RATTINAN CLINIC x ลงทุนแมน

กว่า 20 ปีที่ผ่านมา คลินิกความงามในไทยเกิดใหม่แทบทุกเดือน
สังเกตไหมว่าบางแบรนด์ตั้งขึ้นมาอย่างหวือหวา มีชื่อเสียงชั่วข้ามคืน บางแบรนด์มาพร้อมคาแรกเตอร์แพทย์เจ้าของชื่อดังในโลกออนไลน์

เมื่อเวลาผ่านไป หลายแบรนด์ก็ปิดตัวลงอย่างเงียบ ๆ เหลือไว้เพียงภาพโฆษณาเก่า ๆ กับความทรงจำของลูกค้าที่เคยใช้บริการ
ท่ามกลางตลาดที่ผันผวนเช่นนี้ กลับมีบางแบรนด์ที่ยังยืนระยะอยู่ได้
หนึ่งในนั้นคือ Rattinan Clinic

แบรนด์คลินิกที่ก่อตั้งมานานกว่า 26 ปี
ปัจจุบันมีลูกค้าต่างชาติกว่า 70% ของฐานลูกค้าทั้งหมด
ทั้งจากสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย สิงคโปร์ และอีกหลายประเทศอย่างการมาไกลจากเปรู

น่าสนใจว่า คลินิกนี้มีเพียงสาขาเดียว แต่กลับกลายเป็นชื่อที่คนไทยและชาวต่างชาติยังคงไว้ใจ

Rattinan Clinic ทำได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

ย้อนกลับไปเมื่อปี 1999
คลินิกแห่งนี้เริ่มต้นจากพื้นที่เล็ก ๆ ในอาคารพาณิชย์ย่านกลางเมือง
เป็นคลินิกของคุณหมอแต๋ม ภรรยาที่ตั้งชื่อตามชื่อของเธอเองว่า “รัตตินันท์”

ในเวลานั้น คุณหมอสุทธิพงษ์ ยังทำงานประจำในตำแหน่งผู้บริหารของโรงพยาบาลชั้นนำระดับประเทศ

จนกระทั่งตัดสินใจกลับมาช่วยภรรยาบริหารกิจการอย่างเต็มตัว
และนำความรู้ด้านบริหารจากการเป็นศิษย์เก่า MBA ของศศินทร์

ประสบการณ์นี้กลายเป็น “โรงเรียนจริง” ที่หล่อหลอมให้เขาเข้าใจการจัดการผสมผสานระหว่าง “หมอ” และ “นักบริหาร” ที่กลายเป็นจุดต่างที่ทำให้ Rattinan Clinic เติบโตอย่างมีระบบ

Rattinan Clinic ไม่ได้เติบโตจากการตามกระแส หรือแข่งขันด้วยโปรโมชัน
แต่เติบโตจากความเข้าใจในศาสตร์ของการแพทย์ ควบคู่ไปกับกลยุทธ์ทางธุรกิจที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพ
หนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญของคลินิกนี้ เมื่อสิบกว่าปีก่อนคือ การย้ายจากตึกแถวเล็ก ๆ สู่อาคารสำนักงานหรูใจกลางย่านสีลม อย่าง The Fifth Silom

การตัดสินใจครั้งนี้ ไม่เพียงยกระดับภาพลักษณ์ของคลินิก
แต่ยังเป็นหมุดหมายสำคัญในการเข้าสู่ตลาดลูกค้าต่างชาติอย่างจริงจัง

เพราะสีลมคือ แลนด์มาร์กของกรุงเทพฯ ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกรู้จัก เป็นย่านที่เดินทางสะดวก รายล้อมด้วยโรงแรม 5 ดาว สถานทูต และแหล่งช็อปปิง

“เราย้ายที่ตั้ง แต่จริง ๆ คือย้ายระดับของระบบทั้งหมด”

สิ่งที่ตามมาคือ การเติบโตของฐานลูกค้าชาวต่างชาติแบบก้าวกระโดด จากเดิมที่มีเพียงไม่กี่คน จนวันนี้สัดส่วนเกินครึ่งของรายได้ทั้งหมด

ซึ่งหมอหนึ่ง ชื่อที่หลายคนใช้เรียกหมอสุทธิพงษ์ เล่าว่า ลูกค้าต่างชาตินั้น “ไม่ง่าย”
เพราะพวกเขาไม่เชื่อคำโฆษณา ขยันอ่านข้อมูล ขยันเขียนรีวิว
ถามคำถามแบบตรงไปตรงมา แบบไม่เกรงใจ
และจะไม่ตัดสินใจจองคิว จนกว่าจะมั่นใจในมาตรฐานและจริยธรรมของคลินิก

สิ่งนี้ทำให้ Rattinan Clinic ต้องยกระดับทุกกระบวนการให้ได้มาตรฐานสากล ตั้งแต่ขั้นตอนการให้คำปรึกษา ไปจนถึงบริการหลังการรักษา

แม้ Rattinan Clinic จะเป็นคลินิกที่มีเพียงสาขาเดียว
แต่เลือกเติบโตแบบ Asset Light โดยยังไม่ลงทุนสร้างอาคารโรงพยาบาลเป็นของตัวเอง

ด้วยประสบการณ์การทำงานร่วมกับโรงพยาบาลขนาดใหญ่หลายแห่ง ทำให้สามารถให้บริการผ่าตัดใหญ่ได้อย่างครบวงจร

วิธีคิดเช่นนี้ช่วยให้คลินิกบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องแบกค่าเสื่อมของตึก ขณะเดียวกันก็ยังคงคุณภาพการรักษาในระดับสูงสุด

เพราะการทำศัลยกรรมจำเป็นต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางของแพทย์หลายสาขาในคราวเดียวกัน
การรวมแพทย์มืออาชีพไว้ในที่เดียว จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมคุณภาพ

อีกจุดเปลี่ยนสำคัญคือ การปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่
โดยการขายหุ้นเพิ่มทุน ขยายทีมแพทย์ และปรับองค์กร

จากเดิมที่หมอหนึ่งและภรรยาต้องลงมือเองแทบทุกเคส
วันนี้ทีมแพทย์ของ Rattinan Clinic มีทั้งแพทย์เฉพาะทางด้าน Bariatric, Breast, Butt, และ Body Contouring
กลายเป็นระบบที่เปลี่ยนจาก “เก่งคนเดียว” เป็น “เก่งหลายคนภายใต้ระบบเดียว”
คลินิกยังวางระบบถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับทีมแพทย์รุ่นใหม่
เพื่อให้มาตรฐานในการรักษาไม่ลดลงแม้จะเปลี่ยนมือ

นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนในเทคโนโลยี และระบบความปลอดภัย ที่คลินิกทั่วไปไม่กล้าทำ
เช่น ผ้าห่มอุ่นในห้องผ่าตัดราคา 300,000 บาท หรือระบบวอร์มสารละลายให้คงที่ที่ 37 องศาก่อนเข้าร่างกาย

เพราะมองว่า “ความอบอุ่นของร่างกาย” คือด่านแรกที่ป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด

ทั้งหมดนี้คือ เหตุผลที่ทำให้ Rattinan Clinic เป็นคลินิกแห่งแรกในเอเชียแปซิฟิกที่ได้รับมาตรฐาน AACI Accreditation สาขา Plastic Surgery
และในการประเมินซ้ำรอบล่าสุดปี 2024 ก็ยังทำคะแนนสูงได้ถึง 97 คะแนน ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่ม Aesthetic Clinic ของกรุงเทพฯ

ในด้านจริยธรรม Rattinan Clinic ก็วางจุดยืนชัดเจน

หมอหนึ่งบอกว่า “การกล้าปฏิเสธเป็นศิลปะของหมอยุคใหม่”
เพราะการทำศัลยกรรมที่ดีไม่ใช่แค่ฝีมือ
แต่คือความเข้าใจชีวิตของคนไข้ และกล้าบอกว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ
เช่น การปฏิเสธหัตถการที่อาจทำลายการทำงานของกล้ามเนื้อถาวร ตัดซี่โครงให้เอวเล็ก
หัตถการที่ใช้เวลาการผ่าตัดนานเกินไป
หรือการปฏิเสธผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีงานวิจัยรองรับ หรือไม่มี อย. เช่น เมโสแฟต (Meso Fat) ต่าง ๆ

แม้สิ่งเหล่านี้จะทำรายได้เพิ่ม แต่หมอหนึ่งบอกว่า “ความเชื่อมั่น ไม่ใช่สิ่งที่ซื้อได้ด้วยเงิน”

ลูกค้าจึงไม่ได้กลับมาซ้ำเพราะโปรโมชัน หรืออินฟลูเอนเซอร์
แต่กลับมาเพราะรู้สึกว่า “คลินิกนี้ไม่หลอกเรา”

และความรู้สึกนี้เองที่กลายเป็น Trust ในหัวใจของผู้ใช้บริการ

แม้ Rattinan Clinic จะไม่ใช่คลินิกที่ดังที่สุดในโซเชียลมีเดีย
แต่กลับเป็นหนึ่งในชื่อแรก ๆ ที่ลูกค้าต่างชาติแนะนำต่อ

เพราะพวกเขาไม่ได้หา “คลินิกที่ดีที่สุดในไทย” แต่หา “คลินิกที่ไว้ใจได้ที่สุดในชีวิต”

ในวันนี้ Rattinan Clinic มีทีมงานกว่า 80 คน
และกำลังวางรากฐานด้านเทคโนโลยีเพื่อรองรับการเติบโตในอีก 5 ปีข้างหน้า

ทั้งระบบ AI และ n8n Automation ที่ใช้ในงานหลังบ้าน ชนิดพนักงานเกือบทุกแผนกต้องมาหัดเขียน Code
การลงทุนใน Customer Data Platform (CDP) และ CRM ทำให้การยิงโฆษณาไม่หว่านแห แต่เป็นแบบ Sniper มากขึ้นด้วย Data ที่แม่นยำ และการจะเปลี่ยนระบบ ERP เป็น Microsoft 365 ในปี 2026

ทั้งหมดนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมสู่เป้าหมาย 2 ประการในอีก 4 ปีข้างหน้า

ข้อที่ 1 คือ การสร้างโรงพยาบาลเฉพาะทางให้สำเร็จ
ข้อที่ 2 คือ การนำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ เพื่อขยายโอกาสไปต่างประเทศ

เป้าหมายที่หลายคนอาจมองว่าไกลเกินเอื้อมสำหรับคลินิกเพียงหนึ่งสาขา
แต่สำหรับ Rattinan Clinic ซึ่งยืนหยัดมาได้ถึง 26 ปีท่ามกลางคลื่นการแข่งขัน

นั่นคือหมุดหมายที่เป็นไปได้ ที่ไม่ใช่การสร้างแบรนด์จากโฆษณา แต่สร้างจากความเชื่อมั่นในมาตรฐาน และความเข้าใจในความเป็นมนุษย์

ทั้งหมดนี้คือเส้นทาง Rattinan Clinic คลินิกความงามเล็ก ๆ ที่ไม่ได้แค่อยู่รอด
แต่กำลังจะกลายเป็นองค์กรที่โลกไว้วางใจ จากฝีมือของคนไทย ที่ไม่เคยยอมลดมาตรฐานของตัวเอง..

ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ Rattinan Clinic ได้ที่ : www.rattinan.com

#RattinanClinic #TheAestheticWisdom #RattinanClinic26thAnniversary

Reference :
- บทสัมภาษณ์ตรง นพ.สุทธิพงษ์ ตรีรัตน์ (หมอหนึ่ง) แพทย์ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Rattinan Clinic โดยลงทุนแมน