สรุป 10 หุ้นใหญ่สุดของญี่ปุ่น ที่แบกตลาดหุ้นญี่ปุ่น จนทำ All-Time High /โดย ลงทุนแมน
ตอนนี้ตลาดหุ้นญี่ปุ่น อยู่ในช่วงทำจุดสูงสุดใหม่ โดยดัชนี Nikkei 225 ได้ปรับตัวขึ้นมา +22% ในช่วงปีที่ผ่านมา

ซึ่งการที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ขึ้นมาได้อย่างโดดเด่น ปัจจัยหลักคือการขับเคลื่อนด้วยราคาหุ้นของ 10 บริษัทที่ใหญ่สุดของญี่ปุ่น นั่นคือ

1. บริษัท Toyota Motor
มูลค่าบริษัท 8.5 ล้านล้านบาท
ราคาหุ้น 1 ปีที่ผ่านมา +14%
มี P/E 9.3 เท่าของกำไร 12 เดือนล่าสุด

ธุรกิจหลัก : ผลิตยานยนต์ภายใต้แบรนด์ Toyota และ Lexus
รวมถึงให้บริการทางการเงิน เช่น ให้สินเชื่อรถยนต์, ประกันภัย และบริการเช่าซื้อ

ผลประกอบการย้อนหลัง (ปิดงบเดือน มี.ค. ของทุกปี)
ปี 2023 รายได้ 8.0 ล้านล้านบาท กำไร 0.5 ล้านล้านบาท
ปี 2024 รายได้ 9.7 ล้านล้านบาท กำไร 1.1 ล้านล้านบาท
ปี 2025 รายได้ 10.4 ล้านล้านบาท กำไร 1.0 ล้านล้านบาท

สัดส่วนรายได้มาจาก
- ขายยานยนต์ 90.8%
- ให้บริการทางการเงิน 9.2%

2. บริษัท SoftBank Group
มูลค่าบริษัท 6.6 ล้านล้านบาท
ราคาหุ้น 1 ปีที่ผ่านมา +144%
มี P/E 27.4 เท่าของกำไร 12 เดือนล่าสุด

ธุรกิจหลัก : ให้บริการด้านโทรคมนาคม และอินเทอร์เน็ต
รวมถึงการลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีต่าง ๆ ทั่วโลก ผ่านตัวบริษัทเอง และกองทุน Vision Fund

ผลประกอบการย้อนหลัง (ปิดงบเดือน มี.ค. ของทุกปี)
ปี 2023 รายได้ 1.4 ล้านล้านบาท ขาดทุน 0.2 ล้านล้านบาท
ปี 2024 รายได้ 1.5 ล้านล้านบาท ขาดทุน 0.05 ล้านล้านบาท
ปี 2025 รายได้ 1.6 ล้านล้านบาท กำไร 0.2 ล้านล้านบาท

สัดส่วนรายได้มาจาก
- ให้บริการเครือข่ายมือถือ, จำหน่ายอุปกรณ์มือถือ, บริการอินเทอร์เน็ต เช่น Yahoo! JAPAN และ LINE 90.3%
- ธุรกิจ Arm ผู้ออกแบบสถาปัตยกรรมชิป 8.5%
- อื่น ๆ 1.2%

(ทั้งนี้ กำไรจากการลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ ของ SoftBank ไม่ได้รวมอยู่ในส่วนของรายได้)

3. บริษัท Sony Group
มูลค่าบริษัท 5.8 ล้านล้านบาท
ราคาหุ้น 1 ปีที่ผ่านมา +56%
มี P/E 22.9 เท่าของกำไร 12 เดือนล่าสุด

ธุรกิจหลัก : เทคโนโลยีและสื่อบันเทิง

ผลประกอบการย้อนหลัง (ปิดงบเดือน มี.ค. ของทุกปี)
ปี 2023 รายได้ 2.4 ล้านล้านบาท กำไร 0.2 ล้านล้านบาท
ปี 2024 รายได้ 2.8 ล้านล้านบาท กำไร 0.2 ล้านล้านบาท
ปี 2025 รายได้ 2.8 ล้านล้านบาท กำไร 0.2 ล้านล้านบาท

สัดส่วนรายได้มาจาก
- เกมและเครือข่ายออนไลน์ 35.2%
- ความบันเทิง เทคโนโลยี และบริการ 18.2%
- เพลง 13.9%
- โซลูชันการถ่ายภาพและเซนเซอร์ 13.6%
- ภาพยนตร์ 11.4%
- บริการทางการเงิน 7.0%
- อื่น ๆ 0.7%

4. บริษัท Mitsubishi UFJ Financial Group
มูลค่าบริษัท 5.7 ล้านล้านบาท
ราคาหุ้น 1 ปีที่ผ่านมา +50%
มี P/E 14.4 เท่าของกำไร 12 เดือนล่าสุด

ธุรกิจหลัก : ธนาคารพาณิชย์ และบริการที่เกี่ยวข้อง

ผลประกอบการย้อนหลัง (ปิดงบเดือน มี.ค. ของทุกปี)
ปี 2023 รายได้ 1.3 ล้านล้านบาท กำไร 0.2 ล้านล้านบาท
ปี 2024 รายได้ 1.3 ล้านล้านบาท กำไร 0.3 ล้านล้านบาท
ปี 2025 รายได้ 1.5 ล้านล้านบาท กำไร 0.4 ล้านล้านบาท

5. บริษัท Hitachi
มูลค่าบริษัท 4.4 ล้านล้านบาท
ราคาหุ้น 1 ปีที่ผ่านมา +14%
มี P/E 35.2 เท่าของกำไร 12 เดือนล่าสุด

ธุรกิจหลัก : มีหลากหลายธุรกิจ เช่น เทคโนโลยีดิจิทัล, พลังงาน, ระบบรถไฟ, ผลิตภัณฑ์สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม

ผลประกอบการย้อนหลัง (ปิดงบเดือน มี.ค. ของทุกปี)
ปี 2023 รายได้ 2.3 ล้านล้านบาท กำไร 0.1 ล้านล้านบาท
ปี 2024 รายได้ 2.1 ล้านล้านบาท กำไร 0.1 ล้านล้านบาท
ปี 2025 รายได้ 2.1 ล้านล้านบาท กำไร 0.1 ล้านล้านบาท

สัดส่วนรายได้มาจาก
- อุตสาหกรรมและโรงงาน 32%
- ระบบและบริการดิจิทัล 27%
- พลังงาน 25%
- ระบบขนส่งและรถไฟ 11%
- อื่น ๆ 5%

6. บริษัท Sumitomo Mitsui Financial Group
มูลค่าบริษัท 3.4 ล้านล้านบาท
ราคาหุ้น 1 ปีที่ผ่านมา +27%
มี P/E 13.3 เท่าของกำไร 12 เดือนล่าสุด

ธุรกิจหลัก : ธนาคารพาณิชย์ และบริการที่เกี่ยวข้อง

ผลประกอบการย้อนหลัง (ปิดงบเดือน มี.ค. ของทุกปี)
ปี 2023 รายได้ 0.8 ล้านล้านบาท กำไร 0.2 ล้านล้านบาท
ปี 2024 รายได้ 1.0 ล้านล้านบาท กำไร 0.2 ล้านล้านบาท
ปี 2025 รายได้ 1.1 ล้านล้านบาท กำไร 0.3 ล้านล้านบาท

7. บริษัท Nintendo
มูลค่าบริษัท 3.3 ล้านล้านบาท
ราคาหุ้น 1 ปีที่ผ่านมา +60%
มี P/E 54.1 เท่าของกำไร 12 เดือนล่าสุด

ธุรกิจหลัก : เกม ทั้งส่วนของฮาร์ดแวร์ เช่น Nintendo Switch และซอฟต์แวร์ เช่น Super Mario, The Legend of Zelda, Pokémon

ผลประกอบการย้อนหลัง (ปิดงบเดือน มี.ค. ของทุกปี)
ปี 2023 รายได้ 3.5 แสนล้านบาท กำไร 0.9 แสนล้านบาท
ปี 2024 รายได้ 3.6 แสนล้านบาท กำไร 1.1 แสนล้านบาท
ปี 2025 รายได้ 2.5 แสนล้านบาท กำไร 0.6 แสนล้านบาท

สัดส่วนรายได้มาจาก
- สหรัฐอเมริกา 36.0%
- ยุโรป 24.5%
- ญี่ปุ่น 23.6%
- ประเทศอื่น ๆ รวมกัน 15.9%

8. บริษัท Keyence
มูลค่าบริษัท 3.2 ล้านล้านบาท
ราคาหุ้น 1 ปีที่ผ่านมา -13%
มี P/E 36.7 เท่าของกำไร 12 เดือนล่าสุด

ธุรกิจหลัก : เทคโนโลยีอุตสาหกรรม โดยพัฒนาและจำหน่าย ระบบอัตโนมัติสำหรับอุตสาหกรรม และอุปกรณ์การตรวจสอบ รวมไปถึงเครื่องอ่านบาร์โคด

ผลประกอบการย้อนหลัง (ปิดงบเดือน มี.ค. ของทุกปี)
ปี 2023 รายได้ 2.0 แสนล้านบาท กำไร 0.8 แสนล้านบาท
ปี 2024 รายได้ 2.0 แสนล้านบาท กำไร 0.8 แสนล้านบาท
ปี 2025 รายได้ 2.3 แสนล้านบาท กำไร 0.9 แสนล้านบาท

สัดส่วนรายได้มาจาก
- ญี่ปุ่น 35.2%
- ต่างประเทศ 64.8%

9. บริษัท Fast Retailing
มูลค่าบริษัท 3.1 ล้านล้านบาท
ราคาหุ้น 1 ปีที่ผ่านมา -7%
มี P/E 36.3 เท่าของกำไร 12 เดือนล่าสุด

ธุรกิจหลัก : เชนร้านเสื้อผ้า ภายใต้แบรนด์ UNIQLO, GU, Theory, Helmut Lang และอื่น ๆ

ผลประกอบการย้อนหลัง (ปิดงบเดือน ส.ค. ของทุกปี)
ปี 2022 รายได้ 5.0 แสนล้านบาท กำไร 0.6 แสนล้านบาท
ปี 2023 รายได้ 6.0 แสนล้านบาท กำไร 0.6 แสนล้านบาท
ปี 2024 รายได้ 6.8 แสนล้านบาท กำไร 0.8 แสนล้านบาท

สัดส่วนรายได้มาจาก
- UNIQLO ในต่างประเทศ 55.2%
- UNIQLO ในญี่ปุ่น 30.0%
- GU 10.3%
- แบรนด์อื่น ๆ รวมกัน 4.5%

10. บริษัท Tokyo Electron
มูลค่าบริษัท 3.0 ล้านล้านบาท
ราคาหุ้น 1 ปีที่ผ่านมา +17%
มี P/E 25.5 เท่าของกำไร 12 เดือนล่าสุด

ธุรกิจหลัก : ผู้ผลิตเครื่องจักร ที่ใช้ในการผลิตชิป รายใหญ่ของโลก

ผลประกอบการย้อนหลัง (ปิดงบเดือน มี.ค. ของทุกปี)
ปี 2023 รายได้ 4.8 แสนล้านบาท กำไร 1.0 แสนล้านบาท
ปี 2024 รายได้ 4.0 แสนล้านบาท กำไร 0.8 แสนล้านบาท
ปี 2025 รายได้ 5.2 แสนล้านบาท กำไร 1.2 แสนล้านบาท

สัดส่วนรายได้มาจาก
- ขายเครื่องจักร 76.5%
- โซลูชันและบริการ 23.5%

หมายเหตุ : ข้อมูล ณ วันที่ 7/10/2025
ที่มา : Yahoo Finance และรายงานประจำปี 2025 ของแต่ละบริษัท

คำเตือน : โพสต์นี้เป็นเพียงการนำเสนอข้อมูล ไม่ได้แนะนำให้ซื้อหรือขายแต่อย่างใด การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน