เมื่อ One Bangkok เปลี่ยนการเช่าออฟฟิศให้เป็น Smart Investment

เมื่อ One Bangkok เปลี่ยนการเช่าออฟฟิศให้เป็น Smart Investment

One Bangkok x ลงทุนแมน
เคยสงสัยไหมว่า ทำไมหลายองค์กร “ย้ายออฟฟิศ” ทั้งที่ยังมีพื้นที่เดิมอยู่ คำตอบคงไม่ได้อยู่ที่ “ค่าเช่า” แต่เป็น “คุณค่าใหม่” ที่องค์กรจะได้กลับมา
เพราะถ้าย้อนกลับไป 10-20 ปีก่อน สิ่งที่ผู้บริหารกังวลที่สุดในการเช่าออฟฟิศก็คือ “ราคาต่อตารางเมตร”
แต่มาในตอนนี้ หลายองค์กรเริ่มถามว่า..
“ออฟฟิศที่จะย้ายไป จะช่วยให้องค์กรแข็งแรงขึ้นได้อย่างไร ?”
จุดนี้เองคล้ายกับการเปลี่ยนครั้งใหญ่ จากมุมมองการเช่าออฟฟิศว่าเป็น Fixed Cost ไปสู่ Strategic Asset ที่จะสร้างคุณค่าได้จริง และกลายมาเป็นกระแส Flight-to-Quality ที่ย้ายจากอาคารเก่าไปสู่อาคารสำนักงานเกรด A เพื่อให้ตอบโจทย์ทั้งประสิทธิภาพ ความยั่งยืน คุณภาพชีวิตของพนักงาน และลดค่าใช้จ่ายด้านการดำเนินงานในระยะยาว
ประเด็นนี้ยังมีอะไรน่าสนใจอีกบ้าง ?
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง
คุณทัตยากรณ์ เบญจภัทรเศรษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายอาคารสำนักงาน โครงการ One Bangkok เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า..
ตอนนี้กรุงเทพฯ มีพื้นที่ออฟฟิศรวมกว่า 11 ล้าน ตร.ม.
แต่ความต้องการจริงของ CBD Grade A Office มีราว 1.7 ล้าน ตร.ม.
ถ้าสังเกตในช่วงปี 2023-2025 ที่ผ่านมา ตลาด Prime CBA Grade A Office มียอดการเช่าพื้นที่ (Net Absorption) รวมกว่า 195,000 ตร.ม.
ซึ่งกว่า 2 ใน 3 หรือราว 137,000 ตร.ม. ตัดสินใจเลือก One Bangkok Workplace
ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนว่า Demand ไม่ได้หายไปจากตลาด แต่องค์กรกำลังเลือกออฟฟิศใหม่ในมุมมอง “คุณค่ามากกว่าแค่พื้นที่”
พูดง่าย ๆ ยุคนี้กำลังมองว่า ออฟฟิศไม่ใช่แค่สถานที่ทำงาน แต่คือ “ประสบการณ์”
อย่างในเวลาที่พูดถึงออฟฟิศ หลายคนอาจคิดถึงแค่ตึกหรือพื้นที่สี่เหลี่ยม แต่สิ่งที่เราตั้งใจทำที่ One Bangkok มีมากกว่านั้น
สังเกตได้จากการออกแบบของ One Bangkok Workplace ไม่ใช่แค่สร้างตึกสูงหรูหรา แต่เป็นการสร้างเมืองเล็ก ๆ ที่หลอมการทำงานและการใช้ชีวิตเข้าด้วยกัน
ถ้าเดินเข้ามาในโครงการจะพบว่ากว่าครึ่งของพื้นที่คือ สวนและพื้นที่สีเขียวเปิดโล่งกว่า 50 ไร่
อากาศภายในอาคารสดชื่นขึ้น 30% ด้วยระบบหมุนเวียนอากาศที่นำอากาศใหม่เข้ามามากกว่ามาตรฐาน และใช้การกรองแบบ MERV 8+14 ระดับเดียวกับโรงพยาบาล เพื่อให้ได้สูดอากาศที่สะอาดและบริสุทธิ์ทุกวัน
กระจกและผิวอาคาร ถูกออกแบบเพื่อลดความร้อนถึง 75% ทำให้การใช้พลังงานลดลงกว่า 40% และระบบรีไซเคิลน้ำ ยังทำให้ใช้น้ำน้อยลง 70%
สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่แค่ช่วยโลก แต่ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาวได้จริง
ส่วนในพื้นที่ทำงานเองมีทั้ง Core Office, Flexible Space และ Co-Working มารองรับวิธีทำงานยุคใหม่ และกิจกรรมสำหรับคอมมิวนิตี
สิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้สุดท้ายแล้ว ทั้งการทำงานและการใช้ชีวิต กลายเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน ที่สำคัญ สิ่งแวดล้อมแบบนี้ ยังสร้าง “ประสบการณ์” ที่ดี และช่วยให้องค์กรดึงดูดคนเก่งได้ง่ายขึ้น เพราะคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับสุขภาพและคุณภาพชีวิตในสถานที่ทำงานกันอย่างมาก
จะเห็นได้ว่าการ Relocate มาที่ One Bangkok ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนสถานที่ทำงาน แต่คือ “การลงทุนเชิงกลยุทธ์” ที่สร้างคุณค่ากลับมาหลากหลายมิติ เรียกได้ว่าเป็น “Smart Investment”
ทีนี้ลองมาดู Smart Investment ที่องค์กรต่าง ๆ จะได้รับกันบ้าง..
คุณทัตยากรณ์ เล่าว่า องค์กรระดับโลกจำนวนมากเลือก One Bangkok Workplace เพราะตอบโจทย์ Global Policy ได้ครบ ไม่ว่าจะเป็นด้าน ESG, เทคโนโลยี และคุณภาพชีวิตของคนทำงาน
อย่างในด้านภาพลักษณ์ การเลือก One Bangkok Workplace เป็นที่ตั้งสำนักงานช่วยเสริม Reputation Capital ที่องค์กรสร้างไว้เดิม ให้โดดเด่นยิ่งขึ้นในสายตาคู่ค้า นักลงทุน และสังคมในระดับสากล
ด้วย Winning Location ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ เชื่อมต่อกับย่านธุรกิจหลัก, ระบบขนส่งสาธารณะ และทางด่วน และยังรายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวเป็น “สะพานเชื่อม” ระหว่างสวนลุมพินี และสวนเบญจกิติ กลายเป็นปอดใหญ่ใจกลางเมือง ที่หาไม่ได้อีกแล้ว
การเลือกมาอยู่ที่ One Bangkok จึงไม่ใช่แค่การเลือกทำเล
แต่เป็นการลงทุนทั้งในภาพลักษณ์ และคุณภาพชีวิตของบุคลากรทำงานไปพร้อมกัน
รู้หรือไม่ว่า ในด้านความยั่งยืน One Bangkok เป็นโครงการแรกของไทยที่ได้การรับรอง LEED-ND Platinum ระดับสูงสุด มาตรฐานนี้ถือว่าก้าวไปไกลกว่าการประเมินทั่วไป เพราะนอกจากเรื่องตัวอาคารแล้ว ยังครอบคลุมทั้งโครงการ ไม่ว่าจะเป็น
- การออกแบบพื้นที่โดยรอบที่เอื้อต่อการเดินและการพักผ่อน
- การเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกในระยะเดินถึง
- การเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะ
- การจัดการพลังงาน น้ำ และทรัพยากรสาธารณูปโภคที่รองรับการใช้อาคาร
- คุณภาพชีวิตของผู้คนที่จะเข้ามาใช้จริง
ซึ่งก็เท่ากับว่า การอยู่ในระดับ Platinum ที่เป็นระดับสูงสุด กำลังสะท้อนถึงมาตรฐานความยั่งยืนที่ครอบคลุมทุกมิติ และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย
นอกจากนี้ One Bangkok ยังริเริ่มโมเดล Green Lease ที่เปิดโอกาสให้ผู้พัฒนาและผู้เช่ากำหนดเป้าหมายสิ่งแวดล้อมร่วมกัน ทำให้การขับเคลื่อน ESG ขององค์กรไม่ใช่เพียงตัวเลขบนรายงาน แต่เป็นการปฏิบัติที่เกิดขึ้นจริงในทุกกิจกรรม
ขณะเดียวกัน ความโดดเด่นของ One Bangkok ยังการันตีได้จากมาตรฐานด้านดิจิทัลและสมาร์ตซิตีอย่าง WiredScore และ SmartScore Platinum ระดับสูงสุด
โดยเป็นโครงการแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้รับการรับรองในระดับ Neighborhood ที่การันตีทั้งโครงสร้างพื้นฐานการเชื่อมต่อที่เสถียรและปลอดภัย ความยืดหยุ่นของระบบ ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้อาคาร
ทำให้ One Bangkok โดดเด่นทั้งด้านความยั่งยืนและความล้ำสมัยทางดิจิทัลอย่างครบถ้วนนั่นเอง
และยังเสริมด้วย District Command Center เสมือนเป็นศูนย์ควบคุมกลาง ที่ดูแลระบบและความปลอดภัยของทุกอาคารตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนในด้านบุคลากรทำงานขององค์กรต่าง ๆ ที่เข้ามาอยู่ใน One Bangkok Workplace
ด้วยพื้นฐานโครงการนี้ที่ออกแบบตามมาตรฐาน WELL Building Standard มีพื้นที่เปิดโล่งสีเขียวกว่า 50 ไร่ เน้น Well-Being ของผู้คนโดยตรง
ทำให้ One Bangkok Workplace เป็นออฟฟิศที่น่าอยู่ และกลายเป็น “เครื่องมือ” ขององค์กรในการดึงดูด และรักษาคนเก่งด้วย
เพราะในยุคที่คนทำงานรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับสุขภาพ คุณภาพชีวิต และบรรยากาศการทำงานมากขึ้น การมี Workplace ที่ตอบโจทย์เหล่านี้คือ ข้อได้เปรียบในการแข่งขันที่ชัดเจน
ปัจจุบันนี้ One Bangkok Workplace มีทั้งหมด 5 อาคาร ปัจจุบันได้เปิดให้บริการแล้ว 2 อาคาร คือ Tower 3 และ Tower 4 รวมพื้นที่กว่า 200,000 ตร.ม. ขณะที่ Tower 5 กำลังจะเปิดตามมาในไม่ช้า
สิ่งสำคัญไม่ใช่ขนาดพื้นที่ แต่คือความหลากหลายของอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น FMCG, Finance, Consulting, Tech และ Creative Industry
ทั้งหมดนี้กำลังสร้าง Synergy ที่ทำให้ One Bangkok Workplace ไม่ใช่แค่ที่ทำงาน แต่เป็น Business Hub ใหม่ของ Southeast Asia
ถึงตรงนี้คงเห็นแล้วว่า ทำไมองค์กรที่ตัดสินใจ Relocate มาที่ One Bangkok Workplace ถึงไม่ใช่แค่การย้ายออฟฟิศธรรมดา แต่คือ Strategic Move ที่ช่วยเสริมศักยภาพการแข่งขันในระยะยาว
เพราะในวันที่โลกกำลังแข่งขันไปไกลกว่าแค่การวัดที่ต้นทุน แต่กำลังตัดสินกันด้วย Branding, ESG, Technology และ Talent
องค์กรที่เลือก One Bangkok จึงไม่ได้มองหาเพียงออฟฟิศใหม่
แต่กำลังมองไปถึง “การลงทุนเพื่ออนาคต” นั่นเอง..
Reference :
- บทสัมภาษณ์ตรง คุณทัตยากรณ์ เบญจภัทรเศรษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายอาคารสำนักงาน โครงการ One Bangkok โดยลงทุนแมน

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon