สรุปเหตุการณ์ น้ำท่วมหาดใหญ่ ฝนหนักสุดในรอบ 300 ปี

สรุปเหตุการณ์ น้ำท่วมหาดใหญ่ ฝนหนักสุดในรอบ 300 ปี

1) ภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่-สงขลา
- ผู้ว่าฯ สงขลา ประกาศเขตภัยพิบัติทั้ง 16 อำเภอของสงขลา และสั่งอพยพประชาชนในเขตเสี่ยงของอำเภอหาดใหญ่ด่วน เนื่องจากระดับน้ำเพิ่มสูงต่อเนื่อง และยังมีฝนซ้ำในบางช่วง
- เมืองหาดใหญ่ถูกประกาศเป็น “เขตอันตราย” (red zone) เนื่องจากน้ำท่วมกินวงกว้าง ทั้งเขตเศรษฐกิจและชุมชนรอบเมือง หลายพื้นที่ระดับน้ำตั้งแต่ราว 0.5–2 เมตรขึ้นไป และกระแสน้ำบางจุดไหลเชี่ยว ยานพาหนะขนาดเล็กเข้าไม่ถึง
2) สาเหตุของน้ำท่วม
- ฝนมรสุม ร่องมรสุม + ลมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรง
ช่วงวันที่ 19-21 พ.ย. 2568 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง บวกกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรง ทำให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวัน ในหลายจังหวัดภาคใต้ รวมทั้งสงขลา
โดยศูนย์อุตุนิยมฯ รายงานว่า ในหลายพื้นที่ของภาคใต้ มีฝน 24 ชั่วโมงเกิน 300-500 มม. ซึ่งถือว่าสูงมากกว่าค่าเฉลี่ยหลายเท่า
- ฝน “หนักสุดในรอบ 300 ปี” ที่หาดใหญ่
กรมชลประทาน ระบุว่า เฉพาะวันที่ 21 พ.ย. วันเดียว หาดใหญ่มีฝน 335 มม.
รวมฝนสะสม 3 วัน ประมาณ 630 มม. ถือเป็น “ฝนหนักที่สุดในรอบราว 300 ปี” ของสถิติพื้นที่หาดใหญ่
ทั้งนี้ คำว่า “ฝน 300 ปี” เป็นคำเรียกตามหลักสถิติอุทกวิทยา ซึ่งเป็นคำเปรียบเปรยที่นำมาจากสถิติความน่าจะเป็น ถึงปริมาณฝนที่มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก ไม่ใช่เกิดในช่วงเวลา 300 ปี และมีโอกาสเกิดซ้ำได้ทุกปี
- ภูมิประเทศแบบ “แอ่งกระทะ” + น้ำหลากจากรอบทิศ
หาดใหญ่ตั้งอยู่ในลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภา ล้อมรอบด้วยภูเขาและเนินเขาหลายด้าน ทำให้เป็นลักษณะพื้นที่ “แอ่งรองรับน้ำ” พอน้ำจาก ฝนในเมือง, น้ำหลากจากอำเภอสะเดาและตอนบน, น้ำจากเขาคอหงส์ ฯลฯ , ไหลลงมาพร้อมกันที่ คลองอู่ตะเภา ซึ่งเป็นคลองสายหลัก น้ำจึงท่วมเร็ว และระบายออกสู่ทะเลได้ช้า
ซึ่งแม้แต่คลอง ร.1 ที่เคยช่วยผันน้ำจากคลองอู่ตะเภา เพื่อระบายลงทะเลสาบสงขลา ก็ไม่สามารถระบายได้ทัน
3) ความเสียหายที่เกิดขึ้น
- เหตุการณ์น้ำท่วมรุนแรงสุดในรอบหลายสิบปี ของสงขลา และฝนที่หาดใหญ่ หนักสุดในรอบ 300 ปี
ได้ส่งผลกระทบให้มีประชาชนเดือนร้อนกว่า 6.9 แสนคน, 2.7 แสนครัวเรือน ครอบคลุมทุกอำเภอของจังหวัด
- น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจ ย่านการค้า ชุมชนที่อยู่อาศัย
หลายจุดในตัวเมืองมีรายงานระดับน้ำสูงตั้งแต่ ครึ่งเมตรถึงมากกว่า 2 เมตร ถนนหลายสายใช้การไม่ได้ ต้องใช้เรือหรือรถบรรทุกสูงเข้า-ออก
- มีรายงานชุมชนจำนวนมาก “ขาดน้ำดื่ม อาหาร ของใช้จำเป็น” เพราะออกจากบ้านไม่ได้ และจุดกระจายน้ำ–อาหารเข้าไม่ถึง ต้องใช้กู้ภัยกับหน่วยทหารลำเลียงเข้าไป
- มีนักท่องเที่ยว ได้รับผลกระทบ โดยมีทั้งกลุ่มที่ติดอยู่ในโรงแรม ห้าง และกลุ่มที่ต้องยกเลิกทริป เข้าหาดใหญ่ในช่วงสุดสัปดาห์นี้
4) การดำเนินการช่วยเหลือ
- ผู้ว่าฯ สงขลา ประกาศเขตภัยพิบัติทั้งจังหวัด และสั่งอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะหาดใหญ่ที่ถูกประกาศ “เขตอันตราย” และให้เตรียมจุดอพยพ, ศูนย์พักพิงหลายจุด
- กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับจังหวัด ส่งทีมช่วยเหลือเข้าทุกอำเภอ โดยเน้นอพยพเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง
รวมถึงตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว แจกจ่ายถุงยังชีพ น้ำดื่ม อาหารแห้ง ฯลฯ
- หน่วยทหาร, ตำรวจ, กู้ภัย นำเรือท้องแบน รถบรรทุกสูง ลงช่วยลำเลียงคนออกจากชุมชนที่น้ำสูง และส่งอาหาร น้ำดื่ม เข้าพื้นที่ที่รถเล็กเข้าไม่ถึง
- เส้นทางหลักหลายสายถูกตัดขาด เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเปิดเส้นทางชั่วคราวหรือเบี่ยงเส้นทาง เพื่อให้การขนส่งอาหาร น้ำดื่ม เชื้อเพลิง ยังดำเนินได้
- โรงพยาบาลหาดใหญ่ รายงานว่ามีมวลน้ำหนุนเข้ามาภายในโรงพยาบาล จึงมีการขอให้ผู้รับบริการที่ไม่ฉุกเฉินใช้ระบบโทรเวช/ออนไลน์ แทน และเตรียมแผนเคลื่อนย้ายผู้ป่วยหนักในกรณีจำเป็น
- ภาคประชาชนใช้โซเชียลมีเดีย ช่วยกันรวบรวมเคสขอความช่วยเหลือในชุมชนต่าง ๆ และประสานต่อให้หน่วยงานรัฐ–กู้ภัยลงไปช่วย
- กลุ่มอาสาต่าง ๆ ระดมเรือ เครื่องสูบน้ำ ถุงยังชีพ ผ้าอนามัย ยาโรคทั่วไป ฯลฯ ไปยังศูนย์พักพิงและชุมชนที่เดือดร้อนหนัก
5) สถานการณ์ล่าสุด (25 พ.ย.)
- สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง น้ำท่วมยังครอบคลุมทั้ง 16 อำเภอ ระดับน้ำบางจุดยังทรงตัวหรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เพราะมีฝนตกซ้ำ และน้ำจากตอนบนยังไหลลง
คาดการณ์ของหน่วยงานด้านอุตุนิยมและทรัพยากรน้ำ คือ หากช่วงหลัง 25–26 พ.ย. ปริมาณฝนเริ่มลดลงจริง ระดับน้ำจะเริ่มทรงตัว และค่อย ๆ ลด แต่ต้องใช้เวลา และเสี่ยงเกิดปัญหาสุขาภิบาล โรคระบาดหลังน้ำลด เช่น น้ำเสีย ขยะตกค้าง ฯลฯ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon