ไทย กับ เยอรมัน ต่างกันแค่ไหน?

ไทย กับ เยอรมัน ต่างกันแค่ไหน?

27 ธ.ค. 2017
ไทย กับ เยอรมัน ต่างกันแค่ไหน? / โดย ลงทุนแมน
บทความนี้เป็นหนึ่งในบทความที่ตัวลงทุนแมนเองชอบที่สุด
เป็นเรื่องเกี่ยวกับเยอรมัน แม้แต่ตัวลงทุนแมนเขียนเองก็ยังมันส์เอง
ทุกคนรู้ดีว่าเยอรมนีเป็นประเทศแห่งคุณภาพ
ทุกสินค้าของประเทศนี้ขึ้นชื่อเรื่องความล้ำ ความไฮเทค
แต่รู้ไหมว่า..
เยอรมันไม่เหมือนกันกับประเทศไทยตรงไหน?
เยอรมนีเป็นประเทศที่ทุกคนเก่งหมด เมืองทุกเมืองสามารถเป็นเมืองที่รวยได้
ภาพของกรุงเทพมหานครที่เป็นเมืองหลวง มีคนอยู่ในเมืองเป็นสิบล้านคน ทุกอย่างต้องมารวมกันอยู่ที่นี่
แต่เยอรมนีไม่ใช่แบบนั้น..
เมืองที่มีประชากรมากสุดของเยอรมนีคือ เบอร์ลิน มีประชากรแค่ 3 ล้านคน
ตัวอย่างสำนักงานใหญ่รถชื่อดังอย่าง BMW Mercedez-Benz Volkswagen ก็อยู่คนละเมือง
ถ้าเป็นประเทศไทยเหรอ?
ทุกอย่างต้อง กรุงเทพมหานคร เท่านั้น
วันนี้ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟังว่า บริษัทชั้นนำระดับโลกที่อยู่ในประเทศเยอรมนี มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองไหนกันบ้าง และเมืองนั้นมีประชากรเทียบเท่าเมืองไหนของประเทศไทย
....................
1.เมืองเบอร์ลิน (Berlin)
เบอร์ลินนั้นเป็นหนึ่งในศูนย์กลางที่มีอิทธิพลมากที่สุดในยุโรป และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีประชากรมากถึง 3.4 ล้านกว่าคน
แต่เมื่อเทียบกับจังหวัดกรุงเทพ คิดเป็นสัดส่วนเพียง 60% เท่านั้น ไม่น่าเชื่อว่าเบอร์ลินจะเล็กกว่าบางกอก..
Siemens อยู่ในเบอร์ลิน
Siemens เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกด้านวิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ที่ดำเนินธุรกิจเป็นผู้ผลิตรถไฟฟ้าความเร็วสูง บริการวางระบบไฟฟ้า พัฒนาและติดตั้งระบบต่างๆ และการจัดการข้อมูลทั้งในภาคอุตสาหกรรม พลังงาน และการดูแลสุขภาพ
ตัวอย่างในประเทศไทยระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้า BTS, โครงการ MRT สายสีน้ำเงิน และโครงการ Airport Rail Link ใช้ระบบของ Siemens ทั้งหมด..
....................
2. เมืองฮัมบวร์ค (Hamburg)
เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 มีประชากร 1.8 ล้านกว่าคน ถ้าเทียบกับจำนวนคนในประเทศไทยก็คือจังหวัดขอนแก่น
NIVEA อยู่ในฮัมบวร์ค
NIVEA ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่ออกวางจำหน่ายทั่วโลกในประเทศไทยคงคุ้นตากันดีด้วยผลิตภัณฑ์สีขวดที่เป็นสีน้ำเงินสะดุดตา
NIVEA ดำเนินธุรกิจมามากกว่า 130 ปี ซึ่ง NIVEA นั้นเป็นแบรนด์ของบริษัท Beiersdorf ในประเทศเยอรมนีที่เป็นเจ้าของแบรนด์อื่นอีกมากมายเช่น Eucerin Labello la prairie JUVENA FUTURO เป็นต้น
....................
3. เมืองมิวนิก (Munich)
เมืองมิวนิกเป็นเมืองที่ใหญ่อันดับ 3 ของประเทศ มีประชากร 1.43 ล้านกว่าคน เทียบกับจำนวนคนในประเทศไทยก็คือจังหวัดร้อยเอ็ด
BMW Group อยู่ในมิวนิก
เพียงแค่พูดชื่อบริษัท หลายคนก็คงนึกได้ทันทีว่าเป็นบริษัทอะไร BMW เป็นบริษัทรถยนต์ระดับโลกได้แก่ BMW, Minicooper และ Rolls-Royce ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1916
BMW นั้นได้รับการจัดอันดับเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าเป็นอันดับหนึ่งของประเทศเยอรมนี
Allianz อยู่ในมิวนิก
เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่เราคุ้นเคยกันดี เนื่องจากมีการมาจัดตั้งบริษัททำธุรกิจบริการประกันในประเทศไทยด้วย Allianz ดำเนินธุรกิจหลักเกี่ยวกับประกันและจัดการกองทุน โดยมีมูลค่าสินทรัพย์ในการจัดการอยู่ 49.94 ล้านล้านบาท เป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของยุโรป
....................
4. เมืองแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt)
เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 5 ของประเทศโดยมีจำนวนประชากรทั้งหมด 7 แสนกว่าคน เทียบกับจำนวนคนในประเทศไทยก็เท่ากับจังหวัดกำแพงเพชร เมืองแฟรงก์เฟิร์ต เป็นศูนย์กลางทางการเงินใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป ในเมืองนี้เป็นที่ตั้งของท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศคือ ท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต
Deutsche Bank อยู่ในแฟรงก์เฟิร์ต
Deutsche Bank ธนาคารชั้นนำผู้ให้บริการทางด้านการเงินระดับโลก ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1870 ดำเนินงานมามากกว่า 147 ปี ซึ่งในปีนี้ธนาคารได้รับการจัดอันดับเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 16 ของโลกด้วยมูลค่าสินทรัพย์ และมีจำนวนพนักงานมากกว่า 1 แสนคน ในกว่า 70 ประเทศ
....................
5. เมืองชตุทท์การ์ท (Stuttgart)
เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 6 ของประเทศ ซึ่งมีจำนวนประชากร 6 แสนกว่าคน เทียบกับจำนวนคนในประเทศไทยก็เท่ากับจังหวัด สระบุรี
Mercedes-Benz อยู่ในชตุทท์การ์ท
บริษัทผลิตรถยนต์ชั้นนำระดับโลกที่ผลิตทั้ง รถยนต์ รถบัส รถบรรทุก มีบริษัท Daimler เป็นเจ้าของแบรนด์ ซึ่งใครๆ ต่างก็รู้จัก ด้วยโลโก้ดาวสามแฉกล้อมรอบด้วยวงกลม และมักเรียกกันสั้นๆ ว่า รถเบนซ์ ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1886 ได้รับการจัดอันดับให้เป็นแบรนด์ที่มีมูลค่ามากที่สุดอันดับ 3 ในประเทศเยอรมนี
....................
6.เมืองบอนน์ (Bonn)
เป็นเมืองที่มีจำนวนประชากรทั้งหมด 3 แสนกว่าคน เมื่อเทียบกับประเทศไทยจำนวนประชากรเท่ากับจังหวัดชัยนาท โดยเมืองบอนน์นั้นเคยเป็นเมืองหลวงของอดีตประเทศเยอรมนีตะวันตกอีกด้วย
DHL อยู่ในบอนน์
DHL เรามักคุ้นเคยกันดีเมื่อสั่งสินค้าจากต่างประเทศ เป็นบริษัทด้านขนส่งและโลจิสติกส์ที่มีชื่อเสียงชั้นนำระดับโลกสามารถเข้าถึงผู้ใช้บริการได้ทั่วทุกมุมโลก มีบริการการขนส่งในหลากหลายรูปแบบตั้งแต่ส่งเอกสาร ไปถึงตู้คอนเทนเนอร์ ทางอากาศ ทางเรือ เป็นต้น โดย DHL ได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทผู้นำด้านโลจิสติกส์อันดับ 3 ของโลก
....................
7. เมืองว็อลฟส์บูร์ก (Wolfsburg)
เมืองว็อลฟส์บูร์ก เป็นเมืองที่มีประชากร 1.2 แสนคน เทียบกับจำนวนคนในประเทศไทยก็เท่ากับจังหวัดระนอง
Volkswagen Group อยู่ในว็อลฟส์บูร์ก
บริษัท Volkswagen Group ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำระดับโลก มีแบรนด์รถยนต์ที่ตอบสนองต่อลูกค้าในหลายระดับ ที่บอกไปทุกคนต้องรู้จักเกือบทุกแบรนด์ ทั้งแบรนด์ VW ที่เป็นต้นกำเนิดของบริษัทเอง, SEAT, Audi, Skoda ไปจนถึงแบรนด์รถสปอร์ตและรถหรู Porsche, Lamborghini, Bentley, Bugatti แบรนด์รถบรรทุก Scania และมอเตอร์ไซค์ Ducati
....................
8. เมืองแฮร์โซเกเนารัช (Herzogenaurach)
เป็นอีกหนึ่งเมืองเล็กๆ ที่มีจำนวนประชากรเพียง 2.3 หมื่นคน เมื่อเทียบกับประเทศไทยจำนวนประชากรเท่ากับอำเภอปากพลีในจังหวัดนครนายกเท่านั้น
Adidas อยู่ในแฮร์โซเกเนารัช
บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬาที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป เป็นอันดับ 2 ของโลกที่รองจาก Nike ซึ่ง Adidas นั้นยังเป็นเจ้าของแบรนด์ Reebok และหุ้นส่วนสโมสรฟุตบอลบาเยิร์นมิวนิคอีกด้วย โดยในปีที่ผ่านมามียอดขายมากถึง 7.31 แสนล้านบาท
....................
9. เมืองวอลล์ดอร์ฟ Walldorf
เมือง Walldorf เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีประชากรอยู่ในเมืองนี้เพียง 1.5 หมื่นคน เมื่อเทียบกับประเทศไทยจำนวนประชากรเท่ากับอำเภอละอุ่นในจังหวัดระนองเท่านั้นเอง
SAP อยู่ในวอลล์ดอร์ฟ
หากอยู่ในวัยทำงาน เป็นพนักงานออฟฟิศในบริษัท น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักบริษัทนี้ SAP นั้นเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่สร้างเพื่อทุกกลุ่มธุรกิจ ที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปและเป็นบริษัทเทคโนโลยีใหญ่เป็นอันดับ 15 ของโลก
....................
บทสรุป
ประเทศเยอรมนี นั้นเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก
แต่รู้หรือไม่ว่า ประเทศเยอรมนีเป็นประเทศที่มีพื้นที่น้อยกว่าประเทศไทย โดยเยอรมนีมีพื้นที่ประมานร้อยละ 70 ของประเทศไทย
แล้วเพราะอะไรหล่ะ ถึงทำให้ประเทศเยอรมนีกลายเป็นประเทศที่เศรษฐกิจดีเป็นอันดันต้นๆ ของโลก?
ระบบการปกครองของเยอรมันเป็นแบบมีการกระจายอำนาจไปยัง รัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น ซึ่งเป็นอิสระแก่กัน ทำให้เยอรมนี สามารถดูแลได้ทั่วถึงและมีการจัดการบริหารเศรษฐกิจอย่างเป็นระบบ
เรื่องเยอรมนีแสดงให้เห็นถึงพลังของคนในภูมิภาค
ท้องถิ่นของเยอรมันที่ไม่ใช่แค่อยู่ในเมืองหลวงเหมือนประเทศไทย และคนท้องถิ่นนี้มีนวัตกรรมที่ล้ำมาก
แล้วทำไมท้องถิ่นประเทศไทยจะทำแบบเยอรมันไม่ได้?
ลงทุนแมนเชื่อว่าเราเลือกทางเดินได้ว่าจะเดินแบบไหน
ลงทุนแมนไม่เชื่อว่าเราจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป
อนาคตเปลี่ยนได้
ด้วยจำนวนคนในเมืองที่เท่ากัน..
ขอนแก่น จะเป็นเหมือน ฮัมบวร์ค ที่เป็นศูนย์กลางเครื่องสำอางของโลกได้
กำแพงเพชร จะเป็นเหมือน แฟรงก์เฟิร์ต ที่เป็นศูนย์กลางทางการเงินของยุโรปได้
และ ร้อยเอ็ด จะเป็นเหมือน มิวนิค ที่เป็นศูนย์กลางผลิตรถยนต์หรูชั้นนำของโลกได้ เช่นกัน
แต่จะเป็นไปได้ไหม ในชาตินี้ ก่อนที่เราจะตาย..
----------------------
ถ้าเรื่องเยอรมัน มันส์สมชื่อ อ่านอีกหลายเรื่องย้อนหลัง ได้ที่ APP ลงทุนแมน โหลดฟรี https://www.longtunman.com/app
----------------------
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.