ทำไม Spotify ยังเติบโต แม้ Apple กับ YouTube อยากฆ่าให้ตาย

ทำไม Spotify ยังเติบโต แม้ Apple กับ YouTube อยากฆ่าให้ตาย

11 ก.พ. 2023
ทำไม Spotify ยังเติบโต แม้ Apple กับ YouTube อยากฆ่าให้ตาย /โดย ลงทุนแมน
ในโลกของการทำธุรกิจแล้ว เป็นธรรมดาที่ ธุรกิจน้องใหม่ที่กำลังเป็นดาวรุ่ง มักจะโดนกินรวบจากรายใหญ่
ไม่ว่าจะเป็นการซื้อกิจการ หรือเป็นการทำสินค้าที่เหมือนกัน เข้ามาแข่งขันโดยตรง
แต่รู้หรือไม่ว่า ?
มีอยู่ธุรกิจหนึ่ง ที่สามารถแข่งขันกับเหล่ายักษ์ใหญ่ได้
ธุรกิจนั้นคือ “Spotify”
ซึ่งในวันนี้ ทั้งรายได้ และจำนวนผู้ใช้งาน ยังสามารถเติบโตได้ แม้ยักษ์ใหญ่อย่าง Apple และ YouTube จะเข้ามาแข่งขันก็ตาม
ทำไม Spotify ยังเติบโตได้
แม้ต้องเจอกับคู่แข่งตัวใหญ่กว่า
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจ โมเดลธุรกิจของแพลตฟอร์มสตรีมมิงประเภทเสียงกันก่อนว่า มีการหารายได้อย่างไร และมีต้นทุนอะไรบ้าง
โดยทั่วไปแล้ว ธุรกิจสตรีมมิงเสียง จะสามารถหารายได้จาก 2 ทางหลัก ๆ นั่นคือ
- รายได้จากค่าโฆษณา
- รายได้จากค่าสมัครสมาชิกรายเดือน
ซึ่งหากคนที่มาฟัง ไม่อยากฟังโฆษณาที่น่ารำคาญ
ก็สามารถเลือกที่จะสมัครสมาชิกรายเดือน เพื่อเลี่ยงโฆษณา และฟังสิ่งที่ต้องการได้มากขึ้น
ทีนี้ ลองมาทำความเข้าใจในฝั่งของต้นทุนกันบ้าง
โจทย์ของผู้ให้บริการในธุรกิจนี้
คือ การหาคอนเทนต์ต่าง ๆ เข้ามาลงในแพลตฟอร์ม เพื่อดึงดูดให้คนมาใช้งานมากขึ้น
ซึ่งในกรณีของ Spotify คอนเทนต์ก็จะเป็นประเภท
เพลง, พอดแคสต์, หนังสือเสียง
สิ่งนี้เองที่เป็นต้นทุนหลักของแพลตฟอร์ม
ยกตัวอย่าง การนำเพลงเข้ามาในแพลตฟอร์ม
ของ 3 แพลตฟอร์มที่เราคุ้นเคยกันดีนี้ จะพบว่า
- Spotify จะจ่ายให้เจ้าของเพลงเฉลี่ย 0.003-0.005 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อหนึ่งการเล่นเพลง
- Apple Music จะจ่ายให้เจ้าของเพลงเฉลี่ย 0.01 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อหนึ่งการเล่นเพลง
- YouTube Music จะจ่ายให้เจ้าของเพลงเฉลี่ย 0.008 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อหนึ่งการเล่นเพลง
เราจะเรียกต้นทุนตรงนี้ ว่าเป็นต้นทุนแปรผัน
พูดง่าย ๆ คือ เป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง ตามรายได้
นั่นหมายความว่า ยิ่งคนฟังเพลงมากเท่าไร แพลตฟอร์มก็ต้องจ่ายให้ค่ายเพลง หรือเจ้าของเพลงมากขึ้นตามไปด้วย
คำถามต่อมาคือ แล้วตอนนี้ ใครคือผู้นำตลาด ?
คำตอบคือ Spotify
ซึ่งปัจจุบันมียอดผู้ใช้งานทั่วโลกมากถึง 489 ล้านคน
ทิ้งห่างคู่แข่งอย่าง Apple Music ที่มีผู้ใช้งาน 88 ล้านคน และ YouTube Music ที่มีผู้ใช้งานอยู่ที่ 80 ล้านคน
แล้วทำไม Spotify จึงสามารถเป็นเจ้าตลาดได้ ?
เรื่องแรกเลยคือ
“การเข้าสู่ตลาดเป็นรายแรก ๆ”
Spotify เริ่มต้นธุรกิจในปี 2006 นำหน้า Apple Music และ YouTube Music ที่เปิดตัวในปี 2015 ทำให้มีความได้เปรียบตั้งแต่เริ่มต้นอยู่ไม่น้อย
แต่การเป็นรายแรก ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถครองตลาดได้เสมอไป
เพราะเรื่องต่อมาที่ Spotify มี
นั่นคือ “ความหลากหลายของคอนเทนต์”
ในช่วงแรก Spotify อาจจะเน้นตลาดเพลงก็จริง
และในปัจจุบันมีเพลงมากกว่า 100 ล้านเพลง ในแพลตฟอร์มให้คนได้เลือกฟังกัน
แต่เพลงอาจจะดึงดูดได้แค่ลูกค้าเพียงกลุ่มเดียว Spotify จึงหันมาดึงผู้ใช้งานรายใหม่ ผ่านตลาดพอดแคสต์ ด้วยการซื้อธุรกิจห้องอัด หรือรายการต่าง ๆ เข้ามา
นอกจากเพลงกับพอดแคสต์แล้ว
Spotify ยังขยายธุรกิจไปยังหนังสือเสียง หรือ Audiobook อีกด้วย
จากเรื่องนี้ทำให้ Spotify สามารถดึงดูดผู้ใช้งาน จนกลายเป็นแพลตฟอร์มที่รวมผู้ใช้งานหลายกลุ่ม ให้เข้ามาอยู่ด้วยกันในที่เดียว
เรื่องต่อมาคือ
“การสร้างประสบการณ์ส่วนบุคคล”
อย่างที่รู้กันว่า Spotify มีการเก็บข้อมูลของผู้ใช้งาน เช่น ประวัติการฟังเพลงของแต่ละคน
อย่างไรก็ตาม ทางฝั่งคู่แข่งอย่าง Apple และ YouTube ก็มีการเก็บข้อมูลเช่นเดียวกัน
แต่สิ่งที่ Spotify ทำได้ดีกว่าคู่แข่งคือ
การนำข้อมูลที่มี มาสร้างประสบการณ์ ที่ตรงใจผู้ใช้งานได้ดีกว่า
ยกตัวอย่างเช่น
- การนำเสนอเพลง หรือรายการพอดแคสต์ ได้ตรงกับที่ผู้ใช้งานต้องการ

- แคมเปญ Spotify Wrapped ที่ทำให้เรารู้ว่าในปีที่ผ่านมา เราฟังเพลงอะไร ฟังแนวไหนไปแล้วบ้าง
ซึ่งแคมเปญนี้ ก็ได้โดนใจหลายคน จนต้องแชร์กันในโซเชียลมีเดีย ในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา
ล่าสุด มีคนเล่นแคมเปญนี้ในปีที่ผ่านมา มากถึง 156 ล้านคน คิดเป็น 32% ของจำนวนผู้ใช้งานต่อเดือน ทั้งหมดเลยทีเดียว
เรื่องสุดท้ายคือ “อุตสาหกรรมเพลงพึ่งพาแพลตฟอร์มมากขึ้น”
ตัวอย่างเช่น Universal Music Group ที่ศิลปินในค่ายอย่าง Justin Bieber, Ariana Grande มีรายได้เกินกว่าครึ่งหนึ่ง มาจากแพลตฟอร์มสตรีมมิง
เราจะเห็นได้ว่าแพลตฟอร์มสตรีมมิง กำลังเข้ามามีบทบาทกับฝั่งของศิลปิน และค่ายเพลงมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ได้มีเพียง Spotify เพียงรายเดียว ที่ได้รับประโยชน์จากจุดนี้ คู่แข่งรายอื่น ก็ได้รับผลประโยชน์ด้วยเช่นกัน
แล้วผลประกอบการที่ผ่านมาของ Spotify เป็นอย่างไร ?
- ปี 2020 รายได้ 284,342 ล้านบาท
ขาดทุน 20,964 ล้านบาท
- ปี 2021 รายได้ 348,860 ล้านบาท
ขาดทุน 1,226 ล้านบาท
- ปี 2022 รายได้ 423,157 ล้านบาท
ขาดทุน 15,516 ล้านบาท
แม้รายได้ของ Spotify จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงขาดทุนอยู่ไม่น้อยเช่นกัน
โดยสาเหตุหลัก นอกจากต้นทุนที่ค่อนข้างสูงแล้ว
Spotify ยังมีค่าใช้จ่ายในด้านการตลาด
รวมถึงมีการลงทุนด้านการวิจัย เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง
เพราะคู่แข่งอย่าง Apple เอง มีอุปกรณ์อยู่ในมือ ไม่ว่าจะเป็น AirPods, iPhone
ซึ่งทำให้การเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มของ Apple เอง สามารถทำได้แบบไร้รอยต่อ
ในขณะที่ตัว Spotify เอง แทบไม่มีอุปกรณ์อะไรเลย
จึงเป็นเหตุผลสำคัญว่า ทำไมต้องลงทุนพัฒนาแพลตฟอร์ม เพื่อดึงดูดผู้ใช้งานให้ได้อย่างต่อเนื่อง
แต่เรื่องนี้ก็ได้พิสูจน์แล้วว่า ทำให้ Spotify กลายเป็นคนตัวเล็กที่สามารถท้าตีท้าต่อย กับยักษ์ใหญ่ได้อย่างไม่น้อยหน้า เลยทีเดียว..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.hypebot.com/hypebot/2021/09/why-YouTube-musics-most-recent-figures-are-actually-good-news-for-artists.html
-https://view.publitas.com/cfreport/umg-annual-report-2021/page/13
-https://www.jype.com/en/Board/Detail?gubun=irdata&jbst_sq=762&PgIndex=1
-https://www.headphonesty.com/2021/04/apple-music-vs-spotify/#:~:text=Audio%20streaming%20quality&text=Because%20of%20its%20recent%20update,of%20up%20to%20320kbps%20bitrate.
-https://www.apple.com/th/apple-music/
-https://s29.q4cdn.com/175625835/files/doc_financials/2022/q4/Shareholder-Deck-Q4-2022-FINAL.pdf
-https://s2.q4cdn.com/470004039/files/doc_financials/2022/q4/_10-K-2022-(As-Filed).pdf
-https://www.businessofapps.com/data/apple-music-statistics/
-https://www.businessofapps.com/data/apple-music-statistics/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Spotify
-https://www.bankmycell.com/blog/number-of-apple-music-users
-https://www.statista.com/statistics/653926/music-streaming-service-subscriber-share/
-https://www.theverge.com/2023/1/31/23577499/spotify-q4-2022-earnings-release-subscriber-growth-layoffs
-https://en.wikipedia.org/wiki/Apple_Podcasts
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.