สยามพิวรรธน์ กับวิธีปักหมุดประเทศไทยเป็น World Pride Destination เสริมเม็ดเงินหมุนเวียนเศรษฐกิจไทย
สยามพิวรรธน์ X ลงทุนแมน
ประเทศไทยมีประชากรที่มีความหลากหลายทางเพศหรือกลุ่ม LGBTQ ราว ๆ 4 ล้านคน มีนักท่องเที่ยว LGBTQ จากทั่วโลกมาเที่ยวเมืองไทยปีละกว่า 4 ล้านคนต่อปี
โดยเฉพาะในช่วงเดือน มิถุนายน ของทุก ๆ ปี ที่เป็นช่วง Pride Month เทศกาลเฉลิมฉลองประชากรกลุ่ม LGBTQ ทั่วโลก
หลายคนอาจไม่รู้ว่า จริง ๆ แล้ว ประเทศไทย ถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางในช่วงเทศกาล Pride Month ที่เป็นหนึ่งในสถานที่ของกลุ่มคน LGBTQ ทั่วโลก จะมานัดรวมตัวกันปักหมุดแสดงพลัง และความภาคภูมิใจในการเป็นตัวของตัวเอง
โดยสถานที่ยอดฮิตของกลุ่ม LGBTQ ที่ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติชื่นชอบก็มีอยู่หลายแห่งเลยทีเดียว
แต่หากนับเฉพาะในศูนย์การค้า ก็จะมีสยามเซ็นเตอร์, สยามพารากอน, สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม ที่จะมีการจัดสารพัดอิเวนต์ที่ยิ่งใหญ่ จนกลายเป็นอีกหนึ่งจุดศูนย์กลางการรวมตัวของกลุ่ม LGBTQ
โดยทั้ง 4 ศูนย์การค้านั้นมีเจ้าของคนเดียวกัน นั่นคือ “สยามพิวรรธน์”
หากมองให้ลึก การผนึกกำลังพันธมิตรหลายภาคส่วน ร่วมจัดงาน Pride Month อย่างยิ่งใหญ่ในหลายศูนย์การค้าของตัวเองของ “สยามพิวรรธน์” ไม่ใช่แค่มีผลดีต่อรายได้และจำนวนลูกค้าที่มาเยือนในศูนย์การค้าเพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจไทย อย่างคาดไม่ถึง
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
รู้หรือไม่ว่า หนึ่งในแนวคิดการดำเนินธุรกิจของ “สยามพิวรรธน์” คือการเป็น “แพลตฟอร์มแห่งโอกาส” ที่เปิดกว้าง เพราะไม่ว่าคุณจะอยู่ในเพศสภาพไหน อายุเท่าไร แต่ทุก ๆ คนจะอยู่บนพื้นฐานเดียวกัน นั่นคือความ “เท่าเทียม”
พอมีแนวคิดแบบนี้ทำให้ตลอดเวลาที่ผ่านมา บริษัทจะมีนโยบายและกิจกรรมต่าง ๆ มากมายที่แสดงจุดยืนถึงการยอมรับในความแตกต่างอย่างเท่าเทียม ที่จะไม่แบ่งเพศ อายุ เชื้อชาติ
ความน่าสนใจคือแนวคิดนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การบริหารในองค์กร แต่ยังขยายมายังศูนย์การค้าต่าง ๆ ผ่านกิจกรรมและแคมเปญมากมาย หนึ่งในนั้นคือการสร้างปรากฏการณ์ Pride Festival ระดับโลกผ่านรูปแบบสารพัดอิเวนต์ในศูนย์การค้าของตัวเอง
ทำให้กลุ่มวันสยาม ที่มีทั้ง สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ ไอคอนสยาม ไอซีเอส ที่รวมกันเป็นหนึ่งจัดงาน Bangkok Pride Festival ในวันที่ 1 มิถุนายน 2025 ที่ผ่านมา โดยมีทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติร่วมงานกว่า 3 แสนคน
- สยามเซ็นเตอร์ปีนี้จะมีแบรนด์พันธมิตรและร้านค้าชื่อดังมากมายร่วมมือกันจัดกิจกรรมมากมายตลอดเดือนมิถุนายน
- สยามพารากอน มีงาน Drag Bangkok Festival 2025 ที่เต็มไปด้วยสีสันความอลังการ ดึงดูดสายตานักท่องเที่ยวทั่วโลก
- สยามดิสคัฟเวอรี่ ร่วมกับแบรนด์ชั้นนำ นำเสนอคอลเลกชันพิเศษสำหรับเดือน Pride Month ด้วยแฟชั่นที่แสดงถึงการมีส่วนร่วมในเฟสติวัลระดับโลก
- ไอคอนสยาม มีแคมเปญ “ICONSIAM PRIDE OUT LOUDER 2025” ที่จะมาพร้อมกิจกรรมสนุก ๆ มากมายที่สะท้อนถึงความเท่าเทียมทางเพศ
เรื่องนี้หากมองในเชิงเศรษฐศาสตร์ ผลประโยชน์ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ศูนย์การค้าในเครือ “สยามพิวรรธน์” แต่ยังสร้างโอกาสมากมายในการสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทย
เพราะกลุ่มประชากร LGBTQ ถือเป็นกลุ่มที่มีอำนาจในการซื้อสูง โดยกลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ล้ำ ๆ ทำให้เป็นที่ต้องการของบริษัทชั้นนำมากมาย ส่งผลให้มีรายได้เฉลี่ยสูงกว่าคนทั่วไป อีกทั้งยังมีรสนิยมในการใช้ชีวิต ยอมจ่ายแพงเพื่อแลกกับคุณภาพชีวิตที่ดีเพื่อสะท้อนความเป็นตัวเองที่แตกต่างและโดดเด่นกว่าคนอื่นผ่านไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ เช่น การทานอาหาร, แฟชั่น, ความงาม, การท่องเที่ยว เป็นต้น
ลองคิดดูว่าเมื่อกลุ่ม LGBTQ มารวมตัวกันในอิเวนต์ต่าง ๆ ที่จัดขึ้นในช่วง Pride Month ในศูนย์การค้าของ สยามพิวรรธน์ ที่เต็มไปด้วย Luxury Retail, ร้านอาหารชื่อดังมากมาย, แบรนด์แฟชั่นยอดฮิต จนถึงยังมีโครงการต่าง ๆ ที่จะเปิดพื้นที่สนับสนุนสินค้าท้องถิ่นและศิลปินไทยในเวทีระดับโลก
สิ่งเหล่านี้จะกระตุ้นการใช้จ่าย สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทย
ขณะเดียวกันในแต่ละปีประเทศไทยมีนักท่องเที่ยว LGBTQ ทั่วโลกปีละกว่า 4 ล้านคนต่อปี ที่สร้างรายได้ให้ประเทศราว ๆ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 65,590 ล้านบาทต่อปี
แน่นอนว่าจะต้องมีนักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งมาเฉลิมฉลอง Pride Month ในประเทศไทย พร้อมกับมาเยือนงานอิเวนต์ต่าง ๆ ที่ทาง สยามพิวรรธน์ จัดขึ้นในศูนย์การค้าของตัวเอง
ผลลัพธ์ที่ตามมา นอกจากร้านค้าต่าง ๆ ที่อยู่ในพื้นที่ศูนย์การค้าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นแล้วนั้น อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวก็ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้เหมือนกัน
อย่าลืมว่านักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไม่ได้มาเฉลิมฉลองเทศกาล Pride Festival อย่างเดียว เพราะพวกเขายังเลือกที่จะไปสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ในประเทศไทย
สิ่งที่ตามมาคือการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวผ่าน โรงแรมที่พัก, ร้านอาหาร, การโดยสาร, ช็อปปิงสินค้าต่าง ๆ ตั้งแต่ร้านข้างทางจนถึงศูนย์การค้าหรู
ส่งผลให้ธุรกิจเหล่านี้ตั้งแต่สเกลเล็กจนถึงขนาดใหญ่มีรายได้ที่เพิ่มขึ้น สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอย่างทั่วถึง และอาจส่งผลให้มีอัตราการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น
ปรากฏการณ์ Pride Festival ระดับโลกของ “สยามพิวรรธน์” จึงไม่ใช่แค่อิเวนต์ที่สร้างประโยชน์ให้แก่ศูนย์การค้าอย่างเดียว แต่ยังเป็นเสมือนฟันเฟืองชิ้นเล็ก ๆ ที่ช่วยสร้างการขับเคลื่อนในระบบเศรษฐกิจไทย อย่างที่เราเองอาจคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ..
การที่ “สยามพิวรรธน์” สนับสนุนและจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสื่อสารถึงความเท่าเทียมในกลุ่ม LGBTQIA+ ทำให้ล่าสุดเป็นศูนย์การค้ากลุ่มเดียวที่ได้รับรางวัล Corporate Pride Value of Business Campaign ในงาน Bangkok Pride Awards 2025 ที่จัดเป็นครั้งแรกในปี 2025 เพื่อยกย่ององค์กรที่ให้ความสำคัญกับความหลากหลายและความเท่าเทียม
Tag: สยามพิวรรธน์
