ฮิวแมนซอฟท์ x ลงทุนแมน

ปัจจุบัน AI เข้ามามีบทบาทสำคัญในแทบทุกมิติของสังคม ด้วยศักยภาพในการเพิ่มความสะดวก ความรวดเร็ว และประสิทธิภาพในการทำงาน จึงกลายเป็นเครื่องมือที่มนุษย์นำมาใช้เพื่อแบ่งเบาภาระงานต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิผล ไม่เพียงแค่ช่วยลดภาระงานซ้ำซ้อนเท่านั้น แต่ยังช่วยยกระดับคุณภาพของงานให้มีความแม่นยำมากขึ้น ลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น และเพิ่มความสามารถในการตัดสินใจเชิงข้อมูลได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้องค์กรสามารถทำงานได้อย่างคล่องตัวในยุคที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว

อนาคต AI จะเข้ามาแทนที่ “มนุษย์” ในบริบทของการทำงานหรือไม่ ?

แม้ว่าเทคโนโลยีจะก้าวหน้าไปไกลเพียงใด และมีศักยภาพในการสนับสนุนการทำงานของมนุษย์ได้แค่ไหน หรือหลายงานอาจถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติและ AI ไปแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมี “ทักษะของมนุษย์” บางอย่างที่เทคโนโลยีไม่สามารถทดแทนได้อย่างแท้จริง เพราะทักษะเหล่านี้ต้องอาศัยความเข้าใจบริบท ความเห็นอกเห็นใจ สัญชาตญาณ และความรู้สึกเชิงลึกที่เกิดจากประสบการณ์และความเป็นมนุษย์โดยธรรมชาติ ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือจุดแข็งสำคัญที่ยังทำให้มนุษย์ได้เปรียบ AI ในหลายมิติของการทำงาน และต่อไปนี้คือ 8 ทักษะของมนุษย์ที่ AI ไม่สามารถแทนที่ได้

แม้ว่า AI จะสามารถตัดสินใจได้อย่างเที่ยงตรงและแม่นยำจากระบบที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล แต่เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่มีความซับซ้อนสูง โดยเฉพาะการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับศีลธรรม จริยธรรม ความเสี่ยง หรือประเด็นที่มีความละเอียดอ่อนซึ่งต้องอาศัยสัญชาตญาณ ความเข้าใจเชิงลึก และการพิจารณาอย่างรอบด้านของมนุษย์ ก็ยังถือเป็นข้อจำกัดสำคัญที่ AI ไม่สามารถทดแทนได้

เพราะมนุษย์มีความรู้สึกนึกคิด และสามารถเข้าใจอารมณ์ของตนเองรวมถึงผู้อื่นได้ จึงเป็นทักษะสำคัญอย่างยิ่งในการทำงานร่วมกับผู้อื่นในสังคมหรือองค์กร นอกจากนี้มนุษย์ยังมีความฉลาดทางอารมณ์ ที่ช่วยให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างยืดหยุ่นและเหมาะสม ซึ่งเป็นสิ่งที่ AI ยังไม่สามารถเรียนรู้หรือเลียนแบบได้อย่างแท้จริง

AI ถูกออกแบบให้ทำงานได้อย่างก้าวล้ำ สามารถเอื้อประโยชน์ให้กับมนุษย์ได้อย่างหลากหลายมิติ แต่การใช้งานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดยังคงต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ วิจารณญาณ และการวางกลยุทธ์จากมนุษย์ เพื่อดึงศักยภาพของ AI ออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่และสอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กรหรือสังคมโดยรวม

การทำงานร่วมกับหมู่มากจำเป็นต้องอาศัยทั้งความเข้าใจ การปรับตัว และการสื่อสารอย่างเหมาะสมกับบริบทของแต่ละสถานการณ์ ไม่ใช่เพียงแค่การแบ่งหน้าที่รับผิดชอบเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสนับสนุนซึ่งกันและกัน การรับฟังความคิดเห็น และการร่วมมือกันแก้ไขปัญหา เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและเกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดร่วมกัน

กระบวนการสื่อสารที่ดีไม่ใช่เพียงการถ่ายทอดข้อเท็จจริงอย่างถูกต้องเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยศิลปะในการสื่อสารที่ผสมผสานทั้งเหตุผลและอารมณ์ ความเข้าใจในความรู้สึกของผู้อื่น รวมถึงความคิดเชิงลึกของมนุษย์ ซึ่งล้วนมีบทบาทสำคัญในการทำให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพ และสามารถสร้างความเข้าใจที่แท้จริงระหว่างกันได้มากยิ่งขึ้น

ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว คนที่สามารถอยู่รอดและเติบโตได้ ไม่ใช่เพียงแค่คนที่มีความเก่งหรือความรู้เท่านั้น แต่คือผู้ที่มีความยืดหยุ่นทางความคิด และเปิดรับการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ วิธีการทำงาน หรือเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ จึงกลายเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน

ทักษะความเป็นผู้นำไม่ได้หมายถึงแค่การสั่งงานหรือควบคุมทีมเท่านั้น แต่คือความสามารถในการสร้างแรงบันดาลใจ สร้างทีมที่แข็งแกร่ง และนำพาทุกคนไปสู่เป้าหมายร่วมกันอย่างมีพลัง ผู้นำที่ดีต้องมีความเข้าใจคนในทีมอย่างลึกซึ้ง มองเห็นจุดแข็งของแต่ละคน พร้อมทั้งสนับสนุนและพัฒนาเขาให้เติบโตไปด้วยกัน ซึ่งเป็นความสามารถที่ต้องอาศัยทั้งอารมณ์ สัญชาตญาณ และความเข้าใจในมนุษย์อย่างแท้จริง

ในการเจรจาต่อรอง ความสำเร็จไม่ได้อยู่ที่การเอาชนะอีกฝ่ายเท่านั้น แต่คือการหาทางออกที่ทุกฝ่ายยอมรับและพึงพอใจร่วมกัน การเจรจาที่มีประสิทธิภาพต้องอาศัยการอ่านสถานการณ์อย่างแม่นยำ การเข้าใจมุมมองและจุดยืนของคู่เจรจา รวมถึงการใช้ถ้อยคำ น้ำเสียง สีหน้า หรือท่าทางอย่างเหมาะสม ซึ่งล้วนเป็นศิลปะที่ซับซ้อนและต้องอาศัยความละเอียดอ่อน ถือเป็นสิ่งที่มนุษย์ยังคงทำได้ดีกว่า AI อย่างชัดเจน

แม้ว่า AI จะเข้ามามีบทบาทในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของมนุษย์ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมาแทนที่มนุษย์โดยสิ้นเชิง ดังนั้นในโลกการทำงานยุคใหม่ มนุษย์จึงจำเป็นต้องพัฒนาทักษะที่หลากหลายควบคู่ไปกับการรู้จักใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และดึงศักยภาพของทั้งคนและเทคโนโลยีมาเสริมกันได้อย่างลงตัว