เส้นทางการเติบโต Thai Coconut จากกะทิไทย สู่ผู้สร้างนวัตกรรมเครื่องดื่มระดับโลก

เส้นทางการเติบโต Thai Coconut จากกะทิไทย สู่ผู้สร้างนวัตกรรมเครื่องดื่มระดับโลก

เส้นทางการเติบโต Thai Coconut จากกะทิไทย สู่ผู้สร้างนวัตกรรมเครื่องดื่มระดับโลก /ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง x Thai Coconut
ถ้าให้ลองนึกชื่อ บริษัทไทยที่เรียกได้ว่าเป็นบริษัทระดับโลก
หนึ่งในนั้นน่าจะต้องมีชื่อของ บมจ.ไทย โคโคนัท (COCOCO) หรือ Thai Coconut
บริษัทนี้ มีจุดเริ่มต้นจากผู้ผลิตกะทิ ที่วันนี้กลายมาเป็นผู้สร้างนวัตกรรมเครื่องดื่มระดับโลก
ผ่านผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่หลากหลาย เช่น น้ำนมมะพร้าว น้ำมะพร้าว นํ้าวิตามิน เครื่องดื่มชากาแฟ เครื่องดื่มอัดแก๊ส เครื่องดื่มนมทางเลือก และอื่น ๆ อีกมากมาย
มุ่งเน้นการให้บริการแบบ OEM และ ODM และรายได้จากต่างประเทศ ส่งออกไปกว่า 100 ประเทศทั่วโลก โดยรายได้ราว 90% มาจากตลาดต่างประเทศ และ 10% มาจากแบรนด์ของบริษัท

ปัจจุบัน มีมูลค่าบริษัทเกือบ 12,000 ล้านบาท..
คำถามคือ แล้ว Thai Coconut เปลี่ยนจากผู้ผลิตกะทิ สู่ผู้สร้างนวัตกรรมเครื่องดื่มระดับโลกได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
จุดเริ่มต้นของ Thai Coconut เริ่มจากการแปรรูปมะพร้าวเป็นกะทิส่งออก
โดยอาศัยจุดแข็ง 2 อย่างคือ คุณภาพของมะพร้าวไทย และความเชี่ยวชาญในการแปรรูปมะพร้าว
ทำให้ Thai Coconut สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าทั่วโลกขึ้นมาได้
อย่างไรก็ตาม บริษัทมองเห็นว่า การเป็นแค่ผู้ส่งออกกะทิ ไม่เพียงพอที่จะก้าวไปไกลกว่านี้
เมื่อผู้บริโภคเปลี่ยนมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและ Functional Drink เติบโตอย่างต่อเนื่อง
Thai Coconut จึงตัดสินใจพลิกโฉมธุรกิจครั้งใหญ่ จากการเป็น Traditional Exporter หรือผู้ส่งออกแบบดั้งเดิม มาเป็น Innovative Beverage Product Manufacturer หรือผู้ผลิตเครื่องดื่มนวัตกรรม เน้นการให้บริการแบบ OEM และ ODM แก่แบรนด์ต่าง ๆ ทั่วโลก
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนชื่อเรียกเท่านั้น แต่เป็นการปรับโมเดลธุรกิจทั้งหมด
ขั้นแรก Thai Coconut มีการลงทุนเทคโนโลยีมาตรฐานระดับโลก สำหรับการผลิตเครื่องดื่มคุณภาพสูง ถึง 3 ไลน์ ได้แก่
- ไลน์แรก ระบบ Aseptic Process สำหรับผลิตเครื่องดื่มใสปราศจากชิ้นเนื้อ เช่น น้ำดื่มผสมวิตามิน Functional Drink และน้ำมะพร้าว
- ไลน์ที่ 2 ระบบ Aseptic และ CSD Process รองรับทั้งเครื่องดื่มทั่วไปและเครื่องดื่มอัดแก๊ส เช่น น้ำอัดลมรสผลไม้ น้ำผลไม้อัดแก๊ส และเครื่องดื่มเสริมวิตามินอัดแก๊ส
- ไลน์ที่ 3 ระบบ Warm Filling Process สำหรับผลิตเครื่องดื่มที่มีชิ้นเนื้อ เช่น น้ำผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าว น้ำว่านหางจระเข้ หรือเครื่องดื่มที่มีชิ้นผลไม้ไทย
เมื่อรวมกำลังการผลิตทั้ง 3 ไลน์เข้าด้วยกัน Thai Coconut จึงมีกำลังการผลิตมหาศาลมากกว่า 100,000 ขวดต่อชั่วโมงเลยทีเดียว
โดยการลงทุนเทคโนโลยีครั้งนี้ นอกจากทำให้ Thai Coconut สามารถผลิตได้มากขึ้นแล้ว ยังทำให้สามารถรองรับการผลิตเครื่องดื่มได้หลากหลายประเภทมากขึ้นอีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็น Clear Beverage หรือเครื่องดื่มใส, Alternative Milk หรือเครื่องดื่มนมทางเลือก, Carbonated Soft Drink หรือเครื่องดื่มอัดแก๊ส และ Beverage with Pulp หรือเครื่องดื่มที่มีชิ้นเนื้อ
ส่งผลให้ Thai Coconut กลายเป็นพันธมิตรที่น่าสนใจสำหรับแบรนด์ต่าง ๆ ทั่วโลก ที่ต้องการหาโรงงานผลิตเครื่องดื่มที่มีมาตรฐานสูง ผลิตได้หลากหลาย และมีราคาแข่งขันได้
ปัจจุบัน Thai Coconut สามารถผลิตและจำหน่ายสินค้าไปยังมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก
ทำให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือและมาตรฐานการผลิตที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลได้เป็นอย่างดี
นอกจากบริการแบบ OEM และ ODM แก่แบรนด์ต่าง ๆ ทั่วโลกแล้ว
Thai Coconut ยังต่อยอดจากผู้ผลิตสู่เจ้าของแบรนด์อีกด้วย อย่างแบรนด์ Thai Coco ที่มีการส่งออกไปยัง 50 ประเทศ ผ่านร้านค้าชั้นนำมากกว่า 30,000 แห่งทั่วโลก อย่างเช่น Walmart, Kroger, GS25, Aeon เป็นต้น
ทั้งนี้ การมีโรงงานที่ทันสมัยและกำลังการผลิตที่มหาศาลในประเทศไทยเพียงอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ
ในตลาดโลกที่มีการแข่งขันสูง โดยเฉพาะตลาดสหรัฐฯ และยุโรป ที่เป็นตลาดใหญ่สำหรับเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว
ซึ่งการมีฐานการผลิตที่ใกล้ตลาดมากขึ้น จะช่วยลดต้นทุนการขนส่ง ลดระยะเวลาการส่งมอบ และทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เร็วขึ้น
Thai Coconut จึงตัดสินใจก้าวสำคัญในการขยายการผลิตไปยังต่างประเทศ ด้วยการเปิดโรงงานแห่งใหม่ในประเทศฟิลิปปินส์ ภายใต้ชื่อบริษัท NOVOCOCONUT INC.
โรงงานแห่งใหม่นี้จะเป็น “Base Factory” สำหรับผลิตกะทิจากมะพร้าวโดยเฉพาะ
เพื่อป้อนเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ และยุโรปโดยตรง และคาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในไตรมาส 2 ของปี 2026 นี้
เหตุผลที่ Thai Coconut เลือกฟิลิปปินส์ ก็เพราะเป็นผู้ผลิตมะพร้าวรายใหญ่ของโลก
มีวัตถุดิบคุณภาพดีในราคาแข่งขันได้ และที่ตั้งเหมาะสำหรับส่งออกไปสหรัฐฯ และยุโรป
โดยจะเน้นผลิตกะทิที่มีมาตรฐานพิเศษสูงกว่าปกติ
โดยเฉพาะการผลิตแบบ Clean Label ที่ไม่มีสารเคมีเติมแต่ง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในตลาดสหรัฐฯ และยุโรปที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น
ซึ่งถ้าเราเจาะลึกความได้เปรียบในการแข่งขันของโรงงานนี้ จะมีกลยุทธ์สำคัญ 3 ข้อด้วยกัน
1. การเป็นผู้นำด้านต้นทุน หรือ Cost Leadership
ดำเนินการผ่านการออกแบบสายการผลิตด้วยระบบกึ่งอัตโนมัติ (Semi-Automation)
พร้อมทั้งนำระบบทีมงานแบบ Modular มาใช้ ซึ่งทำให้ทีมงานเพียงชุดเดียวสามารถดูแลผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม
2. การใช้เทคโนโลยี Clean Label ในการสร้างสายการผลิตสำหรับผลิตภัณฑ์กะทิที่ไม่มีสารเติมแต่ง
เพื่อขายให้กับลูกค้ากลุ่ม Organic และ Clean Label ในตลาดยุโรป โดยผ่านเทคโนโลยีล้ำสมัย 3 อย่าง คือ
- การปรับระบบ Homogenization โดยใช้หลักการผลิตแบบแรงดันสูงแทนการเติมสารเคมีเพื่อให้กะทิเนียนและเป็นเนื้อเดียวกัน
- ระบบการผลิตแบบ Flash Heat ที่ให้ความร้อนแบบทันทีเพื่อรักษาคุณค่าทางโภชนาการ
- และการผลิตกะทิที่มีเปอร์เซ็นต์ไขมันที่ปรับได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็น 5%, 8%, 12% หรือ 18% โดยไม่ต้องเติมสารเคมีให้ความข้น
3.ใช้ระบบ RO และ Non-Chlorate
เพื่อแก้ปัญหาเรื่อง Chlorate ซึ่งถือเป็นสารเคมีตกค้างต้องห้าม ที่ตลาดยุโรปให้ความสำคัญสูงมาก
โดยผ่าน 3 มาตรการสำคัญคือ
- การทำความสะอาดสายการผลิตด้วย Ozone หรือ Peracetic Acid ที่ไม่ก่อให้เกิด Chlorate
- ระบบกรองน้ำ RO ที่กรองแร่ธาตุและคลอรีนออกจากน้ำเพื่อให้ได้น้ำบริสุทธิ์สำหรับการผลิต
- ระบบตรวจวัด Chlorate แบบเรียลไทม์ ที่วัดได้ตลอดเวลาตามมาตรฐานสากล
ต้องบอกว่า การที่ Thai Coconut กล้าลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ ๆ การขยายฐานการผลิตไปยังต่างประเทศ เพื่อเข้าใกล้ตลาดมากขึ้น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกัน
และการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทั้งด้านคุณภาพและต้นทุน
ทั้งหมดนี้ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ..
แต่เป็นเพราะวิสัยทัศน์ระยะยาวของบริษัทที่ว่า ต้องการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเครื่องดื่มจากมะพร้าวของเอเชีย ด้วยเทคโนโลยีสะอาดและมาตรฐานระดับโลก และมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีระดับสากลในการผลิต และสร้างความยั่งยืนให้แก่ทั้งเกษตรกรไทยและตลาดโลก
รวมไปถึง การวางตำแหน่งตัวเองให้เป็นศูนย์กลางการผลิตเครื่องดื่มนวัตกรรมแห่งเอเชีย
โดยใช้ความเชี่ยวชาญในการผลิตและเทคโนโลยีมาสร้างมูลค่าให้กับแบรนด์ต่าง ๆ ทั่วโลก ด้วยการให้บริการครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ พัฒนาสูตร ไปจนถึงการผลิตและส่งมอบ
เรื่องราวของ Thai Coconut เป็นตัวอย่างบริษัทไทยได้อย่างดีว่า..
หากมีวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกล บริษัทไทยเองก็สามารถแข่งขันและประสบความสำเร็จในเวทีโลกได้ นั่นเอง
Reference :
- เอกสารประชาสัมพันธ์ของ บมจ.ไทย โคโคนัท

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon