
กลยุทธ์ “T-O-P-S” ที่ท็อปส์ ใช้ขับเคลื่อนยอดขาย Own Brand เติบโต 20%
ท็อปส์ X ลงทุนแมน
หลายคนที่เคยเข้าไปช็อปปิงในท็อปส์ คงเคยเห็นและเคยซื้อสินค้าพรีเมียมแบรนด์ My Choice หรือซื้อเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ที่สดใหม่เกรดพรีเมียมอย่าง James the Butcher ซื้อผลิตภัณฑ์อาหาร ขนม ของทานเล่นและน้ำดื่ม TOPS ตลอดไปจนถึงการซื้อสารพัดของใช้ประจำในบ้านอย่างแบรนด์ Smarter
รู้หรือไม่ แบรนด์ที่กล่าวมาทั้งหมดมีเจ้าของคนเดียวกันก็คือ ท็อปส์ ที่น่าเซอร์ไพรส์กว่านั้นคือ ไม่ได้มีเพียง 3-4 แบรนด์ แต่ท็อปส์มีแบรนด์สินค้าที่เป็นของตัวเองหรือ Own Brand มากกว่า 80 แบรนด์ที่มีสินค้ารวมกันกว่า 5,000 รายการ ครอบคลุมกว่า 110 หมวดหมู่
พูดง่าย ๆ หากเราซื้อสินค้า Own Brand ของท็อปส์ทั้งหมด ก็ครอบคลุมการใช้ชีวิตประจำวันอย่างสบาย ๆ เพราะมีทั้งอาหาร, เครื่องดื่ม, ของใช้ในบ้าน ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพและความงาม
สินค้า Own Brand ของท็อปส์มีดีอย่างไร ทำไมถึงสร้างยอดขายเติบโตมาตลอด 23 ปี
คำตอบนี้ มาถูกเฉลยในงานแถลงข่าวล่าสุด เมื่อท็อปส์เปิดแผนธุรกิจเชิงรุกครั้งใหญ่ ภายใต้กลยุทธ์ T-O-P-S ที่จะใช้ขับเคลื่อน Own Brand เจาะตลาดทั้งในและต่างประเทศ พร้อมกับตั้งเป้าหมายยอดขาย Own Brand เติบโตกว่า 20% ในปีนี้
ท็อปส์จะทำให้เป้าหมายนี้สำเร็จด้วยวิธีไหน ?
Own Brand ของท็อปส์ แตกต่างจากร้านค้าปลีกอื่น ๆ อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
Own Brand ของท็อปส์ แตกต่างจากร้านค้าปลีกอื่น ๆ อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
เหตุผลที่ท็อปส์ต้องมี Own Brand เป็นของตัวเอง มีอยู่ 3 เหตุผลหลัก ๆ
1. สร้างแบรนด์สินค้าเพื่อมาตอบโจทย์ลูกค้าจนกลายเป็นจุดขายให้ร้านตัวเอง เพราะหากลูกค้าต้องการซื้อ Own Brand ก็ต้องมาที่ท็อปส์อย่างเดียว
2. สามารถควบคุมคุณภาพและต้นทุนการผลิตเพื่อให้ “คุณภาพสินค้าดี ในราคาคุ้มค่า”
3. เมื่อเป็นเจ้าของแบรนด์และมีพื้นที่ขายเป็นของตัวเองย่อมสามารถบริหารต้นทุนและกำไรได้ดีกว่าขายสินค้าแบรนด์อื่น ๆ
ในขณะที่ทุก ๆ ร้านค้าปลีก Modern Trade ส่วนใหญ่จะมี Own Brand เป็นของตัวเอง
คำถามคือ แล้ว Own Brand ของท็อปส์แตกต่างอย่างไร ?
คำถามคือ แล้ว Own Brand ของท็อปส์แตกต่างอย่างไร ?
สิ่งแรกที่เห็นชัดเจนที่สุดคือ ความหลากหลายของสินค้าที่จับกลุ่มผู้บริโภคครบทุก Segment
- Specialized Brand คือ ตราสินค้าที่เชี่ยวชาญเฉพาะกลุ่มสินค้า มาพร้อมคุณภาพที่มีราคาเข้าถึงง่าย เช่น แบรนด์ ยินดี, Baggy, Oh Egg, My Bite, Juvie เป็นต้น
- Core Brand จะเน้นไปยังกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม โดยจะมีแบรนด์ TOPS เป็นแบรนด์หลักในกลุ่มนี้ ที่จะมีสินค้าหลักคือ อาหารสำเร็จรูป, ข้าวสาร, น้ำดื่ม เป็นต้น
ส่วนอีกหนึ่งแบรนด์คือ SmarteR ที่จะเป็นสินค้าที่ใช้ประจำในบ้าน เช่น น้ำยาซักผ้า, น้ำยาล้างจาน, สเปรย์ปรับอากาศ, อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง, สินค้าทำความสะอาดบ้าน
- Premium Brand คือการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพสูงจากทั่วโลก จากแหล่งกำเนิดที่ดีที่สุด และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่ดีที่สุดมาผลิตเป็นสินค้าเช่น แบรนด์ My Choice ที่มีน้ำมันมะกอกที่นำเข้าจากสเปน, ข้าวหอมมะลิแบบออร์แกนิก, แยมสูตรน้ำตาลน้อย, น้ำผึ้งดอกลำไย เป็นต้น
แบรนด์ James The Butcher คัดสรรเนื้อสัตว์สดคุณภาพสูง โดยเฉพาะเนื้อวัวที่ขายดีมาก ๆ เพราะคัดจากฟาร์มที่ได้รับการรับรองจาก 8 ประเทศ
จะเห็นว่า Own Brand ของท็อปส์ มีทั้งความหลากหลายของสินค้าและราคา ที่ผู้บริโภคสัมผัสได้ผ่าน 80 แบรนด์ที่อยู่ในสาขาของท็อปส์ในทุกรูปแบบร้านค้าปลีก เช่น Tops Food Hall, Tops, Tops Daily เป็นต้น
ความแข็งแกร่งที่มีอยู่ในมือตรงนี้เอง ทำให้ท็อปส์เชื่อว่าหากใส่กลยุทธ์การตลาดเจ๋ง ๆ และสร้างการรับรู้ว่า Own Brand ตัวเองมีคุณภาพสูง ก็น่าจะทำให้ยอดขายเติบโตยั่งยืน
เลยเป็นที่มาที่ทำให้ท็อปส์ใช้กลยุทธ์ “T-O-P-S”
T - Trusted Quality
คุณภาพถือเป็นหัวใจของแบรนด์ ตรงนี้เองที่ทำให้ Own Brand ของท็อปส์ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากที่สุด สะท้อนจากการได้รับรางวัลมากมาย เช่น
- มาตรฐานรับรองคุณภาพออร์แกนิกจาก USDA Organic, EU Organic, CERES
- มาตรฐานคุณภาพส่งออก เช่น ตราสัญลักษณ์รวงข้าว ได้เครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทยคุณภาพส่งออก จากกรมการค้า
- รางวัลสินค้า Own Brand โดดเด่น ระดับโลก PLMA Salute to Excellence Award* จาก PLMA (Private Label Manufacturers Association) ซึ่งท็อปส์ได้รับรางวัลนี้ 2 ปีติดต่อกัน
- มาตรฐานคุณภาพส่งออก เช่น ตราสัญลักษณ์รวงข้าว ได้เครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทยคุณภาพส่งออก จากกรมการค้า
- รางวัลสินค้า Own Brand โดดเด่น ระดับโลก PLMA Salute to Excellence Award* จาก PLMA (Private Label Manufacturers Association) ซึ่งท็อปส์ได้รับรางวัลนี้ 2 ปีติดต่อกัน
ที่น่าสนใจคือ สินค้า Own Brand ของท็อปส์ ยังได้รับการรับรองสัญลักษณ์โภชนาการ “ทางเลือกสุขภาพ (Healthier Choice)” ภายใต้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และยังได้ดำเนินการยื่นขอการรับรองสินค้าอื่น ๆ อีกเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค
O - Offer Variety
อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นสิ่งที่ทำให้ Own Brand ของท็อปส์โดดเด่น คือการมี 80 แบรนด์แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าในทุกระดับราคา
ในปีนี้ ท็อปส์เองก็จะเพิ่มความหลากหลายให้ Own Brand ของตัวเอง ด้วยการขยายไลน์สินค้าเพิ่มกว่า 500 รายการในปีนี้ โดยเฉพาะ My Choice ที่คัดสรรสินค้าคุณภาพสูง ส่งตรงแหล่งผลิตต้นคุณภาพสูงทั้งไทยและต่างประเทศ ที่จะขยายไลน์สินค้าเพิ่มกว่า 500 รายการในปีนี้
P - Preferred Choice
สร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภคว่า Own Brand ต่าง ๆ ของท็อปส์ เป็นสินค้าคุณภาพสูงที่มาพร้อมความคุ้มค่า เพื่อสร้างการบอกต่อทั้งแบบปากต่อปากและออนไลน์
S - Sustainability by Design
รู้หรือไม่ กลุ่มธุรกิจที่อยู่ภายใต้อาณาจักร CRC หรือเซ็นทรัลค้าปลีกจะขับเคลื่อนด้วยแนวคิด Green & Sustainable Retail ท็อปส์เองก็เช่นกัน
ทำให้การผลักดัน Own Brand ครั้งนี้จะให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ตั้งแต่คัดเลือกวัตถุดิบในการผลิตจนถึงบรรจุภัณฑ์ส่งตรงถึงมือผู้บริโภค
อย่างแบรนด์ Smarter จะผลิตสินค้าที่เน้นเรื่องความยั่งยืน เช่น ถุงขยะรักษ์โลก, จานกระดาษรักษ์โลกที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติสามารถย่อยสลายเองได้ เป็นต้น
ส่วน My Choice มีการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์เชอร์รีให้ย่อยสลายได้และไม่เคลือบพลาสติก 100%
ที่น่าสนใจอีกเรื่องคือ มีหลาย ๆ Own Brand ของท็อปส์ที่ร่วมมือกับชุมชนและเกษตรกรอย่าง Smile Melon ที่ร่วมมือกับ “วิสาหกิจชุมชนเมล่อนหมู่ใหญ่ร่วมใจพัฒนา” ที่ได้การสนับสนุนจากกลุ่มเซ็นทรัลและท็อปส์ในการผลิตและด้านอื่น ๆ
ทำให้ขยายโอกาสทางการตลาดเพิ่มมูลค่าสินค้า ช่วยให้กลุ่มเกษตรกรและคนในชุมชน มีรายได้เพิ่มและความเป็นอยู่ดีขึ้น
มองผิวเผินการผลักดัน Own Brand ท็อปส์ แม้จะมีเป้าหมายหลักคือสร้างยอดขายเติบโตในช่วงที่ตลาดสินค้า Own Brand ประเทศไทยเองเติบโต 11.3% จนมีมูลค่ากว่า 38,000 ล้านบาท
หากแต่เรามองลงลึกไปอีกขั้น จะพบว่าเรื่องนี้ยังสร้างประโยชน์อีกหลาย ๆ ด้าน ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้นในการซื้อสินค้าคุณภาพในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย อีกทั้งสินค้า Own Brand ของท็อปส์ ยังสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้แก่ชุมชนและเกษตรกร
Own Brand ของท็อปส์ จึงไม่ใช่แค่สินค้าธรรมดา ๆ ทั่วไป แต่หมายถึงการเป็นอีกหนึ่งจิกซอว์ชิ้นเล็ก ๆ ที่จะช่วยสร้างชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนให้ดีขึ้น
Reference
- งานแถลงข่าว บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด
- งานแถลงข่าว บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด
—----
หมายเหตุ * :
รางวัล “Salute to Excellence Awards” เป็นเครื่องหมายจดทะเบียนการค้าของ PLMA ไม่สามารถใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต การตัดสินรางวัลปี 2025 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 26–27 มีนาคม 2025 โดยพิจารณาสินค้าจากแนวคิด รูปลักษณ์ เนื้อสัมผัส/กลิ่น การนำเสนอ และความคุ้มค่า PLMA ไม่รับผิดชอบหากสินค้าที่ขายจริงแตกต่างจากที่คณะกรรมการพิจารณา
รางวัล “Salute to Excellence Awards” เป็นเครื่องหมายจดทะเบียนการค้าของ PLMA ไม่สามารถใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต การตัดสินรางวัลปี 2025 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 26–27 มีนาคม 2025 โดยพิจารณาสินค้าจากแนวคิด รูปลักษณ์ เนื้อสัมผัส/กลิ่น การนำเสนอ และความคุ้มค่า PLMA ไม่รับผิดชอบหากสินค้าที่ขายจริงแตกต่างจากที่คณะกรรมการพิจารณา