
สรุปเส้นทาง JERA Cloud สตาร์ตอัปไทยที่ครองตลาด Beauty & Wellness POS ก่อนปิดดีลใหญ่กับ LINE MAN Wongnai
LINE MAN Wongnai x ลงทุนแมน
ปี 2025 ธุรกิจความสวยความงามและคลินิกในไทย มีมูลค่ากว่า 76,500 ล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตเฉลี่ยปีละกว่า 12%
ด้วยตลาดที่ใหญ่และขยายตัวต่อเนื่องแบบนี้ ย่อมดึงดูดให้หลายธุรกิจเข้ามาจับโอกาสเพื่อแบ่งเค้กในตลาด
หนึ่งในธุรกิจที่เติบโตควบคู่กับเทรนด์นี้ก็คือ “ระบบ POS สำหรับคลินิกความงาม”
เพราะ POS ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องคิดเงิน แต่คือระบบบริหารคลินิกความงามครบวงจร ช่วยจัดการนัดหมายลูกค้า เก็บข้อมูลการรักษา ดูแลงานหลังบ้านทั้งการบริหารตารางหมอและพนักงาน ไปจนถึงทำ CRM และการตลาดออนไลน์-ออฟไลน์ เพื่อเพิ่มยอดขายให้คลินิก
เพราะ POS ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องคิดเงิน แต่คือระบบบริหารคลินิกความงามครบวงจร ช่วยจัดการนัดหมายลูกค้า เก็บข้อมูลการรักษา ดูแลงานหลังบ้านทั้งการบริหารตารางหมอและพนักงาน ไปจนถึงทำ CRM และการตลาดออนไลน์-ออฟไลน์ เพื่อเพิ่มยอดขายให้คลินิก
ยิ่งคลินิกมีลูกค้ามาก ระบบ POS ก็ยิ่งจำเป็น เพราะช่วยให้การทำงานลื่นไหล ยกระดับการให้บริการ และเจ้าของแพลตฟอร์มก็เติบโตตามไปด้วย
ภาพนี้ยิ่งชัดเจนขึ้น เมื่อ LINE MAN Wongnai เข้าซื้อกิจการ JERA Cloud สตาร์ตอัปไทยที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาด POS ความงามอันดับ 1 ด้วยฐานลูกค้ากว่า 1,700 แห่ง และยอดขายรวมของคลินิกบนระบบของ JERA Cloud กว่า 26,000 ล้านบาทในปี 2025 คิดเป็น 1 ใน 3 ของตลาดคลินิกความงาม
และที่สำคัญคือสตาร์ตอัปรายนี้เติบโตด้วยตัวเองแบบออร์แกนิก โดยไม่เคยพึ่งเงินทุนจากนักลงทุนเลย
และที่สำคัญคือสตาร์ตอัปรายนี้เติบโตด้วยตัวเองแบบออร์แกนิก โดยไม่เคยพึ่งเงินทุนจากนักลงทุนเลย
ลงทุนแมนมีโอกาสพูดคุยพิเศษกับทีมผู้ก่อตั้ง JERA Cloud เพื่อเจาะลึกเรื่องราวและมุมมองเบื้องหลังดีลครั้งสำคัญนี้
เส้นทางของ JERA Cloud เริ่มต้นขึ้นมาอย่างไร ?
อะไรทำให้บริษัทเล็ก ๆ ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ได้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
อะไรทำให้บริษัทเล็ก ๆ ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ได้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
บริษัท ละมุนภัณฑ์ ไอที จำกัด หรือเจ้าของ JERA Cloud ก่อตั้งขึ้นในปี 2017
โดย 3 เพื่อนร่วมทีม ได้แก่ ผศ.ดร.บัณฑิต ฐานะโสภณ (คุณแจ็ค), อิระวัฏฐ์ วงษ์สัจจา (คุณเอ๋ย) และคณิน เพียรวิริยะกุลกิจ (คุณซัน)
โดย 3 เพื่อนร่วมทีม ได้แก่ ผศ.ดร.บัณฑิต ฐานะโสภณ (คุณแจ็ค), อิระวัฏฐ์ วงษ์สัจจา (คุณเอ๋ย) และคณิน เพียรวิริยะกุลกิจ (คุณซัน)
คุณแจ็คและคุณเอ๋ย รู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนวิศวะ จุฬาฯ ก่อนจะแยกย้ายไปทำงานคนละสาย คุณแจ็คเป็นอาจารย์ด้านคอมพิวเตอร์ที่ลาดกระบัง ส่วนคุณเอ๋ยทำงานโกดังสินค้า
จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นเมื่อแฟนของคุณเอ๋ยที่ทำคลินิกความงาม กำลังหาซอฟต์แวร์มาช่วยจัดการ แต่ไม่มีตัวไหนตอบโจทย์ คุณเอ๋ยจึงชวนคุณแจ็คมาคุย ซึ่งเขาตอบว่า “ทำได้ แต่ถ้าจะทำ ต้องทำให้ขายคลินิกอื่นได้ด้วย”
ในเวลานั้น คลินิกส่วนใหญ่ยังใช้โปรแกรมจัดการคลินิกที่รองรับงานคลินิกทั่ว ๆ ไป แต่เก็บข้อมูลได้เพียงพื้นฐาน ไม่ได้เจาะจงกับงานคลินิกความงามโดยเฉพาะ
นี่จึงกลายเป็นช่องว่างที่ทีมผู้ก่อตั้งมองเห็น และเลือกสร้างระบบใหม่บน “Cloud” ซอฟต์แวร์ที่ทำงานผ่านอินเทอร์เน็ต ใช้ได้หลายอุปกรณ์ ไม่ต้องติดตั้ง และออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์คลินิกความงามโดยเฉพาะ ที่สามารถจัดการได้ทั้งลูกค้า หมอ พนักงาน และการตลาด
ชื่อ JERA Cloud ก็มาจากการผสมชื่อ “แจ็ค” ขึ้นต้นด้วย J และ “อิระวัฏฐ์” ขึ้นต้นด้วย ERA เข้าด้วยกัน เป็นคำว่า “JERA” โดยคำว่า “จิรา” ยังสื่อถึงความยั่งยืนและมั่นคง
ช่วงแรก คุณเอ๋ยและคุณแจ็คเริ่มชวนทีมเข้ามาพัฒนาระบบหลังบ้าน และได้เจอกับคุณซัน ซึ่งเป็นนักพัฒนา รวมถึงลูกศิษย์ของคุณแจ็คที่เข้ามาร่วมด้วย
สเต็ปแรกของทีมคือการสร้าง MVP (Minimum Viable Product) หรือเวอร์ชันต้นแบบ เพื่อพิสูจน์ว่าใช้ได้จริงและตอบโจทย์คลินิก
เพียง 6 เดือนหลังเริ่มพัฒนา MVP แรกก็ถูกนำไปใช้จริงในคลินิกของแฟนคุณเอ๋ย เพื่อทดสอบและปรับปรุง ก่อนที่ทีมจะเริ่มนำไปเสนอขายกับคลินิกอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม การทำสตาร์ตอัปไม่เคยง่าย “มันจะไม่เหมือนที่เราคิด 100%”
โดยเฉพาะซอฟต์แวร์ด้านหลังบ้าน ที่ลูกค้ามักไม่เปลี่ยนระบบบ่อย เพราะมีต้นทุนทั้งเรื่องเวลาและการปรับตัวสูง
โดยเฉพาะซอฟต์แวร์ด้านหลังบ้าน ที่ลูกค้ามักไม่เปลี่ยนระบบบ่อย เพราะมีต้นทุนทั้งเรื่องเวลาและการปรับตัวสูง
ทุกครั้งที่เข้าไปขาย ก็มักจะถูกถามว่า “ทำไมไม่มีฟีเจอร์นี้” หรือ ถูกปฏิเสธว่า “ระบบยังไม่รองรับงานแบบที่คลินิกต้องการ”
ฟีเจอร์พื้นฐานอย่างการพิมพ์ใบเสร็จ การจัดการสต็อก หรือการบริหารคอร์สทรีตเมนต์ เป็นสิ่งที่ JERA Cloud เวอร์ชันแรกยังไม่มี แต่ทีมก็เก็บทุกฟีดแบ็กกลับมาพัฒนาต่อเนื่อง จนระบบเริ่มตอบโจทย์และสร้างความเชื่อมั่นได้มากขึ้น
ผลลัพธ์จึงเริ่มชัดเจน จากปีแรกที่มีพาร์ตเนอร์ 80 คลินิก เพิ่มเป็น 180 ราย และแตะ 300 รายในปี 2019
แต่ในจังหวะที่ทุกอย่างกำลังไปได้สวย... โลกกลับเจอวิกฤติโรคระบาดใหญ่ กิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก รวมถึงคลินิกความงามที่เป็นลูกค้าหลักของ JERA Cloud ด้วย
ครั้งนั้นเลยกลายเป็น บททดสอบครั้งใหญ่ ของบริษัท...
เพราะไม่มีเงินทุนสำรองก้อนใหญ่ ขณะที่พนักงานยังต้องได้รับเงินเดือน ส่วนลูกค้าส่วนใหญ่ก็ขอพักการจ่ายเงิน การหาลูกค้าใหม่แทบเป็นไปไม่ได้
คุณแจ็คกับคุณเอ๋ยจึงยอมไม่รับเงินเดือน เพื่อเก็บไว้ดูแลทีมงาน
คุณแจ็คกับคุณเอ๋ยจึงยอมไม่รับเงินเดือน เพื่อเก็บไว้ดูแลทีมงาน
คุณเอ๋ยเล่าว่า “บางวันผมต้องเดินทางไปหาลูกค้า และบางครั้งต้องรอนานกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อคุยกับหมอได้เพียงวันละ 1-2 เจ้า แต่ผมก็ยอมรอ ถึงแม้วันนั้นจะไม่ได้ปิดดีลเลยก็ตาม”
จนเมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้น ความต้องการด้านความงามก็พุ่งขึ้นทันที จากทั้งความอัดอั้นช่วงล็อกดาวน์ และกระแสการดูแลตัวเองที่แรงขึ้น
พร้อมกันนั้น วิกฤติโรคระบาดยังเร่งให้ผู้คนคุ้นกับดิจิทัล เจ้าของคลินิกเริ่มมองหาวิธีจัดการธุรกิจด้วยระบบที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม
“ระบบหลังบ้านที่ดี” จึงกลายเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นการจัดการข้อมูลลูกค้า ระบบ CRM ที่ช่วยเพิ่มยอดขาย หรือซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจความงามโดยเฉพาะ
และในจังหวะนั้นเอง ชื่อที่ถูกพูดถึงมากที่สุดก็คือ “JERA Cloud” เพราะนอกจากระบบที่แข็งแรงแล้ว JERA Cloud ยังเน้นใช้วิธี Demo นำเสนอการใช้งานให้เจ้าของคลินิก และเทรนนิงออนไลน์แบบ 100% ทำให้พนักงานคลินิกใช้งานได้ตั้งแต่วันแรก จากที่เคยขายได้เดือนละ 5-10 เจ้า ก็เพิ่มขึ้นเป็น 20-30 เจ้าต่อเดือน จนในปี 2023 ได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดอันดับ 1 ที่มีคลินิกความงามใช้งานมากที่สุด
ปัจจุบัน JERA Cloud มีฐานลูกค้าคลินิกกว่า 1,700 ราย มียอดขายรวมของร้านที่ใช้ระบบปีละราว 20,000 ล้านบาท คิดเป็นเกือบ 1 ใน 3 ของตลาดคลินิกความงามทั้งหมด
แล้วอะไรคือจุดแข็งที่ทำให้ JERA Cloud ก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งในตลาด ?
จุดที่ 1 คือ ฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจความงามโดยเฉพาะ
ตั้งแต่การเก็บข้อมูลลูกค้า ประวัติการรักษา ไปจนถึงฟีเจอร์เฉพาะ เช่น เปรียบเทียบรูปภาพก่อน-หลัง บันทึกตำแหน่งทรีตเมนต์บนใบหน้า และการจัดการคอร์ส รวมไปถึงบริการลูกค้าแบบ Self-Service ให้ลูกค้าสามารถจองคิว ดูประวัติการรักษา หรือซื้อคอร์สได้เอง
ตั้งแต่การเก็บข้อมูลลูกค้า ประวัติการรักษา ไปจนถึงฟีเจอร์เฉพาะ เช่น เปรียบเทียบรูปภาพก่อน-หลัง บันทึกตำแหน่งทรีตเมนต์บนใบหน้า และการจัดการคอร์ส รวมไปถึงบริการลูกค้าแบบ Self-Service ให้ลูกค้าสามารถจองคิว ดูประวัติการรักษา หรือซื้อคอร์สได้เอง
จุดที่ 2 คือ การต่อยอดเป็นระบบ CRM แบบครบวงจร
ช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า ติดตามความถี่ในการใช้บริการ และส่งโปรโมชันเฉพาะบุคคล เพื่อกระตุ้นให้กลับมาใช้งานซ้ำ
ช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า ติดตามความถี่ในการใช้บริการ และส่งโปรโมชันเฉพาะบุคคล เพื่อกระตุ้นให้กลับมาใช้งานซ้ำ
จุดที่ 3 คือ การบริหารตารางหมอและพนักงาน ดูแลงานหลังบ้าน เช่น ค่ามือ ค่าคอมมิชชัน และค่าแรงอย่างเป็นระบบ ทำให้ผู้บริหารควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น ลดภาระงานเอกสารของพนักงาน และนำเวลาไปใช้กับการบริการดูแลลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น
สิ่งนี้กลายเป็นหัวใจของธุรกิจความงาม
เพราะเอาจริง ๆ แล้ว คลินิกแทบทุกแห่งก็มีสินค้าและบริการคล้ายกัน
แต่สิ่งที่สร้างความแตกต่างคือ “บริการ” และ “ความประทับใจของลูกค้า” ซึ่งรายได้หลักมาจากการซื้อแพ็กเกจและการกลับมาใช้บริการซ้ำ ไม่ใช่เพียงครั้งเดียว
เพราะเอาจริง ๆ แล้ว คลินิกแทบทุกแห่งก็มีสินค้าและบริการคล้ายกัน
แต่สิ่งที่สร้างความแตกต่างคือ “บริการ” และ “ความประทับใจของลูกค้า” ซึ่งรายได้หลักมาจากการซื้อแพ็กเกจและการกลับมาใช้บริการซ้ำ ไม่ใช่เพียงครั้งเดียว
ปัจจุบัน JERA Cloud มีลูกค้าคลินิกความงามตั้งแต่ SME ไปจนถึงแบรนด์ใหญ่ เช่น Aura Bangkok Clinic และยังขยายสู่ธุรกิจทันตกรรม อย่าง Teeth Talk รวมถึงเตรียมขยายไปยังธุรกิจร้านเสริมสวยขนาดเล็ก เช่น ร้านทำผม, ทำเล็บ, สปา, ร้านนวด ฯลฯ
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนน่าจะพอมองเห็นเส้นทางของ JERA Cloud ทั้งการเติบโต อุปสรรค และบททดสอบที่ต้องฝ่าฟันมา
คำถามต่อไปก็คือ อะไรที่ทำให้ LINE MAN Wongnai มองเห็นคุณค่าใน JERA Cloud ?
คุณยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai เล่าว่า
“ปัจจุบัน LINE MAN Wongnai เป็นผู้นำในตลาด POS ร้านอาหาร แต่เป้าหมายของเรามีมากกว่านั้น เราอยากผลักดันให้ธุรกิจไทย โดยเฉพาะเอสเอ็มอี ก้าวสู่ยุคดิจิทัล หรือที่เราเรียกว่า Digitalize Thailand และขึ้นมาเป็นผู้นำระบบ POS สัญชาติไทยอย่างแท้จริง”
หัวใจของแผนนี้คือ การต่อยอด Merchant Digital Solutions ผ่าน 3 มิติหลัก ได้แก่
1. Customer Expansion ขยายฐานลูกค้าไปยังร้านค้าขนาดเล็ก และร้านที่กำลังเติบโต
2. Product Expansion พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น Mobile Ordering, Payment และ CRM
3. Industry Expansion ขยายจากร้านอาหาร ไปสู่ธุรกิจอื่น ๆ เช่น Beauty, Clinic และ Wellness
2. Product Expansion พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น Mobile Ordering, Payment และ CRM
3. Industry Expansion ขยายจากร้านอาหาร ไปสู่ธุรกิจอื่น ๆ เช่น Beauty, Clinic และ Wellness
จุดนี้เองที่ทำให้การควบรวมกับ JERA Cloud กลายเป็นคำตอบสำคัญ
เพราะสามารถเติมเต็มมิติที่ 3 ได้อย่างพอดี
เพราะสามารถเติมเต็มมิติที่ 3 ได้อย่างพอดี
คุณยอดอธิบายว่า เหตุผลที่เลือก JERA Cloud มีอยู่ 3 ข้อหลัก
1. เปิดน่านน้ำใหม่ให้ LINE MAN Wongnai เข้าสู่ตลาดความงาม โดยไม่ต้องเริ่มนับหนึ่งเอง
2. JERA Cloud เป็นผู้นำ POS ความงามอยู่แล้ว ทั้งด้านส่วนแบ่งตลาดและความเชี่ยวชาญ
3. ทีมงานมากความสามารถ ทำงานด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน และยังมีความถ่อมตน ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่มีคุณค่ามาก
2. JERA Cloud เป็นผู้นำ POS ความงามอยู่แล้ว ทั้งด้านส่วนแบ่งตลาดและความเชี่ยวชาญ
3. ทีมงานมากความสามารถ ทำงานด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน และยังมีความถ่อมตน ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่มีคุณค่ามาก
คุณยอดยังเสริมว่า การผลักดันให้เอสเอ็มอีไทยก้าวสู่ยุคดิจิทัล ผ่านระบบ POS ไม่ได้ช่วยเพียงเพิ่มยอดขายให้ร้านค้า แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ ๆ และวางรากฐานให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน
ในอีกมุมหนึ่ง เมื่อถามว่าทำไมผู้ก่อตั้ง JERA Cloud ถึงเลือกจับมือกับ LINE MAN Wongnai ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็มีหลายบริษัทรวมถึงต่างชาติยื่นข้อเสนอเข้ามา
คุณแจ็คเล่าว่า “โมเมนต์แรกที่ LINE MAN Wongnai โทรมา สิ่งที่ทำให้เราประทับใจคือ พวกเขาจำรายละเอียดธุรกิจของเราได้ทั้งหมด แสดงให้เห็นว่า ศึกษามาละเอียดและสนใจเราจริง ๆ”
อีกเหตุผลสำคัญคือ LINE MAN Wongnai เป็นหนึ่งในซูเปอร์แพลตฟอร์มของไทย ทั้งบริการออนดีมานด์ที่แข็งแรง และ LINE Pay ที่เป็นผู้นำด้านการชำระเงิน
การเข้ามาอยู่ใน Ecosystem นี้ จึงทำให้ JERA Cloud มีโอกาสเติบโตได้ไกลกว่าเดิม
ในแผนต่อไป JERA Cloud ต้องการต่อยอดรายได้จากลูกค้าเดิม ด้วยบริการเสริม (Add-On Services) รวมถึงการแบ่งส่วนค่าโฆษณาที่คลินิกเคยต้องจ่ายให้ Facebook หรือ Google โดยเปลี่ยนมาขาย Voucher ผ่านแพลตฟอร์ม LINE MAN ทำให้คลินิกหาลูกค้าใหม่ได้มากขึ้นในราคาที่คุ้มค่ากว่า
ดีลกับ LINE MAN จึงเข้ามาเติมเต็มภาพนี้อย่างสมบูรณ์ เพราะมีทั้งแอปที่พร้อมขาย Voucher และ LINE Pay ที่รองรับการชำระเงิน ช่วยให้ JERA Cloud เดินกลยุทธ์นี้ได้ทันที
ที่สำคัญ วิสัยทัศน์ของทั้งสองฝ่ายยังสอดคล้องกัน เพราะการสร้าง POS สำหรับธุรกิจความงามเป็นเพียง “ก้าวแรก” เท่านั้น ในอนาคต ทั้ง LINE MAN Wongnai และ JERA Cloud ต่างตั้งเป้าจะต่อยอดไปสู่หลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่สุขภาพ การศึกษา ไปจนถึงบริการอื่น ๆ
สุดท้ายแล้ว ในมุมมองของผู้ก่อตั้งทั้งสาม ต่างมีข้อคิดที่อยากส่งต่อให้กับสตาร์ตอัปรุ่นใหม่
คุณเอ๋ย บอกว่า ทุกอย่างเริ่มจาก “Pain Point” ถ้าเจอปัญหาที่แท้จริง และมั่นใจว่าไอเดียของเราจะแก้ได้ จงลงมือทำทันที อย่าท้อกลางทาง เพราะผลลัพธ์จะตามมาเอง
คุณซัน เสริมว่า เส้นทางสตาร์ตอัปไม่เคยง่าย สิ่งสำคัญคือความตั้งใจ ความอดทน และความพยายาม เพราะความสำเร็จไม่มีทางเกิดขึ้นได้ หากไม่ผ่านการทำงานหนัก
คุณแจ็ค ปิดท้ายว่า การเติบโตอย่างยั่งยืนต้องรู้จักใช้จ่ายอย่างรอบคอบ ประหยัดในสิ่งที่ไม่จำเป็น แต่พร้อมลงทุนกับสิ่งที่สำคัญที่สุด นั่นคือ “คน” ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในธุรกิจทางด้านเทคโนโลยี
พร้อมกันนั้นยังต้องยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ฟังฟีดแบ็กอย่างต่อเนื่อง และอย่าลืมเรื่องการตลาด เพราะต่อให้สินค้าดีแค่ไหน หากไม่มีใครรู้จัก ก็ไม่อาจสร้างคุณค่าได้จริง
ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า ความสำเร็จของ JERA Cloud ไม่ได้เกิดจากไอเดียเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการลงมือทำจริง ความไม่ย่อท้อ และการสร้างทีมที่แข็งแรง
จากเด็กวิศวะจุฬาฯ ที่เริ่มต้นจาก Pain Point เล็ก ๆ ในตลาดที่ Niche เพียงพอ ทำให้สามารถสร้างกำไรและอยู่รอดได้ด้วยตัวเอง
จนวันนี้พวกเขาได้สร้าง JERA Cloud ขึ้นมาเป็นอาณาจักร POS ด้านความงาม อันดับหนึ่งของไทย
และกำลังก้าวต่อไปสู่เป้าหมายใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมภายใต้ร่มใหญ่ของอาณาจักรที่ชื่อว่า LINE MAN Wongnai นั่นเอง...
จนวันนี้พวกเขาได้สร้าง JERA Cloud ขึ้นมาเป็นอาณาจักร POS ด้านความงาม อันดับหนึ่งของไทย
และกำลังก้าวต่อไปสู่เป้าหมายใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมภายใต้ร่มใหญ่ของอาณาจักรที่ชื่อว่า LINE MAN Wongnai นั่นเอง...
Reference :
- สัมภาษณ์ตรงทีมผู้ก่อตั้ง JERA Cloud และคุณยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai โดยลงทุนแมน
- สัมภาษณ์ตรงทีมผู้ก่อตั้ง JERA Cloud และคุณยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai โดยลงทุนแมน