CEO ของ Google ยืนยัน AI ทำให้ธุรกิจ Search และ Cloud ของบริษัท เติบโตขึ้น /โดย ลงทุนแมน
ท่ามกลางความกังวลเรื่องการแข่งขันด้าน AI ที่อาจทำให้ Google อ่อนแอลง เพราะพฤติกรรมของคนที่หันไปถาม AI Chatbot แทนการ Search มากขึ้น ซึ่งตรงนี้ถือเป็นรายได้หลักของ Google ที่ทำเงินปีละล้านล้านบาท

แต่สุดท้ายแล้ว ดูเหมือนว่า AI จะกลับทำให้ Google แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมเสียอีก..

ซึ่งคุณ Sundar Pichai, CEO ของ Alphabet เผยว่า AI กำลังส่งผลดีต่อทุกภาคส่วนธุรกิจของบริษัท และเป็นแรงผลักดันให้เกิดโมเมนตัมที่แข็งแกร่ง โดยธุรกิจ Search มีรายได้เติบโตในระดับสองหลัก

เทคโนโลยี AI อย่าง Gemini และฟีเจอร์ AI Overviews กำลังช่วยผลักดันให้ “ผู้ใช้งานมีพฤติกรรมค้นหามากขึ้น ไม่ใช่น้อยลง”

โดย AI มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มปริมาณการค้นหา (Queries) บนแพลตฟอร์มของ Google
และ AI กำลังกลายเป็นจุดขายในระบบ Search ของ Google

สะท้อนได้จากผลประกอบการไตรมาสล่าสุด (เม.ย. - มิ.ย. 2025) ที่ Alphabet บริษัทแม่ของ Google รายงานออกมา ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ทั้งรายได้และกำไรสุทธิ

- รายได้ 3,100,200 ล้านบาท เติบโตขึ้น 14%
- กำไร 906,500 ล้านบาท เติบโตขึ้น 19%

การเติบโตนี้ ได้รับแรงหนุนจากฟีเจอร์ AI ใหม่ ๆ, ตลาดโฆษณาดิจิทัลที่ยังคงแข็งแกร่ง, รายได้โฆษณาและค่าสมาชิกของ YouTube ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงความต้องการบริการ Cloud ที่มากขึ้น

บริษัทมีรายได้จาก
- Google Search & other : 1,742,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12%

- YouTube ads : 314,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13%

- Google subscriptions, platforms and devices : 360,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20%

- Google Cloud : 438,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% ซึ่งได้รับแรงขับเคลื่อนจากผลิตภัณฑ์หลักของ Google Cloud Platform (GCP), โครงสร้างพื้นฐานด้าน AI และโซลูชัน Generative AI

ตอนนี้ AI Overviews ซึ่งเป็นฟีเจอร์สรุปผลการค้นหาด้วย AI ของ Google
มีผู้ใช้งานมากกว่า 2,000 ล้านคนต่อเดือน ในกว่า 200 ประเทศ เพิ่มขึ้นจาก 1,500 ล้านคนในไตรมาสก่อน

ส่วน Gemini ซึ่งเป็น AI Chatbot ของ Google มีผู้ใช้งานมากกว่า 450 ล้านคนต่อเดือนแล้ว

ด้วยความสำเร็จนี้ ทำให้บริษัทประกาศเพิ่มงบลงทุน (Capital Expenditures) สำหรับปี 2025 ขึ้นอีก 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3.2 แสนล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI

จากเดิมที่เคยบอกว่าจะลงทุน 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.4 ล้านล้านบาท
ล่าสุดได้ปรับเพิ่มเป็น 85,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.7 ล้านล้านบาท..