ถอดแนวคิดการเป็นต้นแบบ Green & Sustainable Retail เจ้าแรกของเอเชีย ที่ทุกธุรกิจควรทำตาม
CRC X ลงทุนแมน

ปี 2022 ที่ผ่านมา เซ็นทรัล รีเทล หรือ CRC มีรายได้ 236,245 ล้านบาท เติบโตถึง 21%
ส่วนกำไรสุทธิ 7,605 ล้านบาท เติบโตถึง 2,648% เมื่อเทียบกับปีก่อน

สิ่งที่ทำให้ CRC มีผลประกอบการด้วยตัวเลขที่สวยงาม มาจากการที่ 5 ธุรกิจหลัก
คือ อาหาร, แฟชั่น, กลุ่มฮาร์ดไลน์, พร็อพเพอร์ตี้ และเฮลท์แอนด์เวลเนส

ซึ่งขับเคลื่อนด้วยแนวคิด Omni Channel ที่นำจุดเด่นของหน้าร้านและออนไลน์ เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน
เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้แก่ลูกค้า

ความสำเร็จนี้ ดูผิวเผินอาจจะเป็นอะไรที่น่าพอใจแล้วสำหรับ CRC แต่นั่นไม่ใช่เป้าหมายเดียวที่ต้องการ เมื่อ CRC มองว่าการเติบโตของบริษัทจากนี้ไปและในอนาคต จะต้องไม่ใช่แค่การเติบโตเพียงลำพัง แต่ต้องเติบโตไปพร้อม ๆ กับผู้คน สังคม และสิ่งแวดล้อม

ทำให้ CRC ประกาศว่า ต่อไปนี้ตัวเอง ไม่ใช่แค่ธุรกิจค้าปลีกธรรมดา ๆ
แต่จะเป็น Green & Sustainable Retail ที่ช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจตัวเอง ผ่านกลยุทธ์ที่ชื่อว่า CRC “ReNEW”

กลยุทธ์นี้ จะสร้างการเปลี่ยนแปลง ด้วยวิธีไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมกำลังเอฟเฟกต์โดยตรงต่อชีวิตของเราทุกคน

เราเผชิญกับโลกที่ร้อนขึ้นทุกวัน อากาศที่ไม่บริสุทธิ์ เต็มไปด้วยสารพัดฝุ่นละออง
ขณะที่ระยะห่างทางชนชั้นของผู้คนในสังคม ก็เกิดความเหลื่อมล้ำขึ้นเรื่อย ๆ

และการจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้สารพัดปัญหาเหล่านี้ดีขึ้นได้
CRC ก็เลยคิดค้นกลยุทธ์ที่ชื่อว่า “ReNEW” ขึ้นมา ที่จะแทน 4 ภารกิจหลักที่ CRC ต้องการทำให้สำเร็จ

1. Reduce Greenhouse Gases ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ปัจจุบันศูนย์การค้าของ CRC ติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ 83 สาขา
และมีสถานีประจุไฟฟ้า 58 สาขา รองรับรถยนต์ไฟฟ้าได้ 790 คัน
และมีการติดตั้งตู้เย็นประหยัดพลังงานกว่า 217 ตู้

ไม่ใช่แค่นั้น แต่ CRC วางแผนชัดเจนและจริงจัง ที่จะนำพลังงานสะอาดมาใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ

เพื่อไปถึงเป้าหมายที่วางไว้คือ ปี 2023 บริษัทจะสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ด้วยการใช้พลังงานหมุนเวียน และพลังงานสะอาด มาแทนที่ 50%

2. Navigate Society Well-Being เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมน่าอยู่

การจะเป็น Green & Sustainable Retail ทุกกระบวนการทางธุรกิจ ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ
จะต้องคิดถึงสิ่งแวดล้อม เรื่องนี้ CRC ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ๆ

แต่ก็ยังมีเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ ภายใต้คำว่า Green ก็ต้องลดขั้นตอนต่าง ๆ
ทำให้ CRC ร่วมมือกับคู่ค้าต่าง ๆ เพื่อทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นจริง และ Impact ไปยังผู้บริโภค

ขณะเดียวกัน ก็มีนโยบายจ้างงานคนพิการกว่า 412 คน
และช่วยสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่มาจากชุมชนกว่า 100,000 ครัวเรือน ที่สร้างรายได้กว่า 1,500 ล้านบาทต่อปี

โดยคาดว่า ปี 2030 กลุ่มผลิตภัณฑ์ชุมชนจะมีรายได้ 5,400 ล้านบาทต่อปี

ทำให้ชาวบ้านชุมชนต่าง ๆ มีรายได้ต่อเนื่อง ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคมได้ดี และสร้างความยั่งยืนในความเป็นอยู่ของผู้คน

3. Eco-friendly Product and Packaging สินค้ารักษ์โลก

หนึ่งในเมกะเทรนด์โลกที่กำลังมาแรงคือ สินค้าสีเขียว

CRC กำลังจริงจังกับเรื่องนี้ เมื่อศูนย์การค้าและธุรกิจค้าปลีกต่าง ๆ กำลังเพิ่มกรีนโปรดักต์มากมาย
เช่น สินค้าออร์แกนิก สินค้าวีแกน และอื่น ๆ พร้อมตั้งเป้าให้ได้ 100%

ขณะเดียวกัน แพ็กเกจจิงของสินค้าต่าง ๆ ก็จะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
จนถึงขยายร้านค้าสีเขียวขายสินค้ารักษ์โลก 60 สาขา ผ่านร้านค้าปลีก เช่น ร้าน Healthiful, Tops Green เป็นต้น

4. Waste Management บริหารจัดการขยะมูลฝอย

CRC นำขยะกลับมาใช้ประโยชน์ได้ 15% จากจำนวนขยะทั้งหมด

ด้วยการแปลงเป็นปุ๋ยหรือแก๊สหุงต้ม จนถึงรีไซเคิลขวดพลาสติกเป็นผ้าห่มกันหนาวให้กับผู้ที่ขาดแคลน พร้อมตั้งเป้าหมายอนาคต จะมีการนำขยะมาใช้ประโยชน์เพิ่มขึ้นเป็น 30%

และถ้าถามว่า ทำไม CRC ถึงต้องจริงจังกับเรื่องนี้ จนกลายเป็นแนวทางการทำธุรกิจ..
ต้องยอมรับว่า ปัจจุบันทุก ๆ อย่างบนโลกใบนี้ไม่ได้สวยงามเหมือนในอดีต
ปัญหาต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้งคน สังคม สิ่งแวดล้อม และหากปล่อยไว้นานวัน ก็ยิ่งเลวร้ายขึ้นเรื่อย ๆ

สิ่งที่อาจตามมาในอนาคต คือ ไม่มีธุรกิจไหนจะเติบโตได้เลย หากสิ่งต่าง ๆ รอบข้างไม่มีความสุข และไม่แข็งแรง

CRC เลยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ จนกลายเป็น Sense of Purpose ในการทำธุรกิจ

เพราะมันไม่ใช่แค่ เมกะเทรนด์ หรือแค่ กระแส ที่ต้องทำตาม
แต่.. มันคือสิ่งที่ทุกบริษัทบนโลกต้อง “ทำ” อย่างบริสุทธิ์ใจ หากอยากจะยั่งยืนไปอีกยาวนาน

นับว่า CRC ได้สร้างต้นแบบของการทำธุรกิจขึ้นใหม่ ที่ทุก ๆ บริษัท ควรยึดเป็นแบบอย่างและทำให้เกิดขึ้นได้จริงอย่าง CRC ทำ

Reference
-เอกสารข่าวประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)