“Human-first x AI-first Transformation” Vision ของ KBTG ที่ใช้ AI ควบคู่มนุษย์เป็นจุดศูนย์กลาง เพื่อเติบโตในระดับภูมิภาค
KBTG x ลงทุนแมน

ช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าหนึ่งในเทรนด์ที่มาแรงสุด ๆ คงไม่พ้น AI
ดูได้จากบริษัทต่าง ๆ ที่หันมาลงทุนและประยุกต์ใช้ AI อย่างเข้มข้นขึ้น ไม่ว่าจะเป็น

- Microsoft ที่ลงทุนและนำ AI มาต่อยอดเป็นบริการ ChatGPT และ Microsoft Copilot
- Samsung ที่เปิดตัว Galaxy S24 สมาร์ตโฟนที่เน้นความสามารถของ AI

แต่คำถามที่น่าสนใจที่สุดคือ มีบริษัทไหนในไทยที่ให้ความสำคัญกับ AI จนเป็นเบอร์ต้น ๆ ของเอเชีย

คำตอบคือ บริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป หรือ KBTG ผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนาแอปพลิเคชันและซอฟต์แวร์ชื่อดังมากมาย เช่น MAKE by KBank, ขุนทอง หรือล่าสุดอย่าง เหมียวจด

โดยบริษัทไม่เพียงแต่ให้ความสนใจด้าน AI เท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีอื่น ๆ อีกด้วย

นี่จึงเป็นที่มาของการจัดงาน KBTG Vision ขับเคลื่อนองค์กรด้วยแผน Human-first x AI-first Transformation ที่จะมาแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ และแผนการเติบโตในอนาคต
ที่จะทำให้ KBTG กลายมาเป็นบริษัทเทคโนโลยีเบอร์ 1 ของภูมิภาค

ความน่าสนใจของเรื่องนี้เป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

คุณเรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท KBTG ก็ได้มาเปิดเผยว่าจริง ๆ แล้ว KBTG ทำ Transformation องค์กรแบบยกเครื่อง เพื่อยกระดับขีดความสามารถด้านนวัตกรรมอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่ปี 2562

แต่ในปี 2566 ก็สามารถทำผลงานตามเป้าหมายที่วางไว้ได้แล้ว ซึ่งความสำเร็จสะท้อนได้จาก

- ความเป็นยอดในด้านระบบและปฏิบัติการ

แอปธนาคารที่มีเสถียรภาพมากที่สุดตอนนี้คือ แอป K PLUS ของธนาคารกสิกรไทย
โดยปีที่ผ่านมา แอปของธนาคารกสิกรไทย ล่มเพียงแค่ 1 ครั้งเท่านั้น

แม้จะมียอดผู้ใช้งาน K PLUS มากกว่า 21.7 ล้านราย และธุรกรรมทางการเงินในระบบจะสูงถึง 23.9 ล้านล้านบาท คิดเป็น 35% ของธุรกรรมทางการเงินทั้งประเทศ

และไม่ใช่แค่เพียงปีนี้ปีเดียว แต่ครองอันดับความมีเสถียรภาพมากที่สุดเป็นเวลาถึง 4 ปีติดต่อกัน

- การยกระดับสถาปัตยกรรมและโครงสร้างพื้นฐานให้ทันสมัย

จัดทำศูนย์จัดเก็บข้อมูลที่ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า และมีระบบ Hybrid Cloud ที่มีประสิทธิภาพและมีเสถียรภาพขั้นสูงสุด รวมถึงลดอัตราการเกิด Incident ระดับรุนแรงได้มากถึง 60%

- การปรับวิถีการทำงานให้ดีขึ้น ด้วย Agile และ Automation

ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานและคุณภาพงานเพิ่มขึ้น 2.25 เท่า
โดยในปีล่าสุดมีการส่งมอบโปรเจกต์ไอทีให้กับธนาคารได้ถึง 190 โปรเจกต์ จากเดิม 83 โปรเจกต์ ในปี 2562

- การขยายองค์กรสู่ระดับภูมิภาค
โดยขยายฐานปฏิบัติการใน 4 ประเทศ ครอบคลุม 5 เมืองใหญ่

1. กรุงเทพฯ ประเทศไทย
2. โฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
3. ฮานอย ประเทศเวียดนาม
4. เซินเจิ้น ประเทศจีน
5. จาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย

- การสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ชีวิตผู้คน ไม่ว่าจะเป็น

1. MAKE by KBank ที่ช่วยให้คนไทยมากกว่า 2.1 ล้านคน ได้มีการจัดการเงินที่ดี
2. ขุนทอง ที่คอยคำนวณคิดเลขและหารค่าใช้จ่าย ทำให้ผู้คน 1.7 ล้านคน สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
3. Kubix และ Coral จาก KX ที่เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ของโลกสินทรัพย์ดิจิทัล
4. เหมียวจด แอปบันทึกรายจ่ายอัตโนมัติ

- การพัฒนาขีดความสามารถและการดูแลบุคลากร

ที่แม้ปัจจุบันบริษัทต่าง ๆ จะเริ่มยกเลิก WFH แล้ว แต่ KBTG ยังคงมีนโยบาย Work from Anywhere อย่างถาวร ถึงจะมีพนักงานมากกว่า 2,500 คนก็ตาม

แล้วแผนการเติบโตในอนาคตของ KBTG น่าสนใจอย่างไร ?

คุณวรนุช เดชะไกศยะ Executive Chairman ของ KBTG พูดเสริมเรื่อง KBTG ตั้งเป้าที่จะเป็นองค์กรเทคโนโลยีชั้นนำของภูมิภาค

โดยบริษัทจะสร้างการเติบโตผ่านการลงทุนทางด้านยุทธศาสตร์ไอที ด้วยงบประมาณ 8,000-9,000 ล้านบาท
ซึ่งเน้นการยกเครื่องระบบเครดิตจากต้นน้ำยันปลายน้ำ, แพลตฟอร์มบริหารความมั่งคั่ง, AI, Credit Card และ Infrastructure as a Service

พร้อมแผนยุทธศาสตร์ 3+1 ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีของ KBTG ใน 4 ด้าน คือ

1. สร้างสรรค์และส่งมอบคุณค่า
2. เพิ่มความแข็งแกร่งและประสิทธิภาพในการทำงาน
3. อัปเดตพื้นฐานด้านเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มโอกาส
4. ยกระดับขีดความสามารถของบุคลากรในองค์กร

ขณะที่การเติบโตในระดับภูมิภาค KBTG เน้นการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ให้กับธนาคารในแต่ละประเทศ เช่น

- จีน พัฒนาแพลตฟอร์มให้บริการสินเชื่อและข้อมูล
- เวียดนาม พัฒนาแอป K PLUS Vietnam
- อินโดนีเซีย ยกระดับแพลตฟอร์มไอที โครงสร้างพื้นฐาน ความปลอดภัย และการกำกับดูแลของธนาคารแมสเปี้ยน

ถึงตรงนี้ เราคงพอเห็นถึงความสำเร็จที่ผ่านมา และแผนในอนาคตของ KBTG กันบ้างแล้ว
ทีนี้เราลองมาดูกันว่า ในมุมมองของ KBTG AI จะมีความสำคัญต่อมนุษย์โลก มากแค่ไหน ?

โดย ดร.ทัดพงศ์ พงศ์ถาวรกมล Managing Director ของ KBTG กล่าวว่าสุดท้ายแล้ว AI จะกลายเป็นสิ่งที่อเนกประสงค์ และส่งผลกระทบหลาย ๆ ด้าน เช่น

- การเติบโตของเศรษฐกิจในรูปแบบใหม่
- เกิดทักษะใหม่ ๆ การเปลี่ยนงานครั้งใหญ่
- การเปลี่ยนแปลงของ Ecosystem ทางธุรกิจ

ซึ่ง AI จะมาปฏิวัติชีวิตของเราไม่ต่างจากเทคโนโลยีในแต่ละช่วง ไม่ว่าจะเป็น

- เครื่องจักรไอน้ำ ปี 2232
- ไฟฟ้า ปี 2422
- คอมพิวเตอร์ ปี 2489
- อินเทอร์เน็ต ปี 2526
- สมาร์ตโฟน ปี 2535

แต่ปัจจัยที่จะทำให้เทคโนโลยีประสบความสำเร็จได้ ต้องมี 3 ปัจจัยนี้ประกอบ คือ

1. ต้องศึกษาและพร้อม Reskill ตลอดเวลา หรือพูดง่าย ๆ ว่าต้องมีความสามารถในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ พร้อมที่จะปรับตัวไปข้างหน้าเสมอ

โดย KBTG มีโครงการและคอร์สอบรมมากมาย ที่ให้บุคลากรในองค์กรสามารถศึกษาเพื่อ Reskill เช่น KBTG Reskill, DevX Meet Up, KBTG Inspire และ KBTG Life รวมถึงมีการให้ความรู้ด้าน AI อีกด้วย

2. มีระบบการทำงานที่พร้อมรับกับเทคโนโลยี ผ่านการสร้าง Building Block ใหม่ 3 ส่วน คือ AI Creation, AI Application และ AI Monetization

3. การสร้างระบบที่ทำให้เทคโนโลยีสามารถไปถูกใช้ในตลาดได้จริง

ดังนั้น KBTG เลยสร้าง AI Ecosystem ด้านต่าง ๆ ผ่าน KBTG Labs ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็น

ด้านเทคโนโลยี ที่ KBTG Labs ทำวิจัยร่วมกับ MIT Media Lab ตั้งแต่ปี 2565 เพื่อออกแบบเทคโนโลยีต่าง ๆ

ด้านการค้า ที่ KBTG Labs ได้นำเทคโนโลยีที่วิจัยและผ่านการทดสอบแล้ว ส่งต่อให้ KX ดูแลต่อ เพื่อไปให้ลูกค้าและพันธมิตรสามารถนำเทคโนโลยีไปใช้งานได้ต่อ

ซึ่งทีมของ KX เพียบพร้อมด้วยบุคลากรที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี, การพัฒนาธุรกิจ, การตลาด ตลอดจน Product Specialist ที่จะมาวิเคราะห์เชิงลึกให้ผลิตภัณฑ์ของ KBTG Labs สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้จริง ๆ

โดยปัจจุบันมีการเปิดตัว 2 แพลตฟอร์มและบริการทางด้าน AI คือ

1. AINU เทคโนโลยีการยืนยันตัวตน ที่มีทั้ง 3 ฟีเชอร์เด่น คือ

- OCR ระบบแปลงข้อมูลจากภาพ
- Liveness Detection ระบบยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้าจริง ๆ
- Face Recognition ระบบเปรียบเทียบใบหน้าเพื่อการยืนยันตัวตน

จากเรื่องนี้ทำให้ KBTG เป็นบริษัทแรกในเอเชีย และบริษัท 1 ใน 3 ของโลก ที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุด (Level 2) จาก iBeta

2. Car AI เทคโนโลยี AI ตรวจสภาพรถยนต์แบบอัตโนมัติเพื่อประเมินความเสียหายจากรูปภาพ สำหรับใช้ในธุรกิจประกัน ซื้อขายรถยนต์มือสอง และอื่น ๆ

โดย Car AI ได้รับรางวัล Asian Technology Excellence Awards ในสาขา AI - Financial Technology จาก Asian Business Review นิตยสารธุรกิจชั้นนำในระดับภูมิภาค

ด้านการลงทุน KXVC หรือ Venture Capital ของ KBTG ได้มีการลงทุนในสตาร์ตอัป AI และจับมือกับกองทุนด้าน AI ชั้นนำของโลกอย่าง AI FUND ที่นำโดย Andrew Ng ผู้ก่อตั้ง DeepLearning.AI

โดย KXVC จะมองหาเทคโนโลยี AI ใหม่ ๆ จากทั่วโลก เพื่อมาช่วยเพิ่มกำลังทางธุรกิจ
ร่นระยะเวลาในการพัฒนาเทคโนโลยีออกสู่ตลาด รวมถึงร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ ๆ เพื่อสเกลธุรกิจ AI ให้เติบโตไปอีกขั้น

แล้วถ้าถามว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้า KBTG มองว่า AI จะมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก มากแค่ไหน ?

ในมุมมองของ KBTG ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI จะกลายเป็นเทคโนโลยีที่ทรงพลังที่สุดในโลก และจะมีบทบาทสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในอนาคต

ซึ่งเทรนด์ AI ที่กำลังมาแรง และน่าจับตามองคือ

- Generative AI ปัญญาประดิษฐ์ที่มีความคิดสร้างสรรค์
- Large Vision Models ปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถวิเคราะห์รูปภาพ และวิดีโอ

โดย AI จะเข้ามาแทรกซึมอยู่ในทุก ๆ อุตสาหกรรม โดยเฉพาะการศึกษา, ธุรกิจสุขภาพ ตลอดจนการพยากรณ์อากาศที่มีความแม่นยำกว่ามนุษย์หลายเท่า

พอเป็นแบบนี้ ในอีก 5 ปีข้างหน้า KBTG เลยให้ความสำคัญกับการลงทุนและพัฒนาเทคโนโลยี AI พร้อมผลักดันให้ KX กลายมาเป็นบริษัทที่ให้บริการในด้านซอฟต์แวร์ (SaaS) อย่างครบวงจร

นอกจากนี้ KBTG ยังสนับสนุนให้ KXVC เดินหน้าลงทุนในธุรกิจ AI ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งตั้งแต่จัดตั้งกองทุน KXVC ได้ลงทุนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ AI ไปแล้วมากกว่า 3,500 ล้านบาท

โดยธุรกิจที่ KXVC ให้ความสนใจเป็นพิเศษคือ

- Machine Learning
- Deeptech
- Generative AI
- Big Data

ทั้งนี้ การลงทุนของ KXVC ไม่เพียงแต่จะเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับบริษัท แต่ยังเป็นการช่วยอุตสาหกรรม AI ให้เติบโตได้อย่างมั่นคง อีกด้วย

สุดท้ายแล้ว ถึงแม้ว่า การลงทุนในเทคโนโลยี AI จะเป็นเป้าหมายหลักของ KBTG แต่ทั้งนี้การให้ความสำคัญกับ AI เพียงอย่างเดียว ก็คงจะไม่สามารถแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากขาดผู้ใช้งานอย่างคนเรา

นั่นจึงนำไปสู่การใช้มนุษย์เป็นจุดศูนย์กลาง หรือที่เรียกว่า “Human-first x AI-first Transformation” นั่นเอง..

#KBTGVision
#KBTGInnovation
#BeyondAI
#BeyondBanking
#AI
#M.A.D.
#KBTGTransformation
#KBTGRegional
#KBTGAIFirst
#KBTGHumanFirst
#AIFirst #HumanFirst

Reference:
-สรุปสัมมนา “Human-first x AI-first Transformation” Vision 2024 ของ KBTG