นักท่องเที่ยวในคราบของ “นายทุน” กำลังล้น ภูเก็ต เชียงใหม่

นักท่องเที่ยวในคราบของ “นายทุน” กำลังล้น ภูเก็ต เชียงใหม่

8 พ.ย. 2023
นักท่องเที่ยวในคราบของ “นายทุน” กำลังล้น ภูเก็ต เชียงใหม่ /โดย ลงทุนแมน
“20 ล้านคน” คือจำนวนนักท่องเที่ยว ที่มาเที่ยวไทยในระยะเวลาเพียง 9 เดือนที่ผ่านมา ฟังดูแล้ว เหมือนจะเป็นเรื่องดี ที่มีคนเข้ามาเที่ยวบ้านเรา
แต่ทุกอย่างบนโลกนี้ อะไรที่มากเกินไป ก็อาจไม่ใช่เรื่องที่ดี อย่างในวันที่นักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมากในไทย ก็เริ่มสร้างผลกระทบให้กับทั้งผู้ประกอบการ และผู้คนในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะในภูเก็ตและเชียงใหม่
แล้วนักท่องเที่ยว สร้างปัญหาให้เราได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
เชื่อว่าทุกคนคงรู้กันดีอยู่แล้วว่า การที่เรามีนักท่องเที่ยวต่างชาติ มาเที่ยวในประเทศ มีข้อดีอย่างไร
แต่รู้หรือไม่ว่าในตอนนี้ ทั้งผู้ประกอบการ และผู้คนในพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวกำลังเจอกับปัญหา ที่เกิดขึ้นจากนักท่องเที่ยวเหล่านี้
เพราะนักท่องเที่ยวหลายคน ไม่ได้มาเที่ยว
แต่เข้ามา “ในคราบของนายทุน”
ในช่วงที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวบางส่วน ที่เมื่อมาเที่ยวไทยแล้ว ก็ได้เห็นโอกาสในการทำธุรกิจในเมืองไทย
และทำการเปลี่ยนแปลงตัวเอง จากที่เคยเป็นลูกค้า กลายเป็นคู่แข่งของผู้ประกอบการท้องถิ่นในพื้นที่แทน
โดยเมื่อดูสถิติจะพบว่า ในปีนี้ รัสเซีย นักท่องเที่ยวกลุ่มสำคัญของไทย เป็นสัญชาติที่มาลงทุนในนิติบุคคลไทยเพิ่มขึ้นถึง 38% ซึ่งมากเป็นอันดับ 4 ในบรรดาทุกสัญชาติ โดยมีมูลค่าการลงทุน 2 ปีล่าสุดอยู่ที่
ปี 2565 มูลค่า 7,226 ล้านบาท
ปี 2566 มูลค่า 9,999 ล้านบาท
โดยเป็นการกระจายอยู่ในนิติบุคคล 5,215 แห่ง และอยู่ในภูเก็ต จนปัจจุบันขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งชาวรัสเซีย ถึง 1,886 แห่ง หรือมากกว่า 1 ใน 3
และธุรกิจที่ชาวรัสเซียมาลงทุนกันเป็นจำนวนมากในภูเก็ต ก็คือธุรกิจด้านการซื้อขาย และนายหน้าอสังหาริมทรัพย์
ที่น่าสนใจคือ อันดับรองลงมาที่เป็นธุรกิจอย่าง
- ภัตตาคาร และร้านอาหาร
- ธุรกิจนำเที่ยว
- ธุรกิจให้เช่ารถยนต์ส่วนบุคคล
จะเห็นได้ว่า ธุรกิจเหล่านี้ล้วนแต่เป็นธุรกิจที่มีผู้ประกอบการท้องถิ่นอยู่แล้ว
การมีชาวต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจแข่ง จึงส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการท้องถิ่นไม่ใช่น้อย
เพราะผู้ประกอบการจากต่างชาตินั้น จะมีข้อได้เปรียบในเรื่องความสามารถทางการเงิน ที่สูงกว่าผู้ประกอบการท้องถิ่น
นอกจากนั้น ก็ยังมีเรื่องความสนิท และความใกล้ชิดกับลูกค้ามากกว่าด้วย เพราะมาจากประเทศเดียวกัน
ในขณะที่เชียงใหม่ ก็กำลังดำเนินรอยตามภูเก็ตเช่นกัน เพราะต้องเจอกับชาวจีน ที่แห่มาทำธุรกิจในเชียงใหม่กันเป็นจำนวนมาก
โดยเข้ามารุกธุรกิจด้านการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ต และธุรกิจนำเที่ยว เช่นกัน
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ภูเก็ตและเชียงใหม่ เรียกได้ว่าเป็น 2 จังหวัด ที่มีการตรวจพบนิติบุคคล ที่อาจกระทำผิดในลักษณะนอมินี
โดยเป็นการใช้ชื่อคนไทย ถือหุ้นแทนต่างชาติ มากที่สุด โดยเจอถึง 144 ราย จากทั้งประเทศ 148 ราย..
นอกจากผู้ประกอบการแล้ว ก็ยังมีอีกกลุ่มหนึ่ง ที่ได้รับผลกระทบ นั่นก็คือ ผู้คนในพื้นที่ ที่ต้องเจอกับปัญหาค่าครองชีพ และราคาอสังหาริมทรัพย์ที่สูงขึ้น
โดยภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือน สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศ
โดยสูงถึง 33,151 บาทต่อครัวเรือน ในขณะที่ทั่วประเทศมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 22,372 บาท เท่านั้น
และหากนำรายจ่ายมาเทียบกับรายได้ จะพบว่าคนในภูเก็ตจะเหลือเงินออมเฉลี่ย เพียงเดือนละไม่ถึง 400 บาท ซึ่งเป็นตัวเลขน้อยที่สุด ในบรรดาทุกจังหวัด
ในขณะที่เชียงใหม่ เมืองท่องเที่ยวที่กำลังมาแรงขึ้นเรื่อย ๆ ก็มีสภาพไม่ต่างกัน
เพราะเป็นจังหวัดที่มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือนของครัวเรือน เพิ่มขึ้นมากที่สุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้นถึง 83% ในขณะที่ทั้งประเทศ เพิ่มขึ้นอยู่เพียง 17% เท่านั้น..
ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นถึง ค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น จากการเป็นเมืองท่องเที่ยว ซึ่งเรื่องนี้เป็นปัญหาที่คนในพื้นที่ต้องเผชิญ
ในส่วนของราคาอสังหาริมทรัพย์ ก็ต้องบอกว่าตอนนี้ชาวต่างชาติ ได้กำลังกว้านซื้ออสังหาริมทรัพย์กันเป็นจำนวนมาก

โดยเมื่อดูจำนวนการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้ชาวต่างชาติเฉลี่ยรายไตรมาส ของเชียงใหม่และภูเก็ต จะพบว่า
ภูเก็ต
ปี 2562 จำนวน 126 หน่วย
ปี 2563 จำนวน 97 หน่วย
ปี 2564 จำนวน 86 หน่วย
ปี 2565 จำนวน 159 หน่วย
ปี 2566 จำนวน 231 หน่วย
เชียงใหม่
ปี 2562 จำนวน 179 หน่วย
ปี 2563 จำนวน 82 หน่วย
ปี 2564 จำนวน 78 หน่วย
ปี 2565 จำนวน 149 หน่วย
ปี 2566 จำนวน 188 หน่วย
จะเห็นได้ว่าหลังจากมีการเปิดเมือง ยอดโอนห้องชุดให้ชาวต่างชาติ ได้เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด และเพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อนการล็อกดาวน์แล้ว
โดยคนที่มาซื้อก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นกลุ่มเดียวกับที่มาเที่ยวไทยกันเป็นอันดับต้น ๆ นั่นก็คือ จีนและรัสเซีย นั่นเอง
ซึ่งเพียง 2 สัญชาตินี้ ก็ครองส่วนแบ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของยอดโอนทั้งหมด และไม่ใช่แค่ห้องชุดเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงพูลวิลลาที่ก็ถูกเข้ามาจับจองเป็นจำนวนมาก เช่นกัน
ความต้องการอสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติ ได้ทำให้ราคาที่ดินพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยที่ดินทำเลดี ๆ ในภูเก็ต ราคาเพิ่มขึ้นถึง 20-30% ในขณะที่เชียงใหม่ ก็เพิ่มขึ้นถึง 20% ในช่วงที่ผ่านมา และราคาอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น ก็ได้ส่งผลกระทบต่อผู้คนในพื้นที่ เพราะราคาพุ่งสูงขึ้นเกินกว่ากำลังซื้อที่มี
จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า ในตอนนี้ทั้งผู้ประกอบการ และผู้คนในพื้นที่ กำลังต้องเจอกับปัญหาที่ตามมาพร้อม ๆ กับการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีปัญหาหลายอย่าง แต่ก็ต้องยอมรับว่านักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็ยังมีความจำเป็นสำหรับไทย เพราะรายได้จากการท่องเที่ยว เป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของเรา
และการที่มีนายทุนก็อาจเป็นสิ่งที่ดี ถ้าพวกเขาช่วยทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดคึกคัก และทำให้คนท้องถิ่นมีรายได้เพิ่มขึ้น
ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำอาจจะไม่ใช่ห้ามให้นายทุนต่างชาติเข้ามาทั้งหมด แต่อาจจะเป็นการคัดกรองนายทุนออกจากกลุ่มนักท่องเที่ยว และตั้งกฎระเบียบที่เหมาะสม เพื่อกำหนดให้พวกนายทุนต้องมีการจ้างงาน และกระจายรายได้ให้แก่คนท้องถิ่นด้วย
ซึ่งถ้าทำได้ นายทุน กับคนท้องถิ่น ก็จะอยู่กันได้โดยที่ได้ประโยชน์ทั้งคู่ นั่นเอง..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
-ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์
-สำนักงานสถิติแห่งชาติ
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.