บิทคับ ไบแนนซ์ สงครามที่กำลังจะเกิดขึ้น ในประเทศไทย

บิทคับ ไบแนนซ์ สงครามที่กำลังจะเกิดขึ้น ในประเทศไทย

บิทคับ ไบแนนซ์ สงครามที่กำลังจะเกิดขึ้น ในประเทศไทย /โดย ลงทุนแมน
จากข่าวความร่วมมือของ GULF กับไบแนนซ์เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ก็เรียกได้ว่าสถานการณ์การแข่งขันในการแย่งส่วนแบ่งการซื้อขายคริปโทในประเทศไทย จะต้องดุเดือดขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคต
“ฝั่งเขียว” บิทคับ เป็นศูนย์ซื้อขายคริปโท ที่มีมาร์เก็ตแชร์มากสุดในประเทศไทย
มีแบ็กอัปเป็น SCB ที่เมื่อไม่นานมานี้ประกาศว่าจะซื้อหุ้น 51% ในศูนย์ซื้อขายบิทคับ
โดยในตอนนี้ SCB มีผู้ใช้งาน SCB EASY แอปพลิเคชันของธนาคารกว่า 12.4 ล้านบัญชี
“ฝั่งเหลือง” ไบแนนซ์ เป็นศูนย์ซื้อขายคริปโท ที่มีมาร์เก็ตแชร์มากสุดในโลก
มีแบ็กอัปเป็น GULF เจ้าของธุรกิจโรงไฟฟ้า และในระยะหลังเริ่มเข้าไปลงทุนในหลายธุรกิจ
หนึ่งในนั้นก็คือ INTUCH ผู้ถือหุ้นใหญ่ใน ADVANC เจ้าของ AIS มีผู้ใช้บริการในมือ 43.7 ล้านบัญชี
ซึ่งแน่นอนว่าหากไบแนนซ์ เข้ามาเปิดศูนย์ซื้อขายคริปโทในประเทศไทย ก็จะต้องเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดจากบิทคับโดยตรง
แต่รู้หรือไม่ว่า ถึงตอนนี้ไบแนนซ์จะยังไม่ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. แต่คนไทยหลายคนก็มีการใช้งานไบแนนซ์อยู่แล้ว
ซึ่งสอดคล้องกับเรื่องล่าสุดที่ไบแนนซ์ได้นำภาษาไทยออกไปจากแพลตฟอร์มเพื่อให้สื่อถึงว่าไบแนนซ์ในเวอร์ชันเดิมไม่ได้มีเจตนาจะทำธุรกิจในไทย เพื่อหลีกเลี่ยงกับการขัดแย้งกับ ก.ล.ต. ไทย และก็ได้มาเฉลยวันนี้ว่าไบแนนซ์จะทำแพลตฟอร์มอีกเวอร์ชันหนึ่งสำหรับคนไทยโดยเฉพาะ นั่นเอง..
แล้วไบแนนซ์จะต้องทำอย่างไร ? ถึงจะได้ใบอนุญาต เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยได้อย่างถูกต้อง
เพราะในโลกคริปโทเคอร์เรนซีเวลาไม่เคยรอใคร ถ้าก้าวช้าไปหนึ่งจังหวะ นั่นอาจหมายถึงการพลาดโอกาสที่จะครองตลาดนั้น
หนึ่งในหนทางที่เป็นทางลัดก็คือ ร่วมมือเป็นพาร์ตเนอร์กับผู้ประกอบการยักษ์ใหญ่ที่มีจุดเด่นด้านการได้รับสัมปทานหรือขอใบอนุญาตในประเทศไทย
รู้หรือไม่ว่า GULF เป็นเจ้าของโรงไฟฟ้ามากมายในประเทศไทย ซึ่งโรงไฟฟ้าเหล่านั้นต้องผ่านขั้นตอนทางกฎหมายที่ต้องขอใบอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากมาย
ซึ่ง ไบแนนซ์ รู้ดีว่าประสบการณ์การทำธุรกิจของ GULF นี่แหละ ที่จะเป็นทางลัดในการได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต.
แล้วทำไม ไบแนนซ์ ถึงสนใจตลาดคริปโทเคอร์เรนซีในประเทศไทย ?
คำตอบก็คือ ตอนนี้ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีในประเทศไทยสุกงอมจนถึงขีดสุด
ไม่ว่าเราจะขับรถไปทางไหนก็จะเห็นแต่ป้ายโฆษณาเชิญชวนให้เข้าไป “เปลี่ยนอนาคต” ด้วยคริปโทเคอร์เรนซี
เรียกได้ว่าผู้เล่นก่อนหน้าได้ทำงาน “ปูทาง” สร้างการรับรู้ถึงคริปโทเคอร์เรนซี ให้กับคนไทยไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ในขณะเดียวกันในใจของทุกคนก็รู้ดีว่าไบแนนซ์คืออันดับ 1 ของโลกในวงการคริปโทเคอร์เรนซีที่ยังไม่ได้เข้ามาในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
ดังนั้นการเข้ามาของไบแนนซ์ในช่วงนี้จึงถือว่าเป็นช่วงจังหวะเวลาที่เป็นจุดพีกในการแย่งส่วนแบ่งจากเจ้าตลาดเดิมในประเทศไทย
อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ
GULF ยังเป็นเจ้าของทางอ้อมในผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์ในไทยอันดับ 1 อย่าง AIS
ถ้าถามว่า AIS ลูกค้ามีเท่าไร ? คำตอบก็คือ 43.7 ล้านบัญชี ซึ่งก็เรียกได้ว่าจำนวนนี้เกินกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรประเทศไทย..
แต่ทางฝั่งบิทคับเอง ก็ยังได้เปรียบไบแนนซ์อยู่มาก เพราะว่าบิทคับเป็นเจ้าตลาดเดิม ซึ่งครองส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 90% และมีสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่อย่าง SCB คอยสนับสนุนอยู่
ซึ่งแน่นอนว่าความเชี่ยวชาญในด้านธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเงินของ SCB ก็น่าจะทำให้สินค้าและบริการใหม่ ๆ เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต สามารถขอใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. ได้ไม่ยากเย็นนัก
จากเรื่องทั้งหมด
สรุปง่าย ๆ ก็คือ ผู้เล่นคริปโทเคอร์เรนซีเดิม อาจจะเห็นอุปสรรคใหญ่ก็คือการกำกับดูแลจากภาครัฐ
ดังนั้นวิธีแก้ก็คือ หาพาร์ตเนอร์เป็นบริษัทไทยรายใหญ่ที่เชี่ยวชาญเรื่องนี้เสียเลย..
สำหรับผู้บริโภค
ดีลของ GULF ที่ร่วมมือกับไบแนนซ์ ก็อาจจะกระทบกับผู้ซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีพอสมควร เพราะจากเดิมหลายคนเลือกช่องทางไบแนนซ์เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการกำกับดูแลจากภาครัฐ
แต่มาวันนี้ ไบแนนซ์ เลือกที่จะเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยกับ GULF ก็แปลว่าอยากทำธุรกิจอย่างถูกต้องโดยได้รับใบอนุญาต เหตุผลก็อาจเป็นเพราะไบแนนซ์ครองตลาดที่ไม่ถูกกำกับดูแลอยู่แล้ว แต่ไบแนนซ์ก็ไม่อยากสูญเสียตลาดที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลให้คนอื่นไป สุดท้ายก็เลยทำ 2 ตลาดเสียเลย
นั่นหมายความว่า ในอนาคต คนไทยอาจจะต้องเลือกว่าจะเทรดกับไบแนนซ์เวอร์ชันไหน
สิ่งที่อาจเกิดขึ้นก็คือ ไบแนนซ์จะแยกออกมาเป็น 2 เวอร์ชัน นั่นคือ
1. ไบแนนซ์เดิมที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของใคร
2. ไบแนนซ์ไทยแลนด์ที่อยู่ในการกำกับดูแลของ ก.ล.ต. (คล้ายกับ Binance.US ในสหรัฐอเมริกา)
ถึงตรงนี้ เราก็น่าจะสรุปได้ว่าสงครามระหว่าง บิทคับ และ ไบแนนซ์ กำลังจะเริ่มขึ้นเร็ว ๆ นี้ ในรูปแบบการต่อสู้ที่เปลี่ยนแปลงไป
และเรื่องดังกล่าว ไม่ว่าจะฝั่งเขียวหรือฝั่งเหลืองชนะ ก็น่าจะทำให้คนไทย เข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัล ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก และถึงเราจะไม่อยากเข้าถึงมัน มันก็จะมาอยู่ตรงหน้า ให้เราลองใช้อยู่ดี..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 2 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon