
รู้จัก “AMARC” ผู้นำธุรกิจ ตรวจสอบวิเคราะห์สินค้า ที่ใกล้ตัวคนไทย กำลังจะเข้า IPO
10 ต.ค. 2022
รู้จัก “AMARC” ผู้นำธุรกิจ ตรวจสอบวิเคราะห์สินค้า ที่ใกล้ตัวคนไทย กำลังจะเข้า IPO
AMARC X ลงทุนแมน
AMARC X ลงทุนแมน
หากพูดถึง ธุรกิจตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์อาหารและเกษตร
ได้ยินแค่ชื่อ ก็น่าจะทำให้หลายคน สงสัยว่ามันคือธุรกิจอะไร
แต่จริง ๆ แล้ว ธุรกิจนี้เกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของทุกคนบนโลกใบนี้
ได้ยินแค่ชื่อ ก็น่าจะทำให้หลายคน สงสัยว่ามันคือธุรกิจอะไร
แต่จริง ๆ แล้ว ธุรกิจนี้เกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของทุกคนบนโลกใบนี้
รู้หรือไม่ว่า อาหาร, สินค้าเกษตร, เครื่องสำอาง ก่อนจะวางขายทั่วประเทศ หรือส่งออกไปยังทั่วโลก ต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพสินค้าอย่างหลายมิติ จากห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์
เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้านั้น มีคุณสมบัติตรงตามที่ระบุไว้บนฉลาก และมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค
เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้านั้น มีคุณสมบัติตรงตามที่ระบุไว้บนฉลาก และมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค
จากนั้น เจ้าของสินค้าจะนำข้อมูลผลตรวจวิเคราะห์จากห้องปฏิบัติการ
มาขอขึ้นทะเบียนที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินธุรกิจ
มาขอขึ้นทะเบียนที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินธุรกิจ
ที่น่าสนใจ ธุรกิจนี้ในบ้านเรามีไม่ถึง 10 บริษัท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทต่างชาติ หรือไม่ก็หน่วยงานของรัฐบาล จะมีเพียงบริษัทเดียวในธุรกิจนี้ ที่มีสถานะเป็น “เอกชนสัญชาติไทย”
บริษัทที่ว่าคือ บริษัท ศูนย์ห้องปฏิบัติการและวิจัยทางการแพทย์และการเกษตรแห่งเอเซีย จำกัด (มหาชน)
หรือ “AMARC” ที่แม้จะเจอบริษัทคู่แข่งยักษ์ใหญ่จากต่างชาติ
แต่ก็สามารถมีรายได้เติบโตต่อเนื่องปีละ 10-20% เลยทีเดียว
หรือ “AMARC” ที่แม้จะเจอบริษัทคู่แข่งยักษ์ใหญ่จากต่างชาติ
แต่ก็สามารถมีรายได้เติบโตต่อเนื่องปีละ 10-20% เลยทีเดียว
ล่าสุด บริษัทแห่งนี้ได้เตรียมจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)
โดยได้รับอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. ให้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 120 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 28.57% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่เปิดขาย
โดยได้รับอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. ให้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 120 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 28.57% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่เปิดขาย
เป็นการสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ให้แก่วงการตลาดหลักทรัพย์
เพราะนี้คือบริษัทเอกชนรายแรกของเมืองไทยที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับห้อง Lab ตรวจวิเคราะห์
ที่เดินทางเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ได้สำเร็จ
เพราะนี้คือบริษัทเอกชนรายแรกของเมืองไทยที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับห้อง Lab ตรวจวิเคราะห์
ที่เดินทางเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ได้สำเร็จ
ดร.ชินดนัย ไชยยอง กรรมการผู้จัดการ “AMARC” เล่าให้ลงทุนแมนฟังว่า..
การเข้าตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้ จะทำให้บริษัทเป็นที่รู้จักมากขึ้น พร้อมกับขยายไปยังธุรกิจใหม่ ๆ ที่เป็น เมกะเทรนด์ ของโลก
หลังจาก IPO แล้ว “AMARC” จะเติบโต และแข็งแกร่งกว่าเดิมมากแค่ไหน ?
ลงทุนแมน จะสรุปบทสัมภาษณ์ของ ดร.ชินดนัย ให้ฟังแบบเข้าใจง่าย ๆ
ลงทุนแมน จะสรุปบทสัมภาษณ์ของ ดร.ชินดนัย ให้ฟังแบบเข้าใจง่าย ๆ
รู้หรือไม่ จุดเริ่มต้นของบริษัท “AMARC” มาจากที่ในอดีต โรงพยาบาลลาดพร้าว
มีห้อง Lab ที่เกี่ยวกับอาหารการตรวจวิเคราะห์ทางการแพทย์ และการเกษตร
พร้อมกับมีนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ฝีมือดีจำนวนหนึ่ง ขณะเดียวกันในเวลานั้น ห้อง Lab ยังมีน้อย
ตรงกันข้ามกับที่มีเจ้าของแบรนด์สินค้าต่าง ๆ ในเมืองไทย กำลังต้องการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ
มีห้อง Lab ที่เกี่ยวกับอาหารการตรวจวิเคราะห์ทางการแพทย์ และการเกษตร
พร้อมกับมีนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ฝีมือดีจำนวนหนึ่ง ขณะเดียวกันในเวลานั้น ห้อง Lab ยังมีน้อย
ตรงกันข้ามกับที่มีเจ้าของแบรนด์สินค้าต่าง ๆ ในเมืองไทย กำลังต้องการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ
ทำให้ธุรกิจนี้มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
จนในเวลาต่อมา มีการแยกธุรกิจการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ทางด้านเกษตรและอาหารออกมาให้ชัดเจน จนกลายมาเป็นบริษัท “AMARC”
เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและตอบสนองต่อความต้องการ ของลูกค้าที่มาใช้บริการได้ดี พร้อมกับขยายบริการเป็น 3 ธุรกิจ
จนในเวลาต่อมา มีการแยกธุรกิจการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ทางด้านเกษตรและอาหารออกมาให้ชัดเจน จนกลายมาเป็นบริษัท “AMARC”
เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและตอบสนองต่อความต้องการ ของลูกค้าที่มาใช้บริการได้ดี พร้อมกับขยายบริการเป็น 3 ธุรกิจ
1. ธุรกิจบริการตรวจวิเคราะห์-ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร อาหาร, ปัจจัยผลิตทางการเกษตร, สิ่งแวดล้อม,ยา, อาหารเสริม, เครื่องสำอาง
2. ธุรกิจบริการสอบเทียบเครื่องมือและอุปกรณ์ในโรงพยาบาล, โรงงานผลิตสินค้าต่าง ๆ
3. ธุรกิจบริการตรวจสอบและรับรองระบบทั้ง ฟาร์มเกษตรและประมง และในโรงงาน
พูดง่าย ๆ คือ บริษัทแห่งนี้ดูแลและตรวจสอบสินค้าและระบบการจัดการที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของผู้คน ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เช่น
- ต้นน้ำ คือ ธุรกิจตรวจสอบคุณภาพฟาร์มเกษตรและประมง ที่จะตรวจสอบวัตถุดิบและระบบการจัดการของฟาร์ม ก่อนนำเข้าไปสู่โรงงานต่าง ๆ
- กลางน้ำ คือ การตรวจสอบคุณภาพการผลิตสินค้าของโรงงานนั่นเอง
- ปลายน้ำ คือ การตรวจสอบอาหารและสินค้าต่าง ๆ ก่อนส่งไปถึง มือผู้บริโภค หรือเพื่อการส่งออก
- กลางน้ำ คือ การตรวจสอบคุณภาพการผลิตสินค้าของโรงงานนั่นเอง
- ปลายน้ำ คือ การตรวจสอบอาหารและสินค้าต่าง ๆ ก่อนส่งไปถึง มือผู้บริโภค หรือเพื่อการส่งออก
พอจะเห็นภาพแล้วว่า “AMARC” มีบริการแบบ One-Stop Service
ที่หากลูกค้า 1 แบรนด์เข้ามาใช้บริการ ก็สามารถใช้บริการได้ครบจบในทีเดียว
จนทำให้ปัจจุบันมีลูกค้ากว่า 6,000 ราย และมีลูกค้ารายใหญ่ระดับประเทศ ทั้งในกลุ่มบริษัทอาหาร, ค้าปลีก และอื่น ๆ
ที่หากลูกค้า 1 แบรนด์เข้ามาใช้บริการ ก็สามารถใช้บริการได้ครบจบในทีเดียว
จนทำให้ปัจจุบันมีลูกค้ากว่า 6,000 ราย และมีลูกค้ารายใหญ่ระดับประเทศ ทั้งในกลุ่มบริษัทอาหาร, ค้าปลีก และอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม หากมองในเชิงลึก ธุรกิจนี้ไม่ว่าจะเป็นบริษัทต่างชาติ หรือบริษัทของภาครัฐ
ก็มีบริการครอบคลุม และมีคุณภาพในการตรวจสอบที่แทบจะไม่แตกต่างกันมากนัก
คำถามคือ “AMARC” จะสร้างความ “ต่าง” ที่ชนะใจลูกค้าได้อย่างไร ?
ก็มีบริการครอบคลุม และมีคุณภาพในการตรวจสอบที่แทบจะไม่แตกต่างกันมากนัก
คำถามคือ “AMARC” จะสร้างความ “ต่าง” ที่ชนะใจลูกค้าได้อย่างไร ?
“ช่วงเริ่มต้นธุรกิจ ลูกค้ายังไม่เชื่อมั่นและมักใช้บริการจากบริษัทต่างชาติ แต่พอลูกค้าลองมาใช้บริการ
พบว่า การให้บริการของเราไม่แพ้ต่างชาติ แต่สิ่งที่ทำให้เราเหนือกว่า คือเราเป็นบริษัทเอกชนที่มีความคล่องตัว และมีการทำงานที่ตอบสนองและให้ความช่วยเหลือ คำแนะนำได้อย่างใกล้ชิดกว่า บริษัทต่างชาติ และบริษัทของรัฐ”
พบว่า การให้บริการของเราไม่แพ้ต่างชาติ แต่สิ่งที่ทำให้เราเหนือกว่า คือเราเป็นบริษัทเอกชนที่มีความคล่องตัว และมีการทำงานที่ตอบสนองและให้ความช่วยเหลือ คำแนะนำได้อย่างใกล้ชิดกว่า บริษัทต่างชาติ และบริษัทของรัฐ”
เหตุผลเหล่านี้เองที่ทำให้ตลอดระยะเวลา 18 ปี บริษัทมีรายได้เติบโตต่อเนื่อง 10-20% ในทุก ๆ ปี
ปี 2562 บริษัทมีรายได้ 198 ล้านบาท
ปี 2563 บริษัทมีรายได้ 220 ล้านบาท
ปี 2564 บริษัทมีรายได้ 248 ล้านบาท
ปี 2563 บริษัทมีรายได้ 220 ล้านบาท
ปี 2564 บริษัทมีรายได้ 248 ล้านบาท
ส่วนปีนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้ 300 ล้านบาท เติบโต 21% ซึ่งมาจากสถานการณ์โควิด 19 ที่คลี่คลายลง
อย่างไรก็ตาม ดร.ชินดนัย เชื่อว่าบริษัทยังสามารถเติบโตได้อีก ทั้งในแง่จำนวนลูกค้า และการสร้างธุรกิจใหม่ ๆ ที่เป็น “เมกะเทรนด์” ของโลก
ทำให้การ IPO ครั้งนี้ นอกจากจะนำเงินส่วนหนึ่งไปชำระหนี้สถาบันการเงิน
และใช้เป็นสภาพคล่องในบริษัทแล้วนั้น ยังทำให้ “AMARC” ได้ประโยชน์เพิ่มอีก 3 ทาง
และใช้เป็นสภาพคล่องในบริษัทแล้วนั้น ยังทำให้ “AMARC” ได้ประโยชน์เพิ่มอีก 3 ทาง
ผลประโยชน์แรก คือ บริษัทจะเป็นที่รู้จัก และมีภาพลักษณ์ Branding ที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม
ซึ่งจะทำให้มีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจ บริการตรวจวิเคราะห์อาหารผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ที่คิดเป็น 80% จากรายได้ทั้งหมดของบริษัท
ซึ่งจะทำให้มีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจ บริการตรวจวิเคราะห์อาหารผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ที่คิดเป็น 80% จากรายได้ทั้งหมดของบริษัท
ผลประโยชน์ที่สองของการ IPO ครั้งนี้ นอกจากจะทำให้บริษัทมีเงินทุนขยายเครื่องมือวิทยาศาสตร์ในห้องปฏิบัติการและศูนย์โลจิสติกส์ไปยังจังหวัดต่าง ๆ เพื่อรองรับลูกค้า ที่ต้องการส่งตัวอย่างสินค้า มายังศูนย์ปฏิบัติการแล้วนั้น
“AMARC” กำลังมีธุรกิจใหม่ที่เป็น “เมกะเทรนด์” คือ ตรวจสอบการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
หรือ CO2 ที่เวลานี้ทุกบริษัททั่วโลก กำลังมุ่งสู่ถนนสายเดียวกันคือ การเป็นองค์กร Net Zero
หรือ CO2 ที่เวลานี้ทุกบริษัททั่วโลก กำลังมุ่งสู่ถนนสายเดียวกันคือ การเป็นองค์กร Net Zero
โดยธุรกิจใหม่นี้ จะเป็นการตรวจสอบการปล่อยก๊าซ CO2 ในหลายรูปแบบ
เช่น ในโรงงานและกระบวนการผลิตสินค้าต่าง ๆ, แพ็คเกจจิ้งของสินค้า เป็นต้น
เพื่อให้บริษัทสามารถนำผลการทดสอบที่ได้ ไปใช้ในเชิงธุรกิจและการทำตลาด
เช่น ในโรงงานและกระบวนการผลิตสินค้าต่าง ๆ, แพ็คเกจจิ้งของสินค้า เป็นต้น
เพื่อให้บริษัทสามารถนำผลการทดสอบที่ได้ ไปใช้ในเชิงธุรกิจและการทำตลาด
ผลประโยชน์ที่สาม เมื่อมีจำนวนลูกค้ามาใช้บริการมากขึ้นและขยายไปยังธุรกิจใหม่ ๆ
บริษัทก็ต้องเปิดรับสมัครนักวิทยาศาสตร์ที่เก่ง ๆ เข้ามาร่วมงาน เพื่อสร้างการเติบโตไปพร้อม ๆ กัน
บริษัทก็ต้องเปิดรับสมัครนักวิทยาศาสตร์ที่เก่ง ๆ เข้ามาร่วมงาน เพื่อสร้างการเติบโตไปพร้อม ๆ กัน
ทีนี้ ถ้าถามว่าอะไรที่ทำให้บริษัทเล็ก ๆ อย่าง “AMARC” เติบโตในธุรกิจนี้
จนสามารถ IPO ได้ ดร.ชินดนัย ทิ้งท้ายเรื่องนี้ไว้อย่างน่าสนใจ..
จนสามารถ IPO ได้ ดร.ชินดนัย ทิ้งท้ายเรื่องนี้ไว้อย่างน่าสนใจ..
“ในอดีตเรามีเงินทุนน้อยกว่าบริษัทต่างชาติในธุรกิจนี้
แต่ทุกครั้งที่เราตั้งเป้าหมายในธุรกิจ คือ เราต้องมีบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้า และบริการที่เหนือกว่าคู่แข่ง
ถ้าผู้บริหารและพนักงานทุกคนไม่คิดแบบนี้ เราก็คงไม่ประสบความสำเร็จ เหมือนอย่างวันนี้”
แต่ทุกครั้งที่เราตั้งเป้าหมายในธุรกิจ คือ เราต้องมีบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้า และบริการที่เหนือกว่าคู่แข่ง
ถ้าผู้บริหารและพนักงานทุกคนไม่คิดแบบนี้ เราก็คงไม่ประสบความสำเร็จ เหมือนอย่างวันนี้”
ต้องบอกว่าเป็นวิธีคิดที่มาถูกทาง เมื่อวันนี้ “AMARC” มีฐานลูกค้าประจำที่ใช้บริการ
ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงไปใช้บริการของบริษัทคู่แข่ง คิดเป็นส่วนใหญ่ของจำนวนลูกค้าทั้งหมด
ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงไปใช้บริการของบริษัทคู่แข่ง คิดเป็นส่วนใหญ่ของจำนวนลูกค้าทั้งหมด