กรณีศึกษาร้านสะดวกซัก Otteri ตะกร้าละ 40 บาท สู่มูลค่าบริษัท 2,700 ล้านบาท ตั้งเป้าขยายสาขาไปยัง CLMV

กรณีศึกษาร้านสะดวกซัก Otteri ตะกร้าละ 40 บาท สู่มูลค่าบริษัท 2,700 ล้านบาท ตั้งเป้าขยายสาขาไปยัง CLMV

กรณีศึกษาร้านสะดวกซัก Otteri ตะกร้าละ 40 บาท สู่มูลค่าบริษัท 2,700 ล้านบาท ตั้งเป้าขยายสาขาไปยัง CLMV
Otteri x ลงทุนแมน
ถ้าพูดถึง “ร้านสะดวกซัก” ดูเป็นธุรกิจที่มีหน้าตาเหมือน ๆ กันทุกราย
เช่น มีเครื่องซักผ้าเหมือนกัน, ตั้งราคาที่ 40 บาทเหมือนกัน และการใช้งานรูปแบบเดียวกัน
ซึ่งถ้าคิด ๆ ดูแล้ว ธุรกิจนี้ก็ไม่น่าจะมีใครเป็นผู้นำในตลาดได้เลย
แต่รู้หรือไม่ว่า Otteri wash & dry กลับสามารถผลักดันตัวเองให้กลายเป็นเบอร์ 1 ของไทย
โดยปัจจุบันมีสาขามากกว่า 1,000 สาขาทั่วประเทศ
ขณะที่รายได้ปี 2567 สูงถึง 900 ล้านบาท
ที่น่าสนใจคือ บริษัทยังตั้งเป้าขยายธุรกิจสู่ต่างประเทศ อีกด้วย
Otteri wash & dry สร้างธุรกิจให้แตกต่างจากคู่แข่งอื่น ๆ ได้อย่างไร ?
แล้วการขยายสาขาไปสู่ต่างประเทศน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
Otteri wash & dry เป็นร้านสะดวกซักที่ก่อตั้งในปี 2559 หรือ 8 ปีที่แล้ว โดยคุณกวิน นิทัศนจารุกุล อายุ 31 ปี
ซึ่งไอเดียธุรกิจนี้ มีจุดเริ่มต้นมาจากการเดินทางไปเที่ยวประเทศมาเลเซีย
โดยเขาพบว่า มาเลเซียมีร้านสะดวกซักมากถึง 3,000 แห่ง
ทั้งที่เป็นประเทศที่มีประชากรเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของประเทศไทย
เขาจึงมองว่า ร้านสะดวกซักก็น่าจะมีโอกาสขยายธุรกิจในไทยได้ดีเช่นกัน
คุณกวินจึงตัดสินใจทำธุรกิจนี้เป็นรายแรกในไทย โดยใช้ชื่อว่า “Koin Laundry” และเจาะกลุ่มเป้าหมายเป็นลูกจ้างในนิคมอุตสาหกรรม แถวสมุทรสาคร
แต่แล้วธุรกิจครั้งนั้นก็ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะคนส่วนใหญ่ยังนิยมซักเสื้อผ้าด้วยมือ
คุณกวินเลยตัดสินใจไปเรียนเสริมในคอร์สการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และนำความรู้มาประยุกต์ใช้กับการรีแบรนด์ใหม่
จนได้แบรนด์ใหม่ที่ชื่อว่า “Otteri wash & dry”
พร้อมกับพัฒนาให้กลายเป็นร้านสะดวกซักที่ทันสมัย แตกต่างจากร้านซักผ้าแบบดั้งเดิม
ไม่ว่าจะเป็น
- เครื่องจักรทันสมัย ช่วยลดระยะเวลาในการซักผ้าและอบผ้า
- ถูกสุขลักษณะ เพราะมีพนักงานเข้าไปทำความสะอาดร้านและเครื่องซักผ้าทุกวัน
- ความสะดวก เพราะเปิดบริการ 24 ชั่วโมง
- ความปลอดภัย จากกล้องวงจรปิด ที่คอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
รวมถึง วิสัยทัศน์ ที่สะท้อนธุรกิจได้ดีอย่าง Creating Healthy Lifestyle Community ผ่านการสร้างสรรค์สังคมที่มีสุขภาพดี โดยเริ่มจากการสวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาด
จนมาในปัจจุบันนี้ Otteri wash & dry กลายเป็นร้านสะดวกซักอันดับ 1 ที่มีจำนวนสาขามากที่สุดในประเทศไทย
แล้วผลประกอบการของ Otteri wash & dry เป็นอย่างไร ?
ปี 2562 รายได้ 277 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 411 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 696.9 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 920.9 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่า บริษัทสามารถสร้างรายได้เติบโตต่อเนื่อง
และผ่านมาเพียง 8 ปี แต่ก็มีรายได้กว่า 900 ล้านบาท เรียบร้อยแล้ว
จุดนี้เองที่ไม่น่าแปลกใจว่าทำไม บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ถึงสนใจ Otteri wash & dry
จนเข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 40%
ตีเป็นมูลค่าทั้งกิจการเกินกว่า 2,700 ล้านบาท
โดยวางแผนสร้างการเติบโตในอนาคต ด้วยการตั้งเป้าหมายที่จะขยายสาขาภายในประเทศ 300 สาขาต่อปี
ค่าแฟรนไชส์ Otteri wash & dry เริ่มต้น 2.5 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังพร้อมปรับกลยุทธ์ธุรกิจให้เป็น Global Company เพื่อที่จะขยายสาขาไปต่างประเทศอีกด้วย
ซึ่งในระยะแรกอีก 2-3 ปีข้างหน้า บริษัทตั้งใจจะขยายสาขาใน CLMV ซึ่งก็คือ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม รวมถึงภูมิภาคอาเซียน
สิ่งที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ก็คือ ปัจจุบันนี้ บริษัทได้ขยายสาขาไปสู่ต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยสาขาแรกอยู่ที่สถานีบริการน้ำมันพีทีที สเตชั่น Chbar Ampov
ประเทศแรกคือ กัมพูชา จำนวน 2 สาขา โดย Otteri wash & dry ตั้งเป้าจะขยายถึง 150 สาขา ภายใน 3 ปี
ซึ่งร้านสะดวกซักในประเทศกัมพูชาจะให้บริการรูปแบบเดียวกับในประเทศไทย
ที่ให้ผู้คนได้เข้าถึงการบริการซักผ้าและอบผ้า ในรูปแบบการบริการตนเอง พร้อมมีบริการ Wi-Fi ฟรี โดยจะเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
พูดง่าย ๆ ว่า Otteri wash & dry ยังมีช่องว่างในการเติบโตอีกไม่น้อยเลย
ถึงตรงนี้แล้ว หากสนใจซื้อแฟรนไชส์ Otteri wash & dry สามารถมาที่งาน TFBO งานแสดงแฟรนไชส์นานาชาติ ที่ไบเทค บางนา ตั้งแต่วันที่ 11-14 กรกฎาคม 2567
โอกาสที่ทุกคนจะได้พบกับทีมที่ปรึกษาด้านการลงทุนที่ให้คำแนะนำ
พร้อมทั้งจะได้รับส่วนลดพิเศษ สำหรับการเปิดร้านใหม่เฉพาะในงานนี้
สำหรับใครที่สนใจสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/otteriwashdry
Tag: Otteri

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon