม่ของ Talent ยุค 2025 ดังนั้นองค์กรที่เข้าใจความหมายของ Talent แบบใหม่ จะสามารถวางแผนคัดเลือก พัฒนา และรักษาคนเก่งได้ตรงจุด และตอบรับกับโลกการทำงานที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างแท้จริง
กลยุทธ์บริหารคนเก่งในโลกการทำงานยุค AI มีอะไรบ้าง
ในโลกการทำงานที่เทคโนโลยีก้าวล้ำอย่างรวดเร็ว องค์กรที่ต้องการรักษาและพัฒนาคนเก่ง (Talent) ให้เติบโตไปพร้อมกัน จำเป็นต้องปรับวิธีคิด และออกแบบระบบการทำงานใหม่ทั้งหมด ไม่ใช่แค่เรื่องเครื่องมือ แต่คือการเข้าใจ “คน” ให้ลึกขึ้น และสร้างสภาพแวดล้อมที่ตอบโจทย์ทั้งความสามารถและความคาดหวังของคนรุ่นใหม่ ต่อไปนี้คือกลยุทธ์สำคัญที่องค์กรยุคใหม่ควรนำมาใช้ในการบริหาร Talent อย่างยั่งยืน
1. ปรับตัวให้เข้ากับ Future of Work
อนาคตของการทำงานไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่คือการเปลี่ยนแปลงของวิธีคิด โครงสร้างงาน และความคาดหวังของคนทำงาน องค์กรจำเป็นต้องออกแบบรูปแบบงานให้ยืดหยุ่นมากขึ้น สนับสนุนการทำงานข้ามทีม และเปิดรับการทดลองสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้ Talent รู้สึกว่าองค์กรพร้อมเปลี่ยนไปพร้อมกับพวกเขา ไม่ใช่ฉุดรั้งพวกเขาไว้กับรูปแบบเดิม
2. ใช้ AI และ HR Tech เป็นตัวช่วย ไม่ใช่ตัวแทน
HR Tech และ AI ไม่ได้เข้ามาแย่งงาน HR แต่เข้ามาเสริมศักยภาพของ HR ในการบริหาร Talent เช่น การใช้ AI คัดกรองผู้สมัคร การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อคาดการณ์ความเสี่ยงในการลาออก หรือระบบ Learning Platform ที่แนะนำทักษะใหม่ ๆ ตามสายงานและเป้าหมายของแต่ละคน การใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาดจึงเป็นหัวใจของ Talent Management ยุคใหม่
3. ตอบโจทย์ความคาดหวังของพนักงานยุคใหม่
พนักงานรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Gen Z และ Millennials ให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่น, ความหมายของงาน, และโอกาสในการเติบโตมากกว่าตำแหน่งหรือเงินเดือนเพียงอย่างเดียว พวกเขาต้องการองค์กรที่ “ฟัง” และ “ปรับ” ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป ดังนั้น การออกแบบประสบการณ์ทำงาน (Employee Experience) ที่เน้นการมีส่วนร่วม ความโปร่งใส และความยืดหยุ่นจึงสำคัญอย่างยิ่ง
4. สร้างวัฒนธรรมองค์กรแบบยืดหยุ่นและเปิดกว้าง
วัฒนธรรมที่เปิดรับความหลากหลาย และพร้อมปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว คือจุดแข็งในการดึงดูด Talent ยุคใหม่ องค์กรต้องสร้างพื้นที่ที่พนักงานทุกคนรู้สึกว่ามีคุณค่า กล้าแสดงออก และได้ทำงานในสภาพแวดล้อมที่เคารพความแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นเพศ วัย หรือพื้นฐานชีวิต เพราะ Talent จะอยู่กับองค์กรที่ “เขาเป็นตัวของตัวเองได้” ไม่ใช่แค่ที่เขาทำงานได้ดี
5. เร่งพัฒนา Reskill / Upskill และ Internal Mobility
เมื่อ AI เข้ามาแทนที่งานบางส่วน การพัฒนา Skill ใหม่ให้พนักงานไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่คือความจำเป็น การลงทุนในระบบการเรียนรู้ภายในองค์กร รวมถึงการสร้างโอกาสโยกย้ายสายงานหรือบทบาทภายใน (Internal Mobility) จะช่วยรักษา Talent ไว้ได้ในระยะยาว และลดความจำเป็นในการสรรหาคนใหม่ตลอดเวลา
6. เชื่อมโยง Talent เข้ากับ Employee Experience
Talent จะอยู่หรือไป ไม่ได้ตัดสินแค่วันที่สัมภาษณ์ แต่ตลอดเส้นทางการทำงานในองค์กร Employee Experience จึงต้องถูกออกแบบอย่างใส่ใจ ตั้งแต่ onboarding วันแรก ไปจนถึงการให้ feedback ที่ต่อเนื่อง และการสร้างเส้นทางเติบโตอย่างมีความหมาย การวางประสบการณ์ทำงานให้เหมือนการดูแล “ลูกค้าคนสำคัญ” จะช่วยเพิ่มความผูกพันแก่พนักงาน และลดอัตราการลาออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
7. บริหาร Talent ในโลกการทำงานแบบ Hybrid และ Remote
การบริหารคนในยุคที่ไม่ได้เจอหน้ากันทุกวัน ต้องเปลี่ยนจากการวัดผลที่เน้นเวลา มาเป็นการวัดผลตามผลงานจริง (Outcome-based) ผู้นำต้องปรับตัวให้สามารถสื่อสารและสร้างความไว้วางใจจากระยะไกลได้ ในขณะเดียวกัน HR ควรสนับสนุนเครื่องมือที่ทำให้พนักงานเชื่อมโยงกันอยู่เสมอ เช่น ระบบ Virtual Engagement, Recognition Online, หรือ Pulse Survey
ในการทำงานที่ Talent คือพลังขับเคลื่อนสำคัญขององค์กร และเทคโนโลยีคือเครื่องเร่งความเร็ว การบริหารคนเก่งจึงไม่ใช่แค่การ “รักษาไว้” แต่คือการ “สร้างเงื่อนไขให้เขาอยากเติบโตไปกับองค์กร” องค์กรที่เข้าใจบริบทใหม่ของการทำงาน กล้าปรับวิธีคิด และลงทุนกับทั้งคนและเทคโนโลยีอย่างสมดุล จะสามารถดึงดูด Talent ที่ดีที่สุด และพร้อมนำพาทีมฝ่าทุกความเปลี่ยนแปลงได้อย่างยั่งยืน

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon