เหตุผลที่ แอปฯ Makro PRO ช่วยเสริมแกร่งให้ Makro เติบโต และขยายธุรกิจผ่านทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์
Makro X ลงทุนแมน

“Makro ดิสรัปต์ตัวเองอยู่ตลอดเวลา เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไป
มันคือหนึ่งใน Key Factor ที่ทำให้เราเติบโตต่อเนื่องในทุก ๆ ปี”

เป็นคำพูดของคุณธนิศร์ เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจค้าส่งแม็คโคร ประเทศไทย
ที่สะท้อนว่า การที่ Makro เป็นเบอร์หนึ่งในธุรกิจค้าส่งแบบ B2B มายาวนาน
คู่แข่งสำคัญที่สุดก็คือ “ตัวเอง”

ทีนี้ เมื่อใช้ “ลูกค้าเป็นเข็มทิศ” ว่าจะ Move on ธุรกิจไปทางไหน..
ก็เลยเป็นที่มาของความเคลื่อนไหวล่าสุดในการเปิดตัว Makro PRO แอปพลิเคชัน ที่เชื่อมต่อการซื้อ - ขายออนไลน์แบบไร้รอยต่อ ตอบโจทย์ลูกค้าทั้งกลุ่มเจ้าของธุรกิจและลูกค้าทั่วไป

ความน่าสนใจมันอยู่ที่เป้าหมายของ Makro ต่างหาก
เมื่อต้องการให้แอปฯ Makro PRO มียอดดาวน์โหลด 1 ล้านคนในปีนี้
ที่จะมาช่วยผลักดันรายได้อีคอมเมิร์ซให้เติบโตกว่า 88% หากเทียบจากปีก่อน
พร้อมกับวางแผนเปิดสาขาอีกราว 10-12 สาขา

คำถามคือ ทำไม Makro ถึงเชื่อว่า ช่องทางออนไลน์ กับช่องทางสาขา สามารถเติบโตไปพร้อมกัน
ในยุคที่หลายคนมองว่า “การขยายสาขา อาจไม่ใช่คำตอบในยุคนี้”
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง

รู้หรือไม่ ภาพรวมของตลาดค้าปลีกและค่าส่งเมืองไทย ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ มีสัดส่วนแค่ 2.7% จากมูลค่าตลาดทั้งหมด ขณะที่ในประเทศจีนอยู่ที่ 40% เกาหลีใต้ 30%

โดย Makro เองก็มีช่องทางขายออนไลน์ตั้งแต่ปี 2019 ผ่านทางเว็บไซต์และช่องทางอื่น ๆ
แม้จะได้ผลตอบรับเกินคาดด้วยรายได้ที่โตเป็นตัวเลข 2 หลักในทุก ๆ ปี

แต่ในมุมของคุณธนิศร์ กลับมองว่า ความสำเร็จตรงนี้ยังไม่เพียงพอ
ที่จะทำให้ Makro เป็นเบอร์หนึ่งในธุรกิจค้าส่ง Omni Channel เมืองไทยอย่างยั่งยืน

นั่นเลยเป็นที่มาในการคิดค้นแอปฯ Makro PRO ผ่านคอนเซปต์ “สั่ง ขาย คุ้ม”

- สั่ง : มีสินค้ากว่า 50,000 รายการให้เลือกช็อป และเลือกเวลาจัดส่งได้ 3 เวลา ตั้งแต่เช้า บ่าย เย็น

- ขาย : ร้านค้าต่าง ๆ สามารถเปิดร้านขายของออนไลน์ผ่าน Makro PRO เพื่อขยายฐานลูกค้า

- คุ้ม : เมื่อสั่งซื้อสินค้าครบทุก ๆ 1,000 บาท จะได้รับ 1 Makro PRO Point ใช้แทนส่วนลด 1 บาท

จะเห็นว่า ฟีเชอร์ในการใช้งานต่าง ๆ คิดมาเพื่อตอบโจทย์เจ้าของธุรกิจอย่างแท้จริง
เพราะ Makro ต้องการกระตุ้นให้มียอดจำนวนดาวน์โหลด 1 ล้านรายภายในปีนี้
จากฐานลูกค้าที่เป็นสมาชิกทั้งหมด 4.5 ล้านราย

และเพื่อสร้างสีสันพร้อมสร้างการรับรู้แอปฯ Makro PRO ให้ทรงพลัง

ทางทีมผู้บริหารจึงตัดสินใจเลือก “คุณญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์” มาเป็นพรีเซนเตอร์
เพราะมองว่า ด้วยการที่เธอเป็นซูเปอร์สตาร์หญิงแถวหน้ามีแครักเตอร์สดใส เข้าถึงง่าย
จะทำให้แอปฯ Makro PRO มีภาพการเป็น แอปฯ ที่ใช้งานง่ายและเข้าถึงได้ทุกคน

และหากเป้าหมายนี้ทำสำเร็จ จะช่วยให้ Makro มียอดขายอีคอมเมิร์ซเติบโต 88% จากปีก่อน
ซึ่งจะส่งผลให้ภาพรวมรายได้ในปีนี้ของ Makro เติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก

เมื่อช่องทาง อีคอมเมิร์ซสร้างรายได้โตระเบิดขนาดนี้
หลายคนอาจคิดว่า Makro น่าจะลดจำนวนการขยายสาขาน้อยลงกว่าเดิม
แต่.. ความจริงแล้ว เรื่องกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น

เมื่อคุณธนิศร์ บอกว่า หาก Makro ต้องการเป็นเบอร์หนึ่งในธุรกิจค้าส่ง Omni Channel ที่สมบูรณ์แบบ จำนวนสาขาและช่องทางออนไลน์ต้องเติบโตไปพร้อม ๆ กัน

จากนั้นคุณธนิศร์ ก็อธิบายโมเดลธุรกิจ Omni Channel ให้เห็นภาพ
พร้อมเริ่มต้นประเด็นอย่างน่าสนใจ เมื่อเปิดเผยว่า ยอดขายสาขาในแต่ละปียังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
แม้ที่ผ่านมาทาง Makro เองจะรุกช่องทางออนไลน์อย่างหนักหน่วงก็ตาม

นั่นแปลว่า ช่องทางออนไลน์ ไม่ได้มาแย่งชิงยอดขายสาขา
แต่เป็นการเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าต่างหาก

ขณะเดียวกัน สาขา ยังเป็นเสมือนระบบหลังบ้าน ที่ช่วยให้ยอดขายออนไลน์โตระเบิด

หลายคนอาจไม่รู้ว่า ทุกสาขาของ Makro มีเทคโนโลยีเชื่อมต่อกับแอปฯ Makro PRO
และช่องทางออนไลน์อื่น ๆ

ขณะเดียวกัน สาขา ก็เป็นคลังสินค้าที่ไว้กระจายสินค้าเมื่อมีออร์เดอร์ทางออนไลน์เข้ามา
ทำให้การส่งสินค้าเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว

คงมองภาพออกแล้วว่า การที่ Makro มีถึง 152 สาขาใน 66 จังหวัด และยังมีแผนที่จะขยายสาขาต่อเนื่องอีก 10-12 สาขาต่อปี

ก็เพื่อทำให้แอปฯ Makro PRO และช่องทางออนไลน์อื่น ๆ มีระบบการทำงานที่ไร้รอยต่อและทรงพลัง
ในการบริการลูกค้าได้ครอบคลุมทั่วประเทศ
เป็นแต้มต่อที่คู่แข่งในธุรกิจค้าส่งไม่มี และยากที่ใครจะไล่ตามทัน

และเมื่อถามต่อว่า อะไรที่ทำให้ Makro เป็นเบอร์หนึ่งในธุรกิจนี้มายาวนานชนิดที่ทิ้งห่างคู่แข่งไปอย่างขาดลอย

คำตอบที่ได้จากคุณธนิศร์ ก็เหมือนกับช่วงที่เกริ่นไว้ในตอนต้น
คือ Makro ดิสรัปต์ตัวเองตลอดเวลา

แต่.. สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาก็คือ ทุก ๆ ครั้งที่ Makro ดิสรัปต์ตัวเอง
ก็จะพบเห็นโอกาสทางธุรกิจมากมาย ที่สร้างรายได้ให้กับบริษัท และสร้างประโยชน์ให้แก่ลูกค้า
ทั้งกลุ่ม ผู้ประกอบการ และลูกค้าทั่วไป

เหมือนอย่างล่าสุดที่คิดค้นแอปฯ Makro PRO ที่เป็นเสมือนการเปิดประตูแห่งโอกาสบานใหม่
ที่ทำให้ Makro สามารถขายสินค้าได้กว่า 50,000 รายการ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

Reference
- งานแถลงข่าวเปิดตัวแอปพลิเคชัน Makro Pro