
กรณีศึกษา KANORI : เป็น First Mover ที่โตทะลุ 500% ในปีเดียว จนกลายเป็นเจ้าตลาด Sushi Hand Roll Bar ในไทย
KANORI x ลงทุนแมน
“ถ้าเป็นเมื่อก่อน ใครเป็น First Mover จะอยู่รอดยากหน่อย
พอเปิดตลาดไปแล้ว คนที่ตามมาทีหลังเบอร์ 2 หรือ 3 เขามีเวลาเรียนรู้ และพัฒนาไปไกลกว่า
พอเปิดตลาดไปแล้ว คนที่ตามมาทีหลังเบอร์ 2 หรือ 3 เขามีเวลาเรียนรู้ และพัฒนาไปไกลกว่า
แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว เทคโนโลยีไวขึ้น เราไม่ต้องรอเป็นคนที่ 2 คนที่ 3 ตามหลัง
ถ้าเรามาคนแรก แล้วเก็บลูกค้าไปได้หมด อย่างไรก็ชนะตลาดได้ในที่สุด
ถ้าเรามาคนแรก แล้วเก็บลูกค้าไปได้หมด อย่างไรก็ชนะตลาดได้ในที่สุด
หน้าที่เราก็แค่ต้องทำ Identity ให้แข็งแรงมากพอ เท่านั้นเอง”
แม้ว่าหนึ่งในธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงไม่แพ้ใครคือ ธุรกิจร้านอาหาร
แต่นักธุรกิจรุ่นใหม่ 3 พี่น้องตระกูลกอบกุลสุวรรณ คือ คุณเบ๊นซ์ ปณิธาน, คุณโบ๊ท ปณิธิ และคุณเพลน ปวิตรา เลือกที่จะก่อตั้ง KANORI Sushi Hand Roll Bar แบรนด์แรกในเมืองไทย
แต่นักธุรกิจรุ่นใหม่ 3 พี่น้องตระกูลกอบกุลสุวรรณ คือ คุณเบ๊นซ์ ปณิธาน, คุณโบ๊ท ปณิธิ และคุณเพลน ปวิตรา เลือกที่จะก่อตั้ง KANORI Sushi Hand Roll Bar แบรนด์แรกในเมืองไทย
การเป็น First Mover ในตลาด Sushi Hand Roll Bar ท้าทายแค่ไหน ?
แล้วทำอย่างไรให้ KANORI ได้เป็น Original and No.1 Sushi Hand Roll Bar ในไทย ?
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง
แล้วทำอย่างไรให้ KANORI ได้เป็น Original and No.1 Sushi Hand Roll Bar ในไทย ?
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง
คอนเซปต์เริ่มต้นร้าน KANORI เกิดขึ้นที่ New York
ย้อนกลับไปในปี 2559 คุณโบ๊ท พี่ชายคนกลางเดินทางไปเยี่ยมเยียน คุณเพลน น้องสาวคนเล็กที่กำลังศึกษาปริญญาโทอยู่ที่นั่น
และมีโอกาสไปทานร้านอาหารลักษณะนี้แล้วรู้สึกประทับใจมาก
ย้อนกลับไปในปี 2559 คุณโบ๊ท พี่ชายคนกลางเดินทางไปเยี่ยมเยียน คุณเพลน น้องสาวคนเล็กที่กำลังศึกษาปริญญาโทอยู่ที่นั่น
และมีโอกาสไปทานร้านอาหารลักษณะนี้แล้วรู้สึกประทับใจมาก
พอกลับมาเมืองไทยกลับพบว่า ร้านลักษณะนี้ยังไม่เคยมีใครทำเลย กลายเป็นเรื่องใหม่มากในบ้านเรา
ทั้งที่จริง ๆ แล้ว ตัวสินค้าอย่าง Sushi Roll ไม่ใช่เรื่องใหม่เลย
ภาพเดิมที่คนไทยคุ้นเคยจะอยู่ในร้านสะดวกซื้อ หาทานง่าย ทานได้สะดวก
หรือถ้าเป็น Sushi คุณภาพสูง คนไทยจะไปทานที่ร้านโอมากาเสะ
ภาพเดิมที่คนไทยคุ้นเคยจะอยู่ในร้านสะดวกซื้อ หาทานง่าย ทานได้สะดวก
หรือถ้าเป็น Sushi คุณภาพสูง คนไทยจะไปทานที่ร้านโอมากาเสะ
จุดนี้เองเลยมองว่า.. ถ้าเราจับมัดรวม “ความเร็ว”, “ทานง่าย” และ “คุณภาพ” ในราคาที่ลูกค้าจับต้องได้
ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งโอกาสทางธุรกิจในวงการร้านอาหารบ้านเรา
จึงตัดสินใจลองพัฒนา KANORI ขึ้นมาด้วยคอนเซปต์ “Fast, Casual และ Quality”
ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งโอกาสทางธุรกิจในวงการร้านอาหารบ้านเรา
จึงตัดสินใจลองพัฒนา KANORI ขึ้นมาด้วยคอนเซปต์ “Fast, Casual และ Quality”
ช่วงเวลานั้น คนไทยเริ่มคุ้นเคยกับการนั่งทานที่บาร์ ไม่ได้รู้สึกเขินอาย
สิ่งที่ท้าทายจึงเหลือแค่เรื่อง Sushi Hand Roll ซึ่งเชื่อว่า เราทำให้คนไทยเข้าใจได้
สิ่งที่ท้าทายจึงเหลือแค่เรื่อง Sushi Hand Roll ซึ่งเชื่อว่า เราทำให้คนไทยเข้าใจได้
เมื่อตัดสินใจก้าวมาเป็น First Mover แล้ว
แล้ว KANORI สร้าง Identity เพื่อเป็น Original and No.1 Sushi Hand Roll Bar ในไทยอย่างไร ?
แล้ว KANORI สร้าง Identity เพื่อเป็น Original and No.1 Sushi Hand Roll Bar ในไทยอย่างไร ?
Sushi Hand Roll คือข้าวซูชิหน้าต่าง ๆ ที่ห่อด้วยสาหร่าย
KANORI จึงสร้าง Identity เพื่อเป็น Original and No.1 Sushi Hand Roll Bar ในไทย ตั้งแต่เนื้อสัมผัสแรกที่คนกัด ประกอบด้วย
KANORI จึงสร้าง Identity เพื่อเป็น Original and No.1 Sushi Hand Roll Bar ในไทย ตั้งแต่เนื้อสัมผัสแรกที่คนกัด ประกอบด้วย
- ความกรอบของสาหร่าย ที่สร้างความประทับใจแรก
- ตามมาด้วย ความกลมกล่อมของรสชาติ และอุณหภูมิของตัวข้าวซูชิ
- แล้วจบด้วย ความสดของวัตถุดิบ ที่ถูกนำมาเป็นไส้ต่าง ๆ
- ตามมาด้วย ความกลมกล่อมของรสชาติ และอุณหภูมิของตัวข้าวซูชิ
- แล้วจบด้วย ความสดของวัตถุดิบ ที่ถูกนำมาเป็นไส้ต่าง ๆ
ทุกเมนูของ KANORI มาจากการรังสรรค์ของ 3 พี่น้องตระกูลกอบกุลสุวรรณคือ คุณเบ๊นซ์, คุณโบ๊ท และคุณเพลน โดยไม่มีการจ้างเชฟมาคิดสูตรใด ๆ ให้
ด้วยช่วงอายุที่ห่างกันราว 11 ปีของ 3 พี่น้องตระกูลกอบกุลสุวรรณ
ทำให้เข้าใจความต้องการของลูกค้าแต่ละเจนที่ต่างกัน ตั้งแต่เจนวัยครอบครัว, เจนวัยทำงาน และนิวเจน
เลยมองว่า สิ่งที่ชอบเหมือนกัน รู้สึกอร่อยเหมือนกัน ก็น่าจะตอบโจทย์ลูกค้าได้
ทำให้เข้าใจความต้องการของลูกค้าแต่ละเจนที่ต่างกัน ตั้งแต่เจนวัยครอบครัว, เจนวัยทำงาน และนิวเจน
เลยมองว่า สิ่งที่ชอบเหมือนกัน รู้สึกอร่อยเหมือนกัน ก็น่าจะตอบโจทย์ลูกค้าได้
ทีนี้ลองมาเจาะลึกถึงมาตรฐาน Original and No.1 Sushi Hand Roll Bar ของ KANORI กันบ้าง..
เริ่มต้นกันที่ “สาหร่าย”
จริง ๆ แล้ว สาหร่ายมีหลายเกรดมาก ถ้าเกรดไม่ดีทานแล้วจะติดเพดาน
โดยสาหร่ายแต่ละทะเลก็จะมีรสชาติต่างกัน ซึ่งถ้าทานโดด ๆ อาจจะไม่รู้ แต่พอทานสาหร่ายพร้อมข้าวซูชิ ความแตกต่างจะชัดเจนมาก
โดยสาหร่ายแต่ละทะเลก็จะมีรสชาติต่างกัน ซึ่งถ้าทานโดด ๆ อาจจะไม่รู้ แต่พอทานสาหร่ายพร้อมข้าวซูชิ ความแตกต่างจะชัดเจนมาก
KANORI เลือกสาหร่ายที่ดีที่สุด ราคาแพงกว่าไม่เป็นไร
เพราะความต่างระหว่าง “อร่อย” กับ “อร่อยมาก” จุดต่างมันนิดเดียว
เราขอเลือกสิ่งที่อร่อยที่สุด โดยไม่ได้มองเรื่องกำไรเป็นหลัก แต่ต้องทำด้วยคุณภาพ ที่ลูกค้าสามารถจ่ายได้
เพราะความต่างระหว่าง “อร่อย” กับ “อร่อยมาก” จุดต่างมันนิดเดียว
เราขอเลือกสิ่งที่อร่อยที่สุด โดยไม่ได้มองเรื่องกำไรเป็นหลัก แต่ต้องทำด้วยคุณภาพ ที่ลูกค้าสามารถจ่ายได้
ซึ่งถ้าตลาดบูมขึ้นมา มีโอกาสที่คู่แข่งจะเลียนแบบเราแน่นอน..
KANORI จึงแก้ปัญหาเรื่องนี้ ด้วยการเป็น Distributor ระดับ Exclusive ประเภทร้าน Sushi Hand Roll Bar เจ้าเดียวที่นำเข้าสาหร่ายนั้น ๆ เข้ามาในประเทศไทย
พูดง่าย ๆ ว่า ความกรอบของสาหร่ายแบบนี้ พบได้ที่ร้าน KANORI เท่านั้น
พูดง่าย ๆ ว่า ความกรอบของสาหร่ายแบบนี้ พบได้ที่ร้าน KANORI เท่านั้น
ส่วนเรื่องของ “ข้าว”
สิ่งสำคัญคือ ความลงตัวที่พอดี ทั้งรสชาติและอุณหภูมิที่ทานพร้อมกับสาหร่าย ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน
หัวใจสำคัญของ Sushi Hand Roll ก็คือ สาหร่ายและข้าว
ถ้าทำได้อร่อย ไม่ว่าจะใส่ไส้อะไร ความอร่อยก็เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ถ้าทำได้อร่อย ไม่ว่าจะใส่ไส้อะไร ความอร่อยก็เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ปัจจุบัน KANORI พัฒนาไส้จากหลากหลายวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบจากท้องทะเล หรือถ้าใครไม่ทานของดิบก็มีเนื้อปู, ไข่หวาน, ล็อบสเตอร์ ฯลฯ
นอกจากนี้ยัง Friendly กับสายวีแกนที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ด้วยเต้าหู้, เห็ด, อาโวคาโด ฯลฯ
นอกจากนี้ยัง Friendly กับสายวีแกนที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ด้วยเต้าหู้, เห็ด, อาโวคาโด ฯลฯ
ซึ่งก่อนหน้านี้ เราพัฒนา Sushi Hand Roll กว่า 50 รสชาติ ทั้งเมนูฝั่ง Authentic เน้นความดั้งเดิมที่ชูด้วยเกลือและมะนาว รวมทั้งเมนูฝั่ง Fusion เน้นการผสมผสานต่าง ๆ
ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ช่วยให้ทั้ง 4 สาขาของ KANORI มีเมนูพิเศษที่ต่างกันได้ เช่น
- สาขาสุขุมวิท 49 จะมีเมนูพิเศษ อิคุระ อังกิโมะ
- สาขาเอ็มควอเทียร์ จะมีเมนูพิเศษ กุ้งเล็กทอด
- สาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซี จะมีเมนูพิเศษ สาหร่ายกรอบ
- สาขาไอคอนสยาม จะมีเมนูพิเศษ ปลาไหล ที่มีเนื้อนิ่มฟู หนังกรอบ
- สาขาเอ็มควอเทียร์ จะมีเมนูพิเศษ กุ้งเล็กทอด
- สาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซี จะมีเมนูพิเศษ สาหร่ายกรอบ
- สาขาไอคอนสยาม จะมีเมนูพิเศษ ปลาไหล ที่มีเนื้อนิ่มฟู หนังกรอบ
โดยคุณเบ๊นซ์, คุณโบ๊ท และคุณเพลน เล่าด้วยว่า เมนูภาพจำของ KANORI ก็คือ Lobster Bomb ที่กล้าพูดว่าช่วยกันคิดขึ้นมาเองทั้งหมด และยังไม่เคยมีที่ไหนทำมาก่อน ซึ่งลูกค้าก็ชื่นชอบในรสชาติ และชอบแชร์ช่วงเวลาดี ๆ ในโลกโซเชียลให้เห็นกันอยู่บ่อย ๆ อย่างคุณชมพู่ อารยา ก็เคยพาน้องแอบิเกลมาทาน จนตอนนี้กลายเป็นลูกค้าประจำไปแล้ว
ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงวิธีคิดและการทำงานแบบใหม่ ๆ ของโลกธุรกิจร้านอาหาร ที่ทิ้งสูตรสำเร็จเดิม ๆ พร้อมล้อไปกับความต้องการของผู้บริโภคในโลกปัจจุบัน
ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงวิธีคิดและการทำงานแบบใหม่ ๆ ของโลกธุรกิจร้านอาหาร ที่ทิ้งสูตรสำเร็จเดิม ๆ พร้อมล้อไปกับความต้องการของผู้บริโภคในโลกปัจจุบัน
แล้ว KANORI สร้างการเติบโตต่อไปอย่างไร ?
จุดที่ทำให้ KANORI มั่นใจว่ากำลังมาถูกทาง คือ ผลตอบรับจากผู้คนทุกกลุ่มในไทย
- นับตั้งแต่การสร้างสิ่งใหม่ ๆ ในตลาดร้านอาหารเมืองไทย สะท้อนว่าเราเป็น First Mover จริง ๆ
- การลอกเลียนแบบเมนูของคู่แข่งที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ สะท้อนว่าเราเป็น Original and No.1 Sushi Hand Roll Bar ที่คู่แข่งทั้งรายเล็ก รายใหญ่ กำลังจับตามอง
- การลอกเลียนแบบเมนูของคู่แข่งที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ สะท้อนว่าเราเป็น Original and No.1 Sushi Hand Roll Bar ที่คู่แข่งทั้งรายเล็ก รายใหญ่ กำลังจับตามอง
ที่สำคัญเลยก็คือ การตอบโจทย์ฐานลูกค้าที่หลากหลายตามแต่ทำเลในแต่ละสาขา
โดยคุณเบ๊นซ์, คุณโบ๊ท และคุณเพลน เล่าว่ากลุ่มเป้าหมายของเราจะเป็นกลุ่ม Top บนสุด และกระจายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น
โดยคุณเบ๊นซ์, คุณโบ๊ท และคุณเพลน เล่าว่ากลุ่มเป้าหมายของเราจะเป็นกลุ่ม Top บนสุด และกระจายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น
โดยเลือก Location ที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งต้องอยู่ใน Location ที่ดีที่สุดในทำเลนั้น
หมายความว่า เราแค่เลือกห้างไม่พอ แต่ต้องดูตำแหน่งพื้นที่ของห้างด้วย เพื่อให้ได้ Traffic ที่ดีที่สุด สังเกตได้จากตำแหน่งร้านในปัจจุบันทั้ง 4 สาขา
หมายความว่า เราแค่เลือกห้างไม่พอ แต่ต้องดูตำแหน่งพื้นที่ของห้างด้วย เพื่อให้ได้ Traffic ที่ดีที่สุด สังเกตได้จากตำแหน่งร้านในปัจจุบันทั้ง 4 สาขา
- สาขาสุขุมวิท 49 บรรยากาศธรรมชาติ รองรับลูกค้ากลุ่ม Resident
- สาขาเอ็มควอเทียร์ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนทำงานในเมือง รองรับลูกค้ากลุ่ม Expat กลุ่มผู้ปกครองมีลูกหลานวัยศึกษา
- สาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซี มองเห็น City View รองรับลูกค้ากลุ่ม Luxury ชอบความสงบ ไม่พลุกพล่าน
- สาขาไอคอนสยาม ที่มีทั้งนั่งบาร์ และเป็นสาขาเดียวที่มีห้องส่วนตัวขนาด 5-6 ที่นั่งด้วย รองรับลูกค้าคนไทยฝั่งธนบุรี และชาวต่างชาติ
- สาขาเอ็มควอเทียร์ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนทำงานในเมือง รองรับลูกค้ากลุ่ม Expat กลุ่มผู้ปกครองมีลูกหลานวัยศึกษา
- สาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซี มองเห็น City View รองรับลูกค้ากลุ่ม Luxury ชอบความสงบ ไม่พลุกพล่าน
- สาขาไอคอนสยาม ที่มีทั้งนั่งบาร์ และเป็นสาขาเดียวที่มีห้องส่วนตัวขนาด 5-6 ที่นั่งด้วย รองรับลูกค้าคนไทยฝั่งธนบุรี และชาวต่างชาติ
โดยล่าสุดเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา KANORI ยังขยายฐานลูกค้าดิลิเวอรี
ซึ่งฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ จากดิลิเวอรี ไม่ได้ทับซ้อนกับฐานลูกค้าหน้าร้านเลย
กลายเป็นว่า ภาพรวมยอดขายกำลังเติบโต ทั้งฝั่งหน้าร้าน และฝั่งดิลิเวอรีในเวลาเดียวกัน
ซึ่งฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ จากดิลิเวอรี ไม่ได้ทับซ้อนกับฐานลูกค้าหน้าร้านเลย
กลายเป็นว่า ภาพรวมยอดขายกำลังเติบโต ทั้งฝั่งหน้าร้าน และฝั่งดิลิเวอรีในเวลาเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางการเติบโต KANORI ก็ไม่เคยละทิ้งด้านคุณภาพ..
สังเกตได้จากความกรอบของสาหร่าย ที่พัฒนานานกว่า 8 เดือน
เพื่อให้สาหร่ายทางดิลิเวอรียังคงความกรอบตั้งแต่ฉีกซอง เฉกเช่นเดียวกับเชฟที่เปิดซองสาหร่ายหน้าร้าน
เพื่อให้สาหร่ายทางดิลิเวอรียังคงความกรอบตั้งแต่ฉีกซอง เฉกเช่นเดียวกับเชฟที่เปิดซองสาหร่ายหน้าร้าน
ทุกรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้เองที่ KANORI เชื่อว่า ลูกค้าจะสัมผัสได้ถึงความเป็น Original and No.1 Sushi Hand Roll Bar ของไทย
ก่อนจากกันไป 3 พี่น้องนักธุรกิจของตระกูลกอบกุลสุวรรณ ยังฝากทิ้งท้ายไว้ว่า
“คุณพ่อทำธุรกิจมาตั้งแต่อายุ 14 ปี บอกเราตลอดว่าถ้าจะทำธุรกิจ เราต้องรู้ทุกอย่าง แต่เราไม่ต้องทำทุกอย่าง
สำหรับ KANORI เราเปิดสาขาแรกที่สุขุมวิท 49 ในเดือนสิงหาคม ปี 2566 สร้างรายได้รวม 50 ล้านบาท
แล้วในปี 2567 เราขยายอีก 2 สาขาใหม่คือ เอ็มควอเทียร์ และเซ็นทรัล เอ็มบาสซี เท่ากับเรามีทั้งหมด 3 สาขา สร้างรายได้รวม 250 ล้านบาท ซึ่งพูดได้ว่าเราโตทะลุ 500% ภายในปีเดียว
แล้วในปี 2567 เราขยายอีก 2 สาขาใหม่คือ เอ็มควอเทียร์ และเซ็นทรัล เอ็มบาสซี เท่ากับเรามีทั้งหมด 3 สาขา สร้างรายได้รวม 250 ล้านบาท ซึ่งพูดได้ว่าเราโตทะลุ 500% ภายในปีเดียว
ส่วนในปี 2568 นี้ เราเปิดสาขาใหม่ที่ไอคอนสยาม และมองว่าจะขยายสาขาใหม่ในปีนี้เพิ่มอีก 1-2 สาขา โดยวางเป้าหมายรายได้ปีนี้ไว้ที่ 500 ล้านบาท แต่ก็ต้องดูกำลังซื้อกับเศรษฐกิจโดยรวมด้วย
และด้วยความเป็น First Mover ปีนี้เรากำลังจะทำร้านอาหารแบรนด์ใหม่ ซึ่งเป็นคอนเซปต์ที่ยังไม่มีในเมืองไทยมาก่อน ว่าแต่จะเป็นที่ไหนก็ต้องรอติดตามกัน..”
Reference
- บทสัมภาษณ์ตรง KANORI โดย ลงทุนแมน
- บทสัมภาษณ์ตรง KANORI โดย ลงทุนแมน
Tag: KANORI