ข่าวใหญ่ในตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ คงหนีไม่พ้นปัญหาการอนุมัติงบการเงินประจำปี 2567 ของบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT

เจ้าของตำนานโรงแรมหรูย่านกลางเมือง ที่ในปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างถูกพัฒนาเป็นโครงการ Mixed-Use ขนาดใหญ่อย่าง Dusit Central Park ร่วมกับ Central Pattana

รวมไปถึงเชนโรงแรมในเครือดุสิตธานี ทั้งในไทยและต่างประเทศ

ซึ่งตอนนี้บริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ที่ถือหุ้นเกือบ 50% ของ DUSIT ได้ลงมติไม่อนุมัติงบการเงินประจำปี 2567

รวมถึงไม่ยอมรับให้กรรมการที่พ้นวาระตำแหน่ง 4 คน กลับมาทำหน้าที่เดิมอีกครั้ง

แล้วทำไมเรื่องนี้ถึงเกิดขึ้น ?

ย้อนกลับไปตอนวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา DUSIT ได้ชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กรณีที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่อนุมัติงบการเงินประจำปี 2567

ซึ่งทางบริษัท ยืนยันว่าปัญหานี้ ไม่ได้มาจากความถูกต้องของการจัดทำงบการเงิน

ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามว่า เรื่องนี้อาจเกิดจากความขัดแย้งภายในกลุ่มทายาทของท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ผู้ก่อตั้งโรงแรมดุสิตธานี และความขัดแย้งระหว่างผู้ถือหุ้นของบริษัท ชนัตถ์และลูก

แต่ทางบริษัท ชนัตถ์และลูก ให้เหตุผลที่ไม่อนุมัติงบการเงินว่า เป็นเพราะทางคณะกรรมของ DUSIT ไม่ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับ สินทรัพย์ หนี้สิน เงินลงทุน และเงินให้กู้แก่บริษัทย่อย ให้กระจ่าง

รวมถึงต้องการเห็นการบริหารงานของ DUSIT ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น หลังจากขาดทุน 5 ปีติดต่อกัน จนปัจจุบันมีผลขาดทุนสะสม (ยังไม่ได้จัดสรร) กว่า 1,268 ล้านบาท

และทำให้บริษัท ชนัตถ์และลูก ไม่ได้รับเงินปันผลจากการถือหุ้น DUSIT มานานกว่า 5 ปีแล้ว

เพื่อไม่ให้กระทบภาพลักษณ์ของบริษัท จึงมีการตัดสินใจเลื่อนการประชุมผู้ถือหุ้นออกไปก่อน โดยกำหนดวันประชุมใหม่เป็น 28 พฤษภาคมแทน

พร้อมกับไม่อนุมัติให้กรรมการที่หมดวาระ 4 คน กลับมาทำหน้าที่เดิมอีกครั้ง ทำให้ปัจุบัน DUSIT มีกรรมการเหลืออยู่จำนวน 8 คน

จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ DUSIT มีกรรมการตรวจสอบไม่ครบ 3 ท่าน บริษัทจึงต้องเร่งหาคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ หรือที่ประชุมผู้ถือหุ้น ให้พิจารณาอนุมัติต่อไป

ซึ่งบริษัท ชนัตถ์และลูก ให้เหตุผลของการไม่อนุมัติ การกลับเข้ามาดำรงตำแหน่งของกรรมการทั้ง 4 คนนี้ว่า แม้พวกเขาจะมีความรู้ความสามารถ แต่บางคนก็ดำรงตำแหน่งมานานเกิน 10 ปี

และผลประกอบการที่ผ่านมายังคงขาดทุน จึงต้องการเลือกตั้งบุคคลอื่นเข้ามาเป็นกรรมการชุดใหม่แทน เพื่อเปิดโอกาสให้ฟื้นฟูผลประกอบการ

สำหรับผลประกอบการ DUSIT ในช่วง 5 ปีย้อนหลัง

ปี 2563
รายได้ 2,811 ล้านบาท
ขาดทุน 1,011 ล้านบาท

ปี 2564
รายได้ 2,661 ล้านบาท
ขาดทุน 945 ล้านบาท

ปี 2565
รายได้ 4,748 ล้านบาท
ขาดทุน 501 ล้านบาท

ปี 2566
รายได้ 6,313 ล้านบาท
ขาดทุน 570 ล้านบาท

ปี 2567
รายได้ 11,077 ล้านบาท
ขาดทุน 237 ล้านบาท

แล้วปัญหานี้กระทบกับราคาหุ้นของ DUSIT อย่างไรบ้าง

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา หุ้นของบริษัท ดุสิตธานี จำกัด
(มหาชน) ปรับตัวลดลงกว่า 10%

และถ้านับจากต้นปี (YTD) ราคาหุ้นร่วงมาแล้วเกือบ 30%

ส่วนอีกประเด็น ก็คือการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ที่ต้องมีไม่น้อยกว่า 3 คน

โดยต้องแต่งตั้งกรรมการตรวจสอบให้ทันภายในกำหนด 3 - 6 เดือน หลังจากที่ตำแหน่งว่างลง

หากไม่ทันกำหนด หุ้น DUSIT ก็เสี่ยงที่จะถูกขึ้นเครื่องหมาย SP

แล้วบทสรุปของเรื่องนี้ จะจบลงเมื่อไร และจะออกมาเป็นแบบไหน ?

คงเป็นคำถามที่ผุดขึ้นมาในใจของใครหลาย ๆ คน ที่ต้องติดตามฉากต่อไปอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผู้ถือหุ้นรายย่อยของ DUSIT..

หมายเหตุ : บทความนี้มีเจตนาให้ความรู้ด้านการลงทุน และไม่ได้มีเจตนาชี้นำให้ซื้อหรือขายหุ้นทั้งหมดที่กล่าวถึง การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน