กรณีศึกษา Valeant ของ Bill Ackman

กรณีศึกษา Valeant ของ Bill Ackman

15 มี.ค. 2017
เรื่องนี้เข้ากับสถานการณ์ตลาดทุนไทยในช่วงนี้และข่าวนี้พึ่งออกมาเมื่อวานเหมือนกัน Bill Ackman เป็นเจ้าของ Hedge Fund ชื่อดัง กองทุนของเขามีทรัพย์สินถึง 600,000 ล้านบาท เขาประสบความสำเร็จจากการลงทุนมากมายในอดีต จนมาได้ลงทุนในหุ้นของบริษัทผลิตยาประเทศแคนาดาแห่งหนึ่งชื่อว่า Valeant บริษัทนี้มีรายได้เติบโตอย่างรวดเร็วจากการใช้เงินจำนวนมาก take over บริษัทต่างๆตั้งแต่บริษัทผลิตยาอื่น เชนร้านขายยา ไปจนถึง Bausch & Lomb บริษัทผลิตคอนแทคเลนส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จนบริษัท Valeant นับว่าเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศแคนาดาในปี 2015
ต่อมาเรื่องราวกลับตรงกันข้ามเพราะ บริษัทใช้วิธีเข้าไปซื้อกิจการบริษัทผลิตยาอื่นที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ยานั้น และหลังจากนั้นก็ขึ้นราคายาให้สูงกว่าเดิมหลายเท่าตัว รวมถึงบังคับร้านขายยาซึ่งเป็นบริษัทในเครือชื่อ Philidor Rx Services ให้ขายยาแพงๆให้ลูกค้า อีกทั้งบริษัทยังได้รายงานยอดขายปลอมอีกด้วย ซึ่งการกระทำดังกล่าวถูก Charlie Munger วิจารณ์ว่าผิดศีลธรรมร้ายแรง
Charlie Munger เป็นรองประธานบริษัท Berkshire Hathaway เป็นเพื่อนซี้ของ Warren Buffett ซึ่งมีบทบาทในวงการตลาดทุนอเมริกามาก จน Bill Ackman ต้องเขียนจดหมายเปิดผนึกไปหา Warren Buffett ว่าพร้อมที่จะอธิบายธุรกิจของ Valeant ว่าไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ถูก Charlie Munger กล่าวหา
อย่างไรก็ตามบริษัทได้ถูกสอบสวนโดย กลต อเมริกา ทำให้บริษัทไม่สามารถขึ้นราคายาได้ พอขึ้นราคาไม่ได้ กำไรของบริษัทจึงลดลง และไม่มีเงินพอที่จะมาจ่ายดอกเบี้ยจากหนี้ที่ก่อไว้มหาศาลจากการซื้อกิจการ
ตอนนี้บริษัทมีหนี้สินอยู่มากถึง 1 ล้านล้านบาท ในขณะที่ส่วนของผู้ถือหุ้นมีเพียง 1 แสนล้านบาท หมายความว่าบริษัทมีอัตราหนี้สินต่อทุน (DE Ratio) มากถึง 10:1 ซึ่งปกติแล้วบริษัททั่วไปจะคุม DE Ratio ให้ไม่เกิน 1:1 ดังนั้นแค่ค่าดอกเบี้ยในแต่ละปีที่บริษัทต้องจ่ายก็เป็นเงินถึง 64,000 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ Bill Ackman ได้ไล่ซื้อหุ้น Valeant เป็นจำนวนมากถึง 190,000 ล้านบาท ที่ราคาหุ้นละ $200 เพราะตอนนั้นคงมองว่าเป็นหุ้นเติบโตสูงมาก
พึ่งมีรายงานวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมาว่า Bill Ackman ได้ขายหุ้น Valeant ทิ้งไปหมดแล้ว ซึ่งปัจจุบันหุ้น Valeant มีราคาเหลือแค่ $10 คำนวณแล้วมูลค่าหุ้นทั้งหมดที่เขาขายได้จะได้เงินประมาณ 10,000 ล้านบาท
สรุป Bill Ackman ขาดทุนไปกับหุ้นตัวนี้ถึง 180,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น -95%
จากที่เขาเคยถือ Valeant สัดส่วน 30% ของพอร์ตในตอนแรก ตอนนี้มูลค่าหุ้น Valeant ลดลง และเหลือเพียง 1.5% ของพอร์ต และเหตุผลที่เขาอธิบายว่าได้ขายหุ้น Valeant ออกไปเพราะตอนนี้สัดส่วนหุ้น Valeant ไม่เป็นนัยยะสำคัญกับพอร์ตรวมของเขาแล้ว ทำให้เปลืองเวลา และทรัพยากรในการติดตามหุ้นตัวนี้ (อย่างนี้ก็ได้เหรอ)
อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์บางคนประเมินมูลค่าหุ้นนี้ได้ $0 เหตุผลคือ บริษัทจะไม่มีวันทำกำไรได้เพราะหนี้มหาศาลที่บริษัทมีอยู่
เรื่องนี้เป็นบทเรียนเราอยู่หลายเรื่องเช่น
- การเติบโตรวดเร็วโดยก่อหนี้ที่เกินตัว เมื่อรายได้ไม่เป็นอย่างที่คาด เราจะล้มทันที
- ตัวเลขรายได้ที่แสดงในบัญชีอาจจะไม่ได้บอกอะไร ต้องดูเรื่องราวธุรกิจว่ามัน make sense หรือเปล่าด้วย รายได้มาจากไหน ลูกค้าคือใคร ลูกค้าชอบสินค้าไหม ราคาขายแพงเกินจริงไหม เป็นสิ่งที่ต้องเข้าใจก่อนลงทุน บางธุรกิจใช้ common sense ก็ดูออกแล้วว่ามันไม่ยั่งยืน
- การลงทุนแบบโฟกัสกระจุกอยู่ไม่กี่ตัว ถ้าพลาดก็เจ็บหนักเหมือนกัน Bill Ackman ถือหุ้น Valeant 30% ของพอร์ต ต่อมาลดลงเหลือ 1.5% แปลว่าแค่ตัวนี้ตัวเดียวทำให้พอร์ตขาดทุนไป 28.5% ถ้ามีนักลงทุนถือหุ้นนี้ตัวเดียวทั้งพอร์ตก็อาจจะทำให้เขาหมดตัว
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.