Porsche หุ้นร่วง -60% ใน 2 ปี ซื้อหุ้น อาจขาดทุนมากกว่าซื้อรถ

Porsche หุ้นร่วง -60% ใน 2 ปี ซื้อหุ้น อาจขาดทุนมากกว่าซื้อรถ

Porsche หุ้นร่วง -60% ใน 2 ปี ซื้อหุ้น อาจขาดทุนมากกว่าซื้อรถ /โดย ลงทุนแมน
ชุดความคิดที่บอกว่า ถ้าซื้อของแบรนด์หรู ให้ลงทุนเป็นเจ้าของแบรนด์หรูนั้นดีกว่า เพราะเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งและเป็นที่รู้จัก
อาจใช้ไม่ได้กับ Porsche แบรนด์รถหรูสัญชาติเยอรมัน
ปี 2023 Porsche (Porsche AG) เคยมีมูลค่าบริษัทสูงสุดอยู่ที่ 4 ล้านล้านบาท
แต่มาวันนี้ Porsche กลับมีมูลค่าบริษัทเหลือเพียง 1.5 ล้านล้านบาท ซึ่งต่ำกว่ามูลค่าบริษัทตอน IPO ปี 2022 ที่ 2.8 ล้านล้านบาทด้วย
แปลว่า จากจุดสูงสุดจนถึงวันนี้ หุ้น Porsche ให้ผลตอบแทนขาดทุนไปแล้วกว่า -60% และ -46% จากมูลค่าบริษัทตอน IPO
เกิดอะไรขึ้นกับ Porsche ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
Porsche ก่อตั้งโดยคุณ Ferdinand Porsche ในปี 1931 หรือ 94 ปีที่แล้ว
ซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ภายใต้เครือ Volkswagen ร่วมกับค่ายดังอื่น ๆ เช่น Audi, Lamborghini, Bentley, Ducati
โดย Porsche AG มีบริษัท Volkswagen เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 75%
และ Volkswagen ก็มีผู้ถือหุ้นใหญ่เบอร์ 1 ที่ถือหุ้นในสัดส่วน 32% คือ Porsche SE ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิง ถือหุ้นโดยตระกูล Porsche อีกที..
และ Porsche SE ยังถือหุ้น Porsche AG ในสัดส่วน 13% อีกด้วย
ซึ่งการ IPO ของ Porsche ในปี 2022 ที่ผ่านมา
ถือเป็นหนึ่งในการ IPO ครั้งใหญ่สุดของยุโรป
ในมุมของมูลค่าบริษัท
ราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
จนครั้งหนึ่ง Porsche กลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในยุโรป แซงหน้าบริษัทแม่อย่าง Volkswagen
และตัวแบรนด์ Porsche เอง มักถูกจัดให้ติดอันดับ 1 ใน 100 แบรนด์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกอยู่เสมอ จาก Interbrand บริษัทที่ปรึกษาแบรนด์ชั้นนำระดับโลก
ที่สะท้อนจาก ความแข็งแกร่งด้านการเงินของบริษัท, ความแข็งแกร่งทางการแข่งขันของแบรนด์
รวมถึงภาพรวมทั้งหมด ความรู้สึก ประสบการณ์ และคุณค่าที่ผู้บริโภคได้รับ
แต่ดูจาก มูลค่าบริษัทในปัจจุบัน ที่เหลือเพียง 1.5 ล้านล้านบาท จากจุดสูงสุด 4 ล้านล้านบาท และต่ำกว่ามูลค่าบริษัทตอน IPO ที่ 2.8 ล้านล้านบาท
อาจจะสวนทางกับความรู้สึกของหลายคน ที่มีต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์รถหรูนี้
ผลประกอบการที่ผ่านมา
- ปี 2022
รายได้ 1.41 ล้านล้านบาท
กำไร 0.19 ล้านล้านบาท
ยอดส่งมอบรถ 309,884 คัน
- ปี 2023
รายได้ 1.52 ล้านล้านบาท
กำไร 0.19 ล้านล้านบาท
ยอดส่งมอบรถ 320,211 คัน
- ปี 2024
รายได้ 1.50 ล้านล้านบาท
กำไร 0.13 ล้านล้านบาท
ยอดส่งมอบรถ 310,718 คัน
- ครึ่งปีแรกของปี 2025
รายได้ 0.68 ล้านล้านบาท
กำไร 0.03 ล้านล้านบาท
ยอดส่งมอบรถ 146,391 คัน
แม้ว่าปี 2023 บริษัททำสถิติส่งมอบรถได้สูงสุดของบริษัท แต่แนวโน้มกำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง
ครึ่งปีแรกของปี 2025 เทียบกับปีก่อน ลดลงไป -6%
ซึ่งตัวฉุดสำคัญมาจาก ยอดส่งมอบรถในเยอรมนี และจีนที่ลดลง โดยเฉพาะจีนที่ลดลงไปถึง -28%
โดยสถานการณ์ที่ Porsche เผชิญอยู่ในช่วงเวลานี้คือ การเปลี่ยนผ่านสำคัญ จากรถยนต์ใช้น้ำมัน เป็นรถยนต์ไฟฟ้า
ซึ่งความเชี่ยวชาญและห่วงโซ่อุปทานที่สั่งสมมายาวนานของ Porsche มุ่งเน้นไปที่เครื่องยนต์สันดาปเป็นหลัก
แม้จะเป็นแหล่งกำเนิดของชื่อเสียงแบรนด์ที่โด่งดัง
แต่วันนี้กลับกลายเป็นต้นทุนการเปลี่ยนผ่านที่สูง
ปัจจุบัน Porsche ยังคงมุ่งไปที่การผลิตและพัฒนา ทั้งรถยนต์เครื่องยนต์สันดาป และรถยนต์ Plug-in Hybrid ควบคู่ไปกับรถยนต์ไฟฟ้า EV พร้อมกัน
สิ่งที่ตามมาคือ การลงทุนที่ไม่มีประสิทธิภาพสูงสุด
เพราะการกระจายทรัพยากรมากเกินไป
และไม่กี่ปีมานี้ บริษัทยังต้องทุ่มเม็ดเงินลงทุนมหาศาลอย่างต่อเนื่องหลักแสนล้านบาท สำหรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งด้านการวิจัยและพัฒนา ปรับปรุงไลน์การผลิต และการลงทุนในเทคโนโลยีแบตเตอรี่
ซึ่งทำให้บริษัทมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรลดลง
นอกจากนี้ที่ผ่านมา การที่รถยนต์สันดาปได้รับแรงกดดันโดยตรงจากกฎระเบียบและนโยบายภาครัฐหลายประเทศทั่วโลก
ทำให้ Porsche ต้องยกเลิกการผลิตและจำหน่ายรถยนต์สันดาปบางรุ่น ในหลายตลาด ขณะที่ผลักดันรถยนต์ไฟฟ้าในรุ่นนั้น ๆ มาทดแทนไม่ทัน จึงเกิดช่องว่างของผลิตภัณฑ์
รวมไปถึงยังเจอความท้าทายจากคู่แข่งรายใหม่ โดยเฉพาะแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจีน ที่สามารถพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็ว
โดยชูจุดเด่นของรถยนต์ตรงที่ ราคาถูกกว่าและเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่า ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคท้องถิ่นได้มากกว่า
ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้ยอดส่งมอบรถของ Porsche ในประเทศจีนลดลงอย่างต่อเนื่อง
ทั้งที่อดีตเคยเป็นตลาดใหญ่ที่สุดคิดเป็น 30% ของยอดส่งมอบรถทั้งหมด แต่ตอนนี้เหลือเพียง 15% ตามหลังอเมริกาเหนือและยุโรป
และในมุมของความต้องการของผู้บริโภคที่ระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น จากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ภาษีการค้าที่เพิ่มขึ้น
รวมถึงชะลอการตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยเหตุผลเช่น ต้องการที่จะรอเทคโนโลยีที่ใหม่กว่าและมีประสิทธิภาพมากกว่า
ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เอง เป็นแรงกดดันสำคัญที่ฉุดผลประกอบการของบริษัทในช่วงที่ผ่านมา
ถึงตรงนี้ มูลค่าบริษัทที่ตลาดให้กับ Porsche ตอนนี้ สะท้อนว่า แม้ว่าจะเป็นแบรนด์หรูที่มีประวัติยาวนานและแข็งแกร่ง ก็ยังต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างหนักในปัจจุบัน
เรื่องนี้อาจไม่ได้แปลว่า แบรนด์ไม่มีความหมาย
แต่ยิ่งในอุตสาหกรรมที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลง อาจหมายความว่า แค่ภาพลักษณ์ของแบรนด์อย่างเดียวคงไม่พอ ต้องมีความสามารถในการปรับตัวและสร้างสรรค์นวัตกรรมด้วย..
ปิดท้ายด้วย ถ้าปี 2023 เรานำเงิน 8 ล้านบาทไป
- ซื้อหุ้น Porsche AG ตอนที่มีมูลค่าบริษัทราว 4 ล้านล้านบาท
- ซื้อรถมือหนึ่ง Porsche Cayenne ซึ่งถือเป็นหนึ่งในรุ่นยอดนิยมของ Porsche ในราคา 8 ล้านบาท
ผ่านมาวันนี้
- เงินที่ซื้อหุ้น Porsche AG จะเหลือ 3.2 ล้านบาท
- ขณะที่โดยเฉลี่ยแล้วราคารถยนต์มือสอง ลดลงปีละ 15% เท่ากับ Porsche Cayenne จะเหลือราคาราว 5.8 ล้านบาท
แปลว่า ถ้าเราซื้อหุ้น Porsche ไป อาจขาดทุนมากกว่าซื้อรถอีก..
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon