
ด่วน กระทรวง DES เตรียมฟ้องศาล ปิด Facebook ในไทย เพราะมีแต่โฆษณาหลอกลวง
ด่วน กระทรวง DES เตรียมฟ้องศาล ปิด Facebook ในไทย เพราะมีแต่โฆษณาหลอกลวง /โดย ลงทุนแมน
เราเคยเห็นหน้าคุณวิกรม ผู้ก่อตั้งอมตะ มาโฆษณาเชิญชวนลงทุนใน Facebook หรือไม่ ?
เราเคยเห็นหน้าคุณวิกรม ผู้ก่อตั้งอมตะ มาโฆษณาเชิญชวนลงทุนใน Facebook หรือไม่ ?
ถ้าเราเคยเห็น สิ่งนี้แหละ ที่เป็นปัญหาที่สังคมไทยเจออยู่ตอนนี้
ประเด็นคือ Facebook ไม่มีเจ้าหน้าที่คนไทยที่คอยมารีวิวโฆษณาเลย ดังนั้นโฆษณาที่ไม่เหมาะสม หลอกลวง จึงเกิดไปทั่วในสังคม Facebook
สิ่งที่ Facebook ได้ประโยชน์ ก็คือการรับเงินโฆษณาจากคนหลอกลวงเหล่านี้
และคนหลอกลวงก็ปลอมตัวเป็นบุคคลสำคัญ องค์กรสำคัญ แม้แต่เพจลงทุนแมนก็โดน
ล่าสุดมีเพจปลอมตัวเป็นลงทุนแมนยิง Ads จำนวน 28 โพสต์ โดยที่ลงทุนแมนรายงาน Facebook ไป ก็ไม่เกิดอะไรขึ้น ผ่านไปเป็นเดือน เพจที่ปลอมตัวนั้นก็ยังคงอยู่
เข้าไปดูแอดมินเพจปลอมนี้
จะเป็นคนที่มาจากประเทศกัมพูชา 3 คน เนปาล 3 คน และเวียดนาม 2 คน
จะเป็นคนที่มาจากประเทศกัมพูชา 3 คน เนปาล 3 คน และเวียดนาม 2 คน
นั่นแปลว่า Facebook กำลังเชื่อมให้คน 8 คนที่อยู่นอกประเทศไทยมาหลอกลวงคนไทยอยู่..
เรื่องทั้งหมดนี้เป็นหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า Facebook ไม่รับผิดชอบเรื่องการโฆษณาที่หลอกลวงคนไทยเลย ซึ่งลงทุนแมนก็สงสัยอยู่ว่า ภาครัฐควรจะต้องมาจัดการอะไรกับ Facebook ได้แล้ว เพราะ Facebook ไม่รับผิดชอบต่อสังคมไทย
และแล้วก็มีวันนี้เกิดขึ้น..
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้แถลงว่าจะฟ้อง Facebook ทั้งทางแพ่ง อาญา รวมถึง พรบ. คอมพิวเตอร์ ในประเด็นที่ Facebook ไม่กลั่นกรองโฆษณาหลอกลวงที่เกิดขึ้นกับสังคมไทย
โดยปัจจุบัน คนไทยที่โดนหลอกลวงไปลงทุน มาจากสปอนเซอร์โพสต์บน Facebook กว่า 70% ของทั้งหมด
ซึ่งก่อนหน้านี้ กระทรวงดิจิทัลฯ มีการไล่ปิดเพจปลอม รวมถึงคุยกับ Facebook นับครั้งไม่ถ้วน แต่เพจหลอกลวงเหล่านี้ กลับยิ่งเพิ่มขึ้น
Facebook มีรายได้จากโพสต์พวกนี้มหาศาล แต่ในขณะเดียวกัน Facebook กลับไม่ส่งคนมาดูแลโฆษณาเหล่านี้เลย ว่าจะเป็นโฆษณาหลอกลวง หรือไม่
ทำไม Facebook ต้องรับผิดชอบ ?
เพราะ Facebook รับเงินโฆษณามาจากคนหลอกลวง มีประทับตราว่า “โพสต์นี้ได้รับการสนับสนุน หรือ Sponsored” ดังนั้น Facebook จะมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบไปด้วยในฐานะเป็นผู้รับเงินโจร เพื่อให้โจรโฆษณา
อย่างลงทุนแมนจะรับโฆษณาจากลูกค้าของลงทุนแมน ก็ต้องกลั่นกรองว่า ลูกค้าเป็นองค์กรที่เหมาะสม และถูกกฎหมายหรือไม่ เนื้อหาเหล่านั้นมีความเหมาะสมหรือไม่
แต่ Facebook ไม่มีเจ้าหน้าที่ที่มากลั่นกรองเลย
ที่ผ่านมากระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเคยขอให้ Facebook ปิดเพจโดยส่งหลักฐานไปให้ แต่ Facebook ก็จะปิดเป็นรายเพจ
สิ่งที่กระทรวงดิจิทัลฯ คาดหวังคือ Facebook ต้องตรวจสอบโฆษณาทุกโพสต์ก่อนที่จะโฆษณา ไม่ใช่ลงโฆษณาไปก่อนแล้วค่อยตามปิดเพจ
ไม่อย่างนั้นมันก็เหมือนแมวที่ไล่จับหนู จับไปหนึ่งตัว ก็โผล่ไปเปิดเพจใหม่ เพราะการเปิดเพจใหม่ เปิดง่ายมากใน Facebook
ซึ่งเพจลงทุนแมนเอง ก็ถูกเพจปลอมนำชื่อไปใช้
ลงทุนแมนรีพอร์ตไปหลายรอบแล้ว เพจปลอมก็ยังสร้างขึ้นมาใหม่ได้เรื่อย ๆ (เดี๋ยวมีรูปตัวอย่างให้ดูในคอมเมนต์)
ลงทุนแมนรีพอร์ตไปหลายรอบแล้ว เพจปลอมก็ยังสร้างขึ้นมาใหม่ได้เรื่อย ๆ (เดี๋ยวมีรูปตัวอย่างให้ดูในคอมเมนต์)
โดยบทความนี้ลงทุนแมนไม่ได้เขียนเพราะถูกกระทรวงดิจิทัลฯ สั่งมาแต่อย่างใด แต่ลงทุนแมนเห็นด้วยที่ภาครัฐจะต้องมาจัดการอะไรสักทีกับประเด็นนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยโพสต์เกี่ยวกับประเด็นนี้ไปหลายครั้งแล้ว
อย่างไรก็ตาม
ถ้ามาดูความเป็นไปได้ โอกาสที่ Facebook จะถูกปิดในไทย แทบจะน้อยมาก เพราะหลายธุรกิจ ยังต้องใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มนี้
ถ้ามาดูความเป็นไปได้ โอกาสที่ Facebook จะถูกปิดในไทย แทบจะน้อยมาก เพราะหลายธุรกิจ ยังต้องใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มนี้
ที่สำคัญ Meta เจ้าของ Facebook ก็คงไม่มีทางยอมให้ปิด เพราะจะสูญเสียรายได้จากคนไทย อย่างน้อยหลักหมื่นล้านบาท
ดังนั้นสิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นก็คือ Facebook ควรจ้าง แอดมินผู้รีวิวโฆษณาที่เป็นคนไทย รู้ภาษาไทย เข้าใจว่าโพสต์ไหนหลอกลวง โพสต์ไหนปลอมแปลงมาหลอกคนอื่น
มีทีมงานที่รับเรื่องร้องเรียน และแก้ไขปัญหาได้ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งก็ไม่ได้เป็นค่าใช้จ่ายที่สูงเลย น่าเป็นแค่เศษเงิน เมื่อเทียบกับรายได้ของบริษัทระดับ 4 ล้านล้านบาท ต่อปี
กลับไปที่เป้าหมายของ Facebook
Facebook บอกว่าอยากเชื่อมตัวเรา กับเพื่อน ครอบครัว และสิ่งที่เราสนใจเข้าด้วยกัน
Facebook บอกว่าอยากเชื่อมตัวเรา กับเพื่อน ครอบครัว และสิ่งที่เราสนใจเข้าด้วยกัน
แต่ตอนนี้ Facebook กำลังเชื่อมคนหลอกลวง เข้าหาคนไทย
หาก Facebook เลือกที่จะเฉย ไม่ทำอะไรเลย ก็คงจะเป็นตรงกันข้ามกับเป้าหมายนั้น..