บริษัทเทคโนโลยีทุกสาย กำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ธุรกิจเกม

บริษัทเทคโนโลยีทุกสาย กำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ธุรกิจเกม

10 ก.ค. 2020
บริษัทเทคโนโลยีทุกสาย กำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ธุรกิจเกม /โดย ลงทุนแมน
อุตสาหกรรมเทคโนโลยี คือผู้ขับเคลื่อนโลกยุคนี้ อย่างไม่ต้องสงสัย
เพราะไม่ว่ามองไปทางไหน สิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเรา ล้วนเกี่ยวข้องกับบริษัทเทคโนโลยีทั้งสิ้น
Amazon ให้บริการแพลตฟอร์ม E-commerce
Alphabet บริษัทแม่ของ Google เว็บไซต์ค้นหาข้อมูล
Apple จำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น iPhone, iPad
Facebook ครองตลาดแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
Microsoft พัฒนาระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์
แต่รู้หรือไม่ว่า ขณะนี้มีสิ่งหนึ่งที่บริษัทเหล่านี้ให้ความสนใจเหมือนกัน
นั่นคือ “ธุรกิจเกม”
ตอนนี้บริษัทเทคโนโลยี กำลังทำอะไรเกี่ยวกับวงการเกมอยู่บ้าง?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
เริ่มต้นรายแรกที่ Amazon
บริษัท Amazon เข้าลงทุนในธุรกิจเกมมาตั้งแต่ปี 2014 หลังเข้าซื้อกิจการ Twitch แพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์คอนเทนต์เกม ด้วยเงินมูลค่า 29,000 ล้านบาท
ผ่านมาถึงปัจจุบัน Twitch เติบโตเหนือกว่าคู่แข่งอย่างชัดเจน
มีคนเข้าดูวิดีโอ 9,340 ล้านชั่วโมงต่อปี ครองส่วนแบ่ง 73% ของตลาด
นอกจากนั้น พวกเขายังมีธุรกิจชื่อว่า Amazon Web Services (AWS) ที่ให้บริการพื้นที่จัดเก็บฐานข้อมูลบนระบบคลาวด์ ซึ่งผู้พัฒนาเกมรายใหญ่ เช่น Bandai, Capcom, Epic Games, Supercell, Zynga ต่างเป็นลูกค้าของบริษัท
หมายความว่า ทุกครั้งที่คนเล่นเกมออนไลน์ บริการของ AWS ก็จะถูกใช้ไปด้วย
และที่สำคัญ ธุรกิจนี้มีอัตรากำไรสูงกว่า E-commerce มาก
รายถัดมาคือ Alphabet
บริษัทเป็นเจ้าของ YouTube แพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์ใหญ่สุดของโลก ซึ่งมีผู้ติดตามคอนเทนต์เกี่ยวกับเกมราว 250 ล้านคนต่อวัน
นอกจากนั้น YouTube ยังได้เปิดฟีเจอร์ YouTube Gaming เพื่อรองรับการสตรีมเกมโดยเฉพาะ
โดยมีคนเข้าดูวิดีโอ 2,681 ล้านชั่วโมงต่อปี ครองส่วนแบ่งตลาด 21% เป็นอันดับ 2 รองจาก Twitch
แต่สิ่งที่สร้างความตื่นเต้นให้วงการเป็นอย่างมาก
คือการเปิดตัวธุรกิจแพลตฟอร์มเกมบนคลาวด์ ชื่อว่า Stadia เมื่อปลายปี 2019
บริการนี้อาจทำให้รูปแบบการเล่นเกมเปลี่ยนไป เนื่องจากเราสามารถซื้อเกมมาเล่นได้ทันที ไม่ต้องรอดาวน์โหลดติดตั้ง หรือต้องใช้เครื่องสเปกดีๆ ราคาแพง เพราะว่า Stadia จะคอยประมวลผลและปรับรายละเอียดคุณภาพเกมให้เหมาะกับอุปกรณ์ที่ผู้เล่นใช้งาน
บริษัทต่อมาที่ต้องพูดถึงคือ Apple
จริงๆ แล้ว เกมสร้างรายได้ทางอ้อมให้กับ Apple จำนวนมหาศาล
ปี 2019 มีคนใช้จ่ายในแอปพลิเคชันเกมผ่าน App Store ประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 70% ของแอปทั้งหมด ซึ่งในทุกๆ 100 บาท บริษัทจะได้รับส่วนแบ่ง 30 บาท
เมื่อเห็นอย่างนี้ Apple จึงตัดสินใจขยายธุรกิจไปยังอุตสาหกรรมเกม
ด้วยการเปิดตัวแพลตฟอร์มเกมออนไลน์ ชื่อว่า Apple Arcade
โดยผู้สมัครสมาชิกในระบบ Subscription ราคาเดือนละ 150 บาท จะสามารถเลือกเล่นเกมอะไรก็ได้ บนทุกอุปกรณ์ของแบรนด์ Apple
ทั้งนี้มีการประเมินว่าใน 2 ปีข้างหน้า อาจมีผู้ใช้งาน Apple Arcade ราว 50 ล้านบัญชี ซึ่งจะสร้างรายได้ส่วนเพิ่มให้บริษัทกว่า 93,000 ล้านบาทต่อปี
อีกรายที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ Facebook
Facebook ได้เปิดตัวฟีเจอร์วิดีโอออนไลน์เกี่ยวกับเกมอย่าง Facebook Gaming ในปี 2018
โดยมุ่งเน้นการเชื่อมต่อกับฐานผู้ใช้งานบนโซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างข้อได้เปรียบให้คนติดตามคอนเทนต์ได้ง่ายภายใต้แพลตฟอร์มเดียวกัน
ซึ่งบริษัทเปิดเผยว่า มีผู้เข้าชมวิดีโอเกมถึง 700 ล้านรายต่อเดือน
อย่างไรก็ตาม หากเทียบเป็นจำนวนชั่วโมง Facebook Gaming ยังมีส่วนแบ่งตลาดแค่ 3% เท่านั้น
แต่ในอนาคต Facebook อาจพัฒนาธุรกิจใหม่คล้ายๆ กับ Stadia ของ Google
เนื่องจากเพิ่งซื้อกิจการ PlayGiga แพลตฟอร์มเกมบนคลาวด์จากประเทศสเปน ด้วยมูลค่า 2,400 ล้านบาท
และเรื่องที่ต้องจับตา คือการที่บริษัทเป็นเจ้าของ Oculus VR ผู้พัฒนาเทคโนโลยี Virtual Reality ซึ่งมีโอกาสสูง ที่จะทำให้ Facebook สร้างอุปกรณ์เล่นเกมแนวเสมือนจริงขึ้นมาได้สำเร็จ
ส่วนรายสุดท้ายคือ Microsoft
Microsoft อยู่ในธุรกิจเกมมาตั้งแต่ปี 2001 จากการเป็นผู้พัฒนาคอนโซลเครื่องเล่นเกมอย่าง Xbox ที่ปัจจุบันมียอดขายรวมทุกรุ่นมากกว่า 155 ล้านเครื่อง
และในปี 2016 บริษัทได้เปิดให้บริการแพลตฟอร์มสตรีมมิงเกม ชื่อว่า Mixer
แต่ทว่ากระแสตอบรับไม่เป็นดังที่คาดหวัง มีส่วนแบ่งตลาดเพียง 3%
ทำให้ Microsoft เตรียมปิดตัวแพลตฟอร์มนี้ในเดือนกรกฎาคมนี้ และโยกบัญชีผู้ใช้ไปรวมกับ Facebook Gaming แทน เพื่อร่วมมือกันสู้กับ Twitch และ YouTube
นอกจากนั้น Microsoft อยู่ระหว่างพัฒนาธุรกิจเกมบนคลาวด์เช่นเดียวกัน โดยคาดว่าน่าจะเปิดตัวบริการชื่อว่า xCloud ได้ในปลายปีนี้
จะเห็นได้ว่า ทุกรายมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเล่นเกม ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
แต่ต้องบอกว่า..
แม้จะแข่งขันกันดุเดือดแค่ไหน ตอนนี้คงยังไม่มีใครสู้กับเจ้าของตัวเกมจริงๆ อย่าง Tencent บริษัทเทคโนโลยีจากประเทศจีนได้
เพราะพวกเขาได้สร้างหรือเข้าไปลงทุนในเกมดังๆ ที่มีคนเล่นมากมายทั่วโลก เช่น Fortnite, PlayerUnknown’s Battlegrounds, Arena of Valor (RoV), League of Legends, Honor of Kings, Clash of Clans
ส่งผลให้ Tencent ครองตำแหน่งสูงสุดของอุตสาหกรรม มีรายได้จากธุรกิจเกมสูงถึง 612,000 ล้านบาท
มาถึงตรงนี้ หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมตลาดเกมถึงน่าสนใจในสายตาของบริษัทเทคโนโลยี?
สิ่งที่บริษัทเหล่านี้ต้องการ คงหนีไม่พ้น การนำเอาเทคโนโลยีของตัวเองเข้าไปถึงมือผู้บริโภค เพื่อสร้างฐานผู้ใช้งานอันแข็งแกร่ง
ซึ่งธุรกิจเกมกำลังเป็นอุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่มาก
จากประชากรโลก 7,800 ล้านคน มีคนเล่นเกม 2,700 ล้านคน หรือราว 35%
ครอบคลุมคนทุกเพศ ทุกวัย และทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็น มือถือ คอมพิวเตอร์ หรือคอนโซลเกม
จึงทำให้ปัจจุบัน ตลาดเกมมีมูลค่าสูงถึง 4.7 ล้านล้านบาท และคาดการณ์ว่าตัวเลขดังกล่าว จะเติบโตขึ้นเป็น 6.2 ล้านล้านบาท ในปี 2023
ที่พิเศษคือ คนเล่นเกมมักจะยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อไอเทมหรือฟีเจอร์ต่างๆ แบบไม่จำกัด
ต่างจากตลาดอื่น ที่ลูกค้าอาจซื้อของได้จำนวนจำกัด หรือจ่ายเงินแบบ Subscription ซึ่งคงที่เท่าเดิมตลอด
และบริษัทยังสามารถเสนอผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าได้โดยตรงแบบเรียลไทม์ ซึ่งเมื่อเกิดคำสั่งซื้อ ผู้เล่นจะได้รับของทันที ส่วนเจ้าของเกมก็จะได้รับเงินในเวลาเดียวกัน
ขณะที่การซื้อสินค้าตามปกติ ผู้บริโภคอาจต้องไปเลือกซื้อตามห้าง หรือรอสินค้ามาส่งในภายหลัง ส่วนผู้ขายก็อาจมีคนกลางหรือตัวแทนจำหน่ายหลายชั้น กว่าจะได้รับเงิน และต้องคอยบริหารจัดการสินค้าคงคลังด้วย
รวมทั้ง เจ้าของเกมและผู้เล่น ยังสามารถทำกิจกรรมต่อยอดจากการเล่นเกมได้ เช่น รีวิวเกม แคสต์เกม หรือจัดแข่งขันเป็นกีฬา Esports แบบจริงจัง เพื่อชิงเงินรางวัล
ด้วยเหตุนี้ คงไม่น่าแปลกใจ ถ้าบอกว่าในอนาคตอันใกล้ ตลาดเกมที่มนุษย์จ่ายเงินซื้อของเสมือนจริง
อาจใหญ่กว่า ตลาดสินค้ากายภาพหลายๆ อย่าง ที่จับต้องได้เสียอีก..
----------------------
อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
Blockdit.com/download
----------------------
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://edition.cnn.com/2020/06/28/tech/google-stadia-apple-arcade-mixer-gaming/index.html
-https://www.protocol.com/tech-gaming-amazon-facebook-microsoft
-https://www.geekwire.com/2019/microsofts-mixer-grows-audience-amazons-twitch-continues-dominate-streaming-market/
-https://aws.amazon.com/gametech/
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_best-selling_game_consoles
-https://www.reuters.com/article/esports-business-gaming-revenues/report-gaming-revenue-to-top-159b-in-2020-idUSFLM8jkJMl
-https://www.digitalinformationworld.com/2020/01/global-consumers-spent-over-83-billion-on-mobile-apps-in-the-last-12-months.html
-https://en.wikipedia.org/wiki/Tencent#Video_games
-https://www.statista.com/statistics/983227/global-video-games-revenue-companies/
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.