หุ้น Meta ดีดขึ้น 15% หลังกำไรเพิ่มขึ้น 3 เท่า และประกาศจ่ายปันผล เป็นครั้งแรก

หุ้น Meta ดีดขึ้น 15% หลังกำไรเพิ่มขึ้น 3 เท่า และประกาศจ่ายปันผล เป็นครั้งแรก

2 ก.พ. 2024
หุ้น Meta ดีดขึ้น 15% หลังกำไรเพิ่มขึ้น 3 เท่า และประกาศจ่ายปันผล เป็นครั้งแรก /โดย ลงทุนแมน
“Meta ไม่โตแล้ว คนเลิกเล่น Facebook กันแล้ว”
ที่คือประโยคที่ได้ยินมาตลอดในช่วงหลายปีมานี้
ทำให้ดูเหมือนว่า Meta เป็นหุ้นที่อาจไม่มีอนาคต เพราะธุรกิจถึงจุดอิ่มตัวแล้ว และกำลังเจอคู่แข่ง เช่น TikTok มาแย่งเวลาผู้ใช้งานไป
แต่รู้ไหมว่า ภาพความเป็นจริง กลับเป็นเรื่องตรงกันข้าม
เพราะวันนี้คนยังคงเล่น Facebook เหมือนเดิม จ่ายเงินซื้อโฆษณาให้ Meta เช่นเดิม แถมยังมากขึ้น..

สะท้อนได้จากผลประกอบการของ Meta ที่ยังเติบโตได้เรื่อย ๆ
อีกทั้งวันนี้ ราคาหุ้น Meta ได้ทำ All Time High ไปเรียบร้อยแล้ว..
โดยราคาหุ้น Meta ได้พุ่งขึ้น 15% ในช่วงซื้อขายนอกเวลาทำการของตลาด หลังจากบริษัทประกาศงบไตรมาสล่าสุดออกมา ซึ่งออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ทั้งด้านรายได้ กำไร และจำนวนผู้ใช้งาน
พร้อมกับการประกาศจ่ายเงินปันผลเป็นครั้งแรก ในรอบ 20 ปี..
โดย Meta จะจ่ายเงินปันผลที่ 0.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น ทั้งหุ้น Class A และ Class B
นอกจากนี้ยังประกาศซื้อหุ้นคืนเพิ่มอีกกว่า 1,766,400 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 ปี 2023
Meta มีรายได้ 1,417,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25%
แบ่งเป็น
-รายได้จากโฆษณา 96.5%
-Reality Labs (ธุรกิจด้าน AR VR และ Metaverse) 2.7%
-อื่น ๆ 0.8%
มีกำไร 495,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 201% หรือ 3 เท่าตัวเลยทีเดียว
ในด้านรายได้นั้น ถือเป็นอัตราการเติบโตที่ดีที่สุดของ Meta นับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2021 ซึ่งได้อานิสงส์มาจาก
-การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของตลาดโฆษณาออนไลน์
-การเติบโตของฟีเชอร์ Reels บน Facebook และ Instagram ในทุกมิติ
-ผลลัพธ์จากการลงทุนด้าน AI ของบริษัท ที่ทำให้แพลตฟอร์มสามารถนำเสนอคอนเทนต์ และยิง Ads ได้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
-ยอดขายอุปกรณ์อย่าง แว่น Meta Quest ที่เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลช็อปปิง
โดย Meta เผยว่า ในไตรมาสนี้ แพลตฟอร์มของบริษัท มีการแสดงผลโฆษณา เพิ่มขึ้น 21% และมีราคาเฉลี่ยต่อโฆษณา เพิ่มขึ้น 2% จากปีก่อนหน้า
หรือพูดง่าย ๆ ว่า มีคนเข้ามาจ่ายเงินเพื่อซื้อโฆษณา บนแพลตฟอร์มของ Meta มากขึ้น ถี่ขึ้น และแพงขึ้น..
และเฉพาะ Facebook แพลตฟอร์มเดียว ก็มีรายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้งาน (ARPU) อยู่ราว 463.5 บาทต่อบัญชี (ไตรมาสที่ 4 ปี 2023) เพิ่มขึ้น 20.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ในด้านต้นทุนและรายจ่ายของบริษัท ไตรมาสนี้ลดลง 8% ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายลดต้นทุน เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไร หลังจากที่มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ได้ประกาศว่าปี 2023 จะเป็น “ปีแห่งประสิทธิภาพ” (Year of Efficiency) และลดพนักงานหลายพันตำแหน่ง
โดย ณ​ สิ้นปี 2023 Meta มีจำนวนพนักงานเหลืออยู่ 67,317 คน ลดลง 22% จากปีก่อนหน้า
ส่วนด้านจำนวนผู้ใช้งานนั้น (ณ สิ้นปี 2023)
Facebook มีผู้ใช้งานประจำรายวัน (DAUs) จำนวน 2,110 ล้านบัญชี
เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่มีอยู่ 2,085 ล้านบัญชี
มีผู้ใช้งานประจำรายเดือน (MAUs) จำนวน 3,065 ล้านบัญชี
เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่มีอยู่ 3,049 ล้านบัญชี
ซึ่ง Meta มีจำนวนผู้ใช้งานแพลตฟอร์มต่าง ๆ ในเครือรวมกัน ทั้ง Facebook, Instagram, WhatsApp หรือ Family Monthly Active People (MAP) อยู่ 3,980 ล้านบัญชี
ทั้งนี้ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เคยประกาศทิศทางของ Meta ในปีก่อนว่า
บริษัทจะหันมาโฟกัสกับการลงทุนด้าน AI มากขึ้น ควบคู่ไปกับธุรกิจ Metaverse เพื่อสร้างการเติบโตต่อไป
ซึ่งวันนี้ มาร์ก เผยว่า Meta มีความก้าวหน้าอย่างมากในวิสัยทัศน์ของการพัฒนา AI และ Metaverse
และในปีนี้ บริษัทจะยังลงทุนเพิ่มมากขึ้นใน 2 เรื่องนี้
ทาง Meta ประเมินว่าทั้งปี 2024 จะมีค่าใช้จ่ายฝ่ายทุน (Capital Expenditure) เพิ่มขึ้นเป็น 1.1 ล้านล้านบาท ถึง 1.3 ล้านล้านบาท
จากการลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งเซิร์ฟเวอร์, Data Center รวมถึง AI และ Metaverse

สรุปแล้ว ด้วยผลประกอบการที่เหนือกว่านักวิเคราะห์คาดไว้ โดยได้แรงหนุนจากธุรกิจโฆษณาที่ยังเติบโตได้ดี และได้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI
ประกอบกับการประกาศซื้อหุ้นคืน และจ่ายเงินปันผล
ทำให้นักลงทุนมองบวกกับหุ้น Meta มากขึ้น และผลักดันให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นทันที 15%
ซึ่งคิดเป็นมูลค่าบริษัทที่เพิ่มขึ้นถึง 5.4 ล้านล้านบาท ภายในวันเดียว..
รู้หรือไม่ ถ้าเราซื้อหุ้น Meta ตอน IPO ในปี 2012 จนถึงตอนนี้ โดยไม่ขายเลย ด้วยจำนวนเงิน 1 ล้านบาท
วันนี้เงินลงทุนของเราจะกลายเป็น 11.9 ล้านบาท
หรือ 11 เด้ง ภายในระยะเวลา 11 ปี..
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.