
เหตุผลที่สกิล AI สำคัญต่อวงการความงาม มุมมองจากงาน GAIN BUSINESS 2025 โดย “กัลเดอร์มา”
Galderma x ลงทุนแมน
ในโลกของอุตสาหกรรมความงาม กัลเดอร์มา (Galderma) เป็นชื่อที่คนในวงการต่างยอมรับในฐานะผู้นำนวัตกรรมด้านการดูแลผิวและความงามระดับโลก มีการดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 45 ปี
ปัจจุบัน กัลเดอร์มา ขยายเครือข่ายธุรกิจครอบคลุมไปกว่า 80 ประเทศทั่วโลก โดยได้รับความไว้วางใจและความเชื่อมั่นจากคลินิกความงาม บุคลากรทางการแพทย์ และผู้บริโภค
ท่ามกลางการเติบโตที่ก้าวกระโดดของตลาดเสริมความงาม “กัลเดอร์มา” ครองความเป็นผู้นำตลาดมาได้อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยความสำเร็จไม่ได้เกิดจากการขยายตลาดเชิงปริมาณ แต่เกิดจากวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของกัลเดอร์มา ที่วางจุดยืนในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตควบคู่กับสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับทุกภาคส่วน
โดยกัลเดอร์มา เดินหน้าวิจัยและพัฒนา (R&D) วิทยาการและเทคโนโลยีความงามอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเสริมความงามที่ตอบโจทย์ทุกเรื่องราวของผิวที่แตกต่างกัน พร้อมทั้งจัดตั้งแพลตฟอร์มเครือข่าย GAIN (Galderma Aesthetic Injector Network) เพื่อเป็นศูนย์กลางที่เชื่อมโยงแพทย์ด้านความงาม นักวิจัย และนักวิชาการจากทั่วโลก รวมถึงเป็นพื้นที่สำหรับฝึกอบรมพัฒนาองค์ความรู้และศักยภาพอย่างรอบด้านให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ และพนักงานทุกระดับของคลินิกพันธมิตรของกัลเดอร์มาโดยเฉพาะ
ซึ่งนี่ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกัลเดอร์มา ในการดูแลคลินิกพันธมิตรอย่างใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพ ที่ไม่เพียงช่วยให้คลินิกสามารถยกระดับศักยภาพให้ทัดเทียมมาตรฐานสากลและปรับตัวได้ในทุกสภาวะการเปลี่ยนแปลง แต่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนให้ทั้งคลินิก พนักงาน และอุตสาหกรรมความงามเติบโตไปพร้อมกับกัลเดอร์มาอย่างยั่งยืน

หนึ่งในไฮไลต์กิจกรรมภายใต้ GAIN ที่น่าสนใจ คืองาน GAIN BUSINESS งานสัมมนาระดับ Flagship ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ซึ่งทำหน้าที่เป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้และแนวคิดใหม่ ๆ
สำหรับผู้เข้าร่วมงาน การมีส่วนร่วมในเวทีนี้ช่วยให้แพทย์ ผู้ประกอบธุรกิจความงาม และพนักงานสามารถนำองค์ความรู้ใหม่มาเป็นอาวุธทางความคิด ปรับใช้ในการทำงานเพื่อสร้างการเติบโตท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง และสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วของพฤติกรรมผู้บริโภคและเทรนด์ในอุตสาหกรรมความงาม
โดยในปี 2025 นี้ ประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกมาบรรยายคือ วิธีการอัปสกิล AI ให้แก่ แพทย์ พนักงาน และผู้บริหาร เพื่อก้าวสู่โลกธุรกิจความงามยุคใหม่อย่างยั่งยืน
ภายในงานกัลเดอร์มาได้ร่วมมือกับกูรูจากหลากหลายวงการ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ความงามชั้นนำในเมืองไทย, นักวิชาการ, นักการตลาด และผู้เชี่ยวชาญอีกหลายด้าน มาร่วมกันพัฒนาหลักสูตร เพื่อถ่ายทอดความรู้ แลกเปลี่ยนมุมมองด้าน AI การวางกลยุทธ์การสื่อสาร การบริหารธุรกิจและบุคลากร ไปจนถึงการสร้างประสบการณ์เหนือระดับให้กับลูกค้า ที่ตอบโจทย์การดำเนินธุรกิจในยุค AI

ทำไม AI จึงเป็นตัวแปรสำคัญในอุตสาหกรรมความงามยุคนี้ ?
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง
“จุดตัด” สำคัญในการแข่งขันท่ามกลางอุตสาหกรรมความงาม คือ ใครที่เข้าใจ Insight และอารมณ์ความรู้สึกของผู้บริโภคจะได้เปรียบในทันที และสิ่งที่น่าสนใจคือ “คน” ย่อมเข้าใจและเข้าถึงความรู้สึกเหล่านี้ได้ดีกว่าเทคโนโลยี AI
แม้ AI จะไม่สามารถแทนคนได้ในเรื่องนี้ แต่หากเรียนรู้ที่จะนำ AI มาเป็นผู้ช่วยได้อย่างเหมาะสม ก็จะทำให้ผลลัพธ์ธุรกิจทรงพลังมากขึ้นกว่าเดิม บุคลากรทุกระดับชั้นในธุรกิจความงามจึงจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยี AI มาเป็นเครื่องมือเสริมเพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่ธุรกิจตนเอง
ส่วนผู้ที่ตกขบวน AI เมื่อรู้สึกตัวอีกที อาจถูกทิ้งให้อยู่ข้างหลัง
คุณศิเวก สัจเดว ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและที่ปรึกษา AI Transformation ได้อธิบายถึงแนวทางที่ธุรกิจคลินิกความงามสามารถใช้ AI เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคใหม่

AI Audience & Alignment : การนำข้อมูลบุคลิกภายนอกและสภาพผิวของผู้รับบริการให้ AI ช่วยวิเคราะห์เจาะลึก เพื่อเชื่อมโยงกับบริการหรือผลิตภัณฑ์ที่ตรงจุดและตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล
AI Driving Daily Efficiency : การใช้ AI เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานประจำวัน เร็วขึ้น คุ้มค่า ลดต้นทุน ทั้งการคิด Content โฆษณาคลินิกลงบน Social Media ออกแบบแคมเปญการตลาด หรือแม้แต่การช่วยค้นหาข้อมูลในการวางแผนงานธุรกิจ
นอกจาก AI แล้ว เจ้าของคลินิกความงามยังต้องมองเทคโนโลยีรอบข้าง โดยเฉพาะแพลตฟอร์ม TikTok ที่กลายเป็นเวทีแจ้งเกิดของหลายแบรนด์ ด้วย Content ที่โดนใจ เข้าถึงง่าย จนกลายเป็น Viral และส่งผลให้ผู้บริโภคจดจำ Branding พร้อมกับยอดขายสินค้าที่เติบโตแบบก้าวกระโดด
แล้วคลินิกความงามควรทำโฆษณาใน TikTok อย่างไร ?
ประเด็นอาจไม่ต้องใช้เงินลงทุนโปรดักชันมากมาย แต่ขึ้นอยู่กับไอเดียสร้างสรรค์ โดยอาจพิจารณาผ่านกระบวนการ 3R Creative Framework

- Recut ลดความเป็นทางการและศัพท์เฉพาะทาง เปลี่ยนเป็น Content สั้น กระชับ และเข้าใจง่าย โดยเฉพาะในช่วง 1-2 วินาที ที่ต้อง “สะกิดใจ” ให้คนหยุดนิ้วและกดรับชมต่อ
- Remix นอกจากวิธีเล่าเรื่องให้สนุกและน่าติดตาม การเลือกใช้เสียง เช่น เพลงฮิต และซาวนด์เอฟเฟกต์ที่น่าสนใจเข้ากับเนื้อหา จะทำให้ผู้ชมมีอารมณ์ร่วม ช่วยลดอัตราการเลื่อนผ่าน และเพิ่มการดูซ้ำ
- Reimagine ใช้ฟีเชอร์และเอฟเฟกต์ใน TikTok มาต่อยอดให้ Content ดูมีสีสันดึงดูดผู้ชม
ไม่เพียงแค่การทำ Content ใน TikTok แต่การสื่อสารและสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าก็ต้องอาศัย Content ที่โดนใจเช่นกัน เพราะ “การบริการ” คือเครื่องมือที่มัดใจและสร้างความภักดีต่อแบรนด์
ซึ่งนักการตลาดและพนักงานสามารถนำ AI มาเป็นผู้ช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริการได้ทุกมิติ ตั้งแต่การวิเคราะห์กลุ่มลูกค้า การนัดหมาย การให้คำปรึกษา การแนะนำโปรแกรมความงามและโปรโมชันต่าง ๆ ไปจนถึงการติดตามผลลัพธ์หลังเข้าโปรแกรม
ผศ.ดร.เอกก์ ภทรธนกุล หัวหน้าภาควิชาการตลาด และประธานหลักสูตรปริญญาโทด้านแบรนด์และการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้แนะนำกลยุทธ์การตลาด 3 แนวทาง ที่มี AI เป็นพลังขับเคลื่อน

- Less but More น้อยแต่มาก
การใช้ AI ช่วยวางกลยุทธ์ราคาและบริการใหม่ ๆ ที่ตรงใจผู้บริโภค เพื่อทำให้เกิด Word of Mouth กระจายไปทั่ว Social Media
การใช้ AI ช่วยวางกลยุทธ์ราคาและบริการใหม่ ๆ ที่ตรงใจผู้บริโภค เพื่อทำให้เกิด Word of Mouth กระจายไปทั่ว Social Media
- Deep but Wide ลึกแต่กว้าง
การใช้ AI ช่วยเจาะลึกกลุ่มเป้าหมายและต่อยอดสู่การขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น
การใช้ AI ช่วยเจาะลึกกลุ่มเป้าหมายและต่อยอดสู่การขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น
- Quiet but Loud เงียบแต่ดัง
การใช้เครื่องมือ AI ที่ตรงกับประเภท Content เช่น เครื่องมือ Rytr สำหรับผลิตบทความ คิดชื่อ หรือสโลแกนที่มีเนื้อหาโดนใจกลุ่มเป้าหมาย หรือเครื่องมือ Deepbrain สำหรับการสร้างพรีเซนเทชัน เป็นต้น
การใช้เครื่องมือ AI ที่ตรงกับประเภท Content เช่น เครื่องมือ Rytr สำหรับผลิตบทความ คิดชื่อ หรือสโลแกนที่มีเนื้อหาโดนใจกลุ่มเป้าหมาย หรือเครื่องมือ Deepbrain สำหรับการสร้างพรีเซนเทชัน เป็นต้น
แม้ AI จะเข้ามามีบทบาท แต่ “คน” ยังคงเป็นหัวใจสำคัญในธุรกิจคลินิกความงาม เพราะเครื่องมือการตลาดที่ทรงพลังและต้นทุนถูกที่สุด คือ Word of Mouth ซึ่งลูกค้าจะบอกต่อความประทับใจต่อเมื่อพวกเขาได้รับประสบการณ์ที่เกินความคาดหมาย
ซึ่งผู้ที่เป็นตัวแทนสร้างประสบการณ์เหล่านั้น ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามารับบริการไปจนถึงหลังเข้ารับบริการ ก็คือ พนักงานหรือที่ปรึกษาด้านความงาม และแพทย์ประจำคลินิก
ไม่เพียงเท่านี้ อีกหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้พนักงานสามารถสร้างประสบการณ์เกินคาดหมายได้ ก็คือ ผู้นำองค์กร เพราะคลินิกความงามจะเติบโตอย่างยั่งยืนได้นั้น ต้องมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนและวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมให้กลยุทธ์นั้นเป็นไปได้
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม กัลเดอร์มา จึงจัดสัมมนา GAIN BUSINESS ในหลากหลายหัวข้อ พร้อมเชิญทั้งแพทย์ เจ้าของธุรกิจความงาม และพนักงานทุกระดับมาร่วมงาน

การจัดตั้งเครือข่ายแลกเปลี่ยนความรู้อย่าง GAIN ถือเป็น Win-Win-Win Strategy ที่สร้างคุณค่าให้กับธุรกิจของคลินิกพันธมิตร และผู้บริโภค
กัลเดอร์มา สามารถรักษาความเป็นผู้นำ ความเชื่อมั่น และสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจมายาวนานกว่า 4 ทศวรรษ
คลินิกพันธมิตร ได้ยกระดับศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถรอบด้าน
ผู้บริโภค ได้ใช้ผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพ และมีมาตรฐานความปลอดภัย
คลินิกพันธมิตร ได้ยกระดับศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถรอบด้าน
ผู้บริโภค ได้ใช้ผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพ และมีมาตรฐานความปลอดภัย
การสร้างความเติบโตร่วมกันนี้ กลายเป็นแนวคิด “สร้างประโยชน์ให้แก่ทุกฝ่าย” ซึ่งนับเป็นการลงทุนที่ไม่ใช่เพียงค่าใช้จ่ายชั่วคราว แต่เป็นกลยุทธ์เชิงรุก ที่วางรากฐานให้เกิด Ecosystem ที่แข็งแกร่งของอุตสาหกรรมความงาม ซึ่งสนับสนุนการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนทั้งทางธุรกิจและสังคม
Tag: Galderma