DSK Clinic x ลงทุนแมน

เทรนด์การดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กรุ่นใหม่ กำลังเป็นเครื่องยนต์สำคัญที่ทำให้ “ธุรกิจคลินิกความงาม” เป็นหนึ่งในธุรกิจดาวรุ่ง ที่มีแนวโน้มการเติบโตแบบก้าวกระโดดตลอด 5 ปีที่ผ่านมา

สอดคล้องกับการคาดการณ์ของศูนย์วิจัยกสิกรไทยที่ระบุว่า มูลค่าตลาดธุรกิจศัลยกรรมและเสริมความงามของไทยจะอยู่ที่ 76,500 ล้านบาท โดยเติบโตขึ้น 2.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังการเติบโตของ “ธุรกิจคลินิกความงาม” นั้น มาพร้อมโอกาสและความท้าทาย
จนทำให้สมรภูมิธุรกิจนี้ ไม่ต่างจากทะเลเลือด (Red Ocean) เต็มไปด้วยผู้เล่นหน้าเก่าหน้าใหม่หมุนเวียนเข้ามา แต่ไม่ใช่ทุกรายที่จะสามารถยืนหยัดในสมรภูมินี้ได้อย่างยั่งยืน

ดังนั้น การที่ DSK Clinic คลินิกความงามที่เพิ่งเปิดตัวได้เพียง 6 ปี แต่สามารถเติบโต ขยายสาขาได้ถึง 7 สาขาในเวลาอันรวดเร็ว จนยืนหนึ่งในฐานะคลินิกความงามคุณภาพอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย
จึงเป็นหนึ่งในกรณีศึกษาที่น่าสนใจว่า อะไรคือเคล็ดลับความสำเร็จของ DSK Clinic ภายใต้การนำของหมอปอร์เช่-นพ.สราวุธ เหล่ากิจรุ่งโรจน์

ถ้าพร้อมแล้ว ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง…

ย้อนไปเมื่อ 7 ปีที่แล้ว หมอปอร์เช่ ได้ก่อตั้ง DSK Clinic ขึ้น
โดยคอนเซปต์ของคลินิกที่วางไว้ ต้องบอกว่าแปลกใหม่และแตกต่างจากคลินิกความงามที่มีในตลาดอย่างสิ้นเชิง เพราะทั้งหมด จุดประกายจาก Pain Point ส่วนตัวของหมอปอร์เช่ ตั้งแต่สมัยเรียนอยู่มัธยม

“เวลามีปัญหาสิวแล้วไปใช้บริการคลินิกต่าง ๆ เราจะรู้สึกว่า คลินิกส่วนใหญ่จะเอาบริการหรือโปรโมชันที่มีอยู่เป็นตัวตั้ง แทนที่จะมองถึงโจทย์ สาเหตุ หรือความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าเป็นหลัก

จนทำให้ผมเริ่มตั้งคำถามว่า ทำไมเวลามาใช้บริการคลินิกความงามถึงไม่เหมือนเวลาไปหาคุณหมอรักษาโรคที่โรงพยาบาล ที่ก่อนจะรักษาต้องเริ่มจากการซักประวัติ แล้วไปตรวจอาการเพื่อหาสาเหตุของโรคว่าเป็นอะไร แล้วค่อยรักษา

ดังนั้น ถ้ามีคลินิกความงามที่พร้อมดูแลหรือให้บริการแบบเชิงลึก วิเคราะห์และวางแผนการรักษาด้วยข้อมูลทางการแพทย์จริง ๆ มุ่งเจาะไปที่ปัญหาเฉพาะบุคคล เพื่อนำไปสู่แนวทางการรักษาแบบเฉพาะบุคคลน่าจะดี”

ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อวันหนึ่งหมอปอร์เช่มีไอเดียจะเปิดคลินิกความงามของตัวเอง จึงตั้งใจปฏิวัติวงการคลินิกให้ลูกค้าได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ตรงจุดและหายได้จริง ไม่ยัดเยียด เน้นคุณภาพในการรักษาและบริการ เพื่อให้คนไข้ได้รับประสบการณ์ที่ดี

“แต่อย่างที่บอกว่า ตลาดคลินิกความงามตั้งแต่ในยุคนั้นเน้นแข่งกันที่ราคาและโปรโมชัน
ด้วยคอนเซปต์ของเราที่ต้องบอกว่าเป็นเรื่องใหม่สำหรับตลาด ยิ่งเปิดให้บริการสาขาแรกที่นครปฐม ซึ่งเป็นตลาดที่เล็กกว่ากรุงเทพฯ ทำให้ช่วง 2 ปีแรก ผลตอบรับไม่เป็นอย่างที่ตั้งใจ แต่เราไม่ท้อ

เพราะเชื่อใน Core Value เลยตัดสินใจมาเปิดสาขาแรกที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่กว่า และหันมาโฟกัสที่การแก้ปัญหาหลุมสิว ซึ่งเป็นปัญหาของลูกค้าส่วนใหญ่ และยังไม่ได้มีคลินิกความงามที่มาโฟกัสด้านนี้โดยตรง เลยสามารถคว้าช่องว่างของตลาด มาสร้างจุดเด่นและจุดต่างให้คลินิก ก่อนจะขยายมาสู่บริการอื่น ๆ”

ปัจจุบัน DSK Clinic มี 3 โฟกัสการรักษา ได้แก่
- Acne Scar รักษาหลุมสิว
- Filler and Lifting ยกกระชับ ฟิลเลอร์ และปรับรูปหน้า
- Skin Quality คุณภาพผิว

หมอปอร์เช่ บอกว่า เมื่อ​ Core Value ของธุรกิจตอบโจทย์ในสิ่งที่ลูกค้ามองหา​ ส่งผลให้ DSK Clinic เติบโตแบบก้าวกระโดด ทั้งรายได้ที่เติบโตปีละ 2-3 เท่า รวมถึงการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ

ดังนั้น ถ้าถามว่าอะไรคือเคล็ดลับเบื้องหลังความสำเร็จในตลาด Red Ocean
หมอปอร์เช่ สรุปเป็น 3 จุดแข็งหลัก + 1 แต้มต่อสำคัญ

ข้อแรก “หมอเก่ง…และจริงใจ”

การคัดเลือกทีมแพทย์ที่ไม่ได้มีแค่ความเชี่ยวชาญ แต่ยังมี “หัวใจ” ของการเป็นผู้รักษาที่ต้องการให้คนไข้หายจริง

การเลือกทีมแพทย์อย่างเข้มข้น ที่ต้องผ่านมาตรฐานและการสัมภาษณ์ของหมอปอร์เช่
ที่ไม่ได้มองหาเพียงแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังที่มีความรู้ความสามารถ แต่ต้องผ่านการสอบทักษะที่จำเป็น และมีหัวใจความเป็นหมอ

“ผมมองว่าการทำคลินิกความงาม ก็เหมือนกับการทำร้านอาหาร
จุดแข็งคือ อาหารต้องอร่อย บริการต้องดี บรรยากาศร้านก็ต้องใช่

ดังนั้น ทุกสาขาของเราจะออกแบบให้มีคอนเซปต์ที่แตกต่าง เน้นมอบประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า
ในส่วนของการรักษาและบริการ ต้องรักษาหายจริง แก้ปัญหาได้จริง
ซึ่งการจะไปถึงจุดนั้นได้ ต้องเริ่มจากการมีทีมแพทย์ที่มีคุณภาพ

เราจึงให้ความสำคัญกับการเลือกแพทย์ ที่แค่เก่งไม่พอ แต่ต้องพร้อมเรียนรู้และอัปเดตข้อมูลจากทั่วโลกเสมอ
ที่สำคัญคือ มีความจริงใจ และจะรู้สึกไม่สบายใจ ถ้าลูกค้าไม่ได้รับผลลัพธ์ที่ดีกลับไป
ผมเชื่อว่าถ้าเรามีทีมแพทย์แบบนี้อยู่ในทีม เราจะไม่ทำให้คนไข้ที่มาใช้บริการผิดหวัง”

สอง “เครื่องมือครบครัน...ระดับ Gold Standard”

ต่อให้แพทย์เก่งแค่ไหน ก็ต้องอาศัยเครื่องมือที่ดี DSK Clinic จึงสรรหาเครื่องมือมาตรฐานระดับโลกครบครัน เพื่อให้สามารถเลือกเครื่องมือการรักษาได้อย่างเหมาะสมและดีที่สุด สำหรับเคสนั้น ๆ

หนึ่งในจุดแข็งของ DSK Clinic คือ การยกระดับการรักษาแบบ Gold Standard ด้วยเครื่องมือมาตรฐาน USFDA ที่แพทย์ผิวหนังทั่วโลกเลือกใช้ รองรับทุกปัญหาผิว เพื่อผลลัพธ์ที่เหมาะสมสำหรับทุกคน เชื่อมโยงกับการที่แพทย์สามารถเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละปัญหาผิว

สาม “Customization...ด้วยเทคนิคเฉพาะ”

เพราะเชื่อว่าผิวหน้าและปัญหาของแต่ละคนแตกต่างกัน ต่อให้เป็นปัญหาแบบเดียวกัน ต้นตอของปัญหาก็อาจจะไม่เหมือนกัน

ดังนั้น เครื่องมืออย่างเดียวอาจให้ผลลัพธ์ที่ต่างกัน จึงต้องอาศัยการผสมผสานเทคนิคการรักษาที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีและต่อเนื่อง จนเป็นเอกลักษณ์ของ DSK Clinic

ด้วย 3 จุดแข็งนี้เอง ทำให้ตลอด​ 7 ปีที่ผ่านมา DSK Clinic เติบโตอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่ง ท่ามกลางตลาดความงาม ที่ไม่เพียงมีการแข่งขันที่สูงมาตลอด แต่ปัจจุบันยิ่งทวีความท้าทาย ด้วยจำนวนคู่แข่ง และความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป ไม่ได้มองหาแค่ผลลัพธ์ แต่มองลึกไปถึง​ประสบการณ์​ที่ดี

“ยิ่งธุรกิจแข่งขันสูง ยิ่งต้องมอบความคุ้มค่า เราอาจจะไม่ใช่คลินิกความงามที่ให้บริการในราคาถูกที่สุด
แต่เราพัฒนาเรื่องประสบการณ์และความคุ้มค่าในสิ่งที่ลูกค้าจ่าย

วันนี้เราไม่ได้ตั้งเป้าว่าอยากเป็นคลินิกความงามที่มี 100 สาขา เพราะถ้าจะขยาย เราต้องมั่นใจว่าเรามีทีมแพทย์ ทีมงาน และเครื่องมือที่พร้อม ตอบโจทย์กับ Core Value เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ลูกค้า ไม่ว่าจะไปใช้บริการ DSK Clinic สาขาไหน ต้องมี DNA และมาตรฐานเดียวกัน”

นอกจาก 3 จุดแข็งสำคัญ อีกหนึ่งแต้มต่อที่มาเป็นตัวคูณให้ DSK Clinic เติบโตแบบก้าวกระโดดคือ การมีพาร์ตเนอร์ระดับโลกอย่าง Merz Aesthetics

บริษัทความงามที่ให้ความสำคัญกับเรื่องการวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ ๆ
มีการอัปเดตความรู้จากทุกมุมโลก มีเครือข่ายแพทย์ต่างประเทศ มาแบ่งปันความรู้ดี ๆ ให้คลินิกอย่างสม่ำเสมอ

สำหรับเป้าหมายในอนาคต หมอปอร์เช่ เชื่อว่า DSK Clinic ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก และเชื่อว่า ท่ามกลางการเติบโตของภาพรวมตลาด จะทำให้ผู้เล่นที่ไม่มี Core Strength ค่อย ๆ หายไปจากตลาด

“จากนี้ DSK Clinic ยังมีแผนจะขยายสาขาต่อเนื่อง เพื่อไปตอบรับกับดีมานด์ในจุดที่เรายังไปไม่ถึง
และอาจจะขยายไปสู่บริการอื่น ๆ ​เช่น ศัลยกรรม การรักษาผม รวมถึงเข้าไปเจาะตลาดใหม่ ๆ จากเดิมที่อยู่ในเซกเมนต์พรีเมียมแมส อาจจะไปเล่นในตลาดที่มีดีมานด์และอยากได้ของดี ในราคาที่เข้าถึงง่าย
ผมเชื่อว่าด้วยกลยุทธ์ที่มาถูกต้อง จะทำให้ DSK Clinic เป็นคลินิกความงามที่มีรายได้แตะ 1,000 ล้านบาท ภายใน 3-4 ปีอย่างแน่นอน”

ทั้งหมดนี้คือ สูตรลับในการปั้นธุรกิจของ DSK Clinic ที่ต้องบอกว่าน่าสนใจ
และไม่แปลกใจเลยว่า ทำไม DSK Clinic ถึงยืนหยัดในสมรภูมิคลินิกความงามที่ไม่ต่างจากทะเลเลือด

สำหรับใครที่สนใจอยากจะเปิดประสบการณ์ในการดูแลความงามกับ DSK Clinic
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : DSK Clinic หรือ Instagram : dsk.clinic หรือ LINE : @dskinclinic

References
- สัมภาษณ์ นพ.สราวุธ เหล่ากิจรุ่งโรจน์ ผู้ก่อตั้ง DSK Clinic โดยเพจลงทุนแมน
- https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1168860