<ผู้สนับสนุน> ใครคือเจ้าของ Thailand Mobile Expo?

<ผู้สนับสนุน> ใครคือเจ้าของ Thailand Mobile Expo?

6 ส.ค. 2018
<ผู้สนับสนุน>
ใครคือเจ้าของ Thailand Mobile Expo? / โดย ลงทุนแมน
ถ้าเราอยากซื้อโทรศัพท์มือถือจะซื้อที่ไหนดี?
เมื่อถามคำถามนี้ หลายคนคงจะนึกถึง
งานที่รวบรวมโทรศัพท์มือถือของหลายๆแบรนด์
และสิทธิพิเศษต่างๆภายในงาน
ซึ่งงานนี้ก็คือ Thailand Mobile Expo ที่เราเห็นกันในทุกๆปี
แต่รู้หรือไม่ งานนี้ใครเป็นเจ้าของ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MVP เป็นเจ้าของการจัดงานแสดงสินค้าโทรศัพท์มือถือ
ซึ่งตอนนี้ บริษัท เอ็ม วิชั่น ประกอบธุรกิจที่หลากหลาย
ทั้ง งานแสดงสินค้าโทรศัพท์มือถือ และสินค้าเทคโนโลยี
การจัดงานแข่งกีฬา ท่องเที่ยว งานสัมมนา
การผลิตและจำหน่ายสื่อในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งสื่อออฟไลน์และออนไลน์
และยังประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce)
บริษัท เอ็ม วิชั่น ทำอะไรมาก่อนหน้า ถึงได้มาจัดงานแสดงสินค้าโทรศัพท์มือถือได้?
ไม่น่าเชื่อว่า บริษัท เอ็ม วิชั่น เริ่มแรกเป็นผู้ผลิตนิตยสารเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือ (WHATPHONE)
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ เอ็ม วิชั่น กลายเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญและความสัมพันธ์ดีกับผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือหลายราย
และความได้เปรียบนี้ทำให้ เอ็ม วิชั่น มีแนวคิดคิดใหม่ขึ้นมา
ในปี 2007 บริษัท เอ็ม วิชั่น ได้เริ่มจัดงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือ (Thailand Mobile EXPO) เป็นครั้งแรก ได้รับเสียงตอบรับที่ดี เพราะถือว่าเป็นงานแสดงโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
และ บริษัท เอ็ม วิชั่น ก็ได้จัดงานแสดงสินค้าตั้งแต่นั้นมา จนถึงตอนนี้ก็ถือว่าบริษัทนี้มีประสบการณ์มากว่า 12 ปี โดยจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ปีละ 3 ครั้ง ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
หลังจากนั้น เอ็ม วิชั่น ก็ได้เพิ่มรายได้ให้กับบริษัทอีกหนึ่งช่องทาง
ปลายปี 2558 บริษัท เอ็ม วิชั่น ได้เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ให้ SAMSUNG ซึ่งถือว่าเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์ ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆของประเทศไทย
สินค้าที่บริษัทจำหน่าย เช่น สมาร์ทโฟน แท็บแล็ต และเครื่องใช้ไฟฟ้า
ในเวลาเพียงไม่กี่ปี รายได้ส่วนนี้กลายเป็นรายได้หลักของบริษัทพอๆ กับการจัดงาน Thailand Mobile Expo
ส่วนหนึ่งก็มาจากการที่คนหันมาเลือกซื้อของบนอินเทอร์เน็ตกันมาขึ้น ทำให้ตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งก็สอดคล้องกับผลสำรวจของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ ในปี 2560 ตลาดอีคอมเมิร์ซมีมูลค่า 2.81 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 8.6%
แต่ทางบริษัท เอ็ม วิชั่น ก็ยังขยายธุรกิจไปอีก
โดยหันไปจับอีกหนึ่งตลาดใหญ่ นั่นก็คือ ตลาดการท่องเที่ยว
เพราะประเทศไทย ติดอันดับ Top 5 ของประเทศที่มีสัดส่วนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต่อ GDP มากที่สุดในโลก
ก็เป็นเหตุผลให้บริษัท เอ็ม วิชั่น เพิ่มธุรกิจให้บริการเช่ารถบ้าน (Caravan) โดยมีมุมมองที่น่าสนใจว่า สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติสวยๆ หลายแห่งในบ้านเรา โรงแรมหรือรีสอร์ทอาจไม่สามารถเข้าถึงได้
ซึ่งเวลาไปเที่ยวก็อาจทำให้หลายคนรู้สึกลำบากในการเดินทาง หรือขาดความสะดวกสบาย
แต่ด้วยรถบ้านที่ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้ง เตียงนอน ทีวี ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ และที่สำคัญมีห้องน้ำภายในตัว ก็น่าจะสามารถช่วยลดปัญหาไปได้
และในปัจจุบัน เอ็ม วิชั่น ก็เป็นบริษัทที่มีจำนวนรถบ้านมากที่สุดในประเทศไทย เพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้น
นอกเหนือจากรถบ้านแล้ว บริษัท เอ็ม วิชั่น ยังเริ่มให้บริการจัดกิจกรรมอื่นๆ ที่เป็นการท่องเที่ยวในเชิงกีฬา (Sport Tourism) ซึ่งกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน
ซึ่งงานที่ทางบริษัทเคยจัดขึ้น คือ งานวิ่ง Samsung Galaxy 10K Thailand Championship และ จอมบึงมาราธอน
และสำหรับปีนี้ บริษัท เอ็ม วิชั่น ได้เตรียมจัดงานแสดงสินค้า EV car หรือรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้า เป็นครั้งแรกอีกด้วย
จึงทำให้สังเกตได้ว่า โทรศัพท์มือถือไม่ได้เป็นแค่อุปกรณ์ที่ใช้สื่อสารเท่านั้น
แต่ยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นได้ เช่น โทรทัศน์, กล้องถ่ายรูป, เครื่องปรับอากาศ, หลอดไฟ และ Internet of Thing (IoT)
สำหรับในปีหน้าคาดว่างาน Thailand Mobile Expo น่าจะมีแผนย้ายไปจัดที่ Bitec บางนา เพื่อรองรับผู้เข้าร่วมงานได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งพื้นที่จอดรถก็มีเป็นจำนวนมาก
และนอกจากนี้บริษัทยังมีธุรกิจเกี่ยวกับสื่อและเอเจนซี่อีกด้วย
ดูแล้วบริษัท เอ็ม วิชั่น ทำธุรกิจหลายอย่าง
แล้วสัดส่วนรายได้ของบริษัท เอ็ม วิชั่น เป็นอย่างไร?
ธุรกิจของ เอ็ม วิชั่น แบ่งตามประเภทได้ดังนี้
การจัดงาน Thailand Mobile Expo 38%
e-Commerce 35%
สื่อและเอเจนซี่ 12%
การจัดงานอื่นๆ 14%
Caravan 1%
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ทำให้บริษัท เอ็ม วิชั่น ได้เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ MAI ในวันที่ 7 สิงหาคม ราคา IPO 1.90 บาท ชื่อย่อหลักทรัพย์ MVP
เหตุผลที่เข้ามาระดมทุนมีทั้งหมด 4 ข้อ คือ
1. ซื้ออุปกรณ์สำหรับขยายธุรกิจการจัดงาน
2. พัฒนาระบบ e-Commerce
3. ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน
4. เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อรองรับการเติบโตของบริษัทในอนาคต
นี่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าจับตามอง
เราคงต้องดูกันต่อไปว่า
หลังจาก บริษัท เอ็ม วิชั่น (MVP) เข้าในตลาดหลักทรัพย์แล้ว
เราอาจจะได้เห็นอะไรใหม่ๆในงาน Thailand Mobile Expo ก็ได้..
หมายเหตุ การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.